สุดรันทด! ยากจนแท้ หลานชายออกจากโรงเรียนมาดูแลยายป่วยอัมพาต ตาไม่มีแรงทำงาน

สกลนคร - พบครอบครัวสุดรันทด ตา-ยายวัย 65 ปีอยู่กับหลาน มีเงินแค่เบี้ยยังชีพและเบี้ยพิการคนละ 1,500 คนเลี้ยงชีวิต ขณะที่ลูกขาดการติดต่อ ซ้ำยายป่วยอัมพาตมากว่า 10 ปี จนหลานชายต้องออกจากโรงเรียนมาช่วยดูแล วอนผู้ใจบุญให้การช่วยเหลือ

วันนี้ (20 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สกลนคร ว่าได้รับแจ้งจากชาวบ้านโนนสำราญ หมู่ 12 ต.สว่าง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ว่ามีครอบครัวสองตายาย ฐานะยากจน ภรรยาป่วยเป็นอัมพาต หลานชายต้องออกจากโรงเรียนมาดูแล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 67 โนนสำราญ หมู่ 12 ต.สว่าง พบนายสุดี และนางมิตร ช่างคำ อายุ 65 ปีเท่ากัน โดยนางมิตรป่วยเป็นอัมพาต ต้องนอนที่บ้านมานานกว่า 10 ปีแล้ว มีนายอิทธิฤทธิ์ ดรุณเรืองศรี อายุ 15 ปี หลานชาย ที่ต้องลาออกจากการเรียนชั้น ม.3 เพราะครอบครัวยากจน มีรายได้เพียงเบี้ยยังชีพคนชราของตายาย และเบี้ยคนพิการประมาณ 1,500 บาทต่อเดือนเท่านั้นไว้ใช้จ่าย

นายสุดีกล่าวว่า แต่งงานอยู่กินกับนางมิตรมากว่า 30 ปี มีลูก 6 คน ชาย 4 คน หญิง 2 คน แต่ด้วยความยากจนทำให้ลูกต่างแยกย้ายไปทำงานต่างถิ่น มีครอบครัวใหม่ จนลูกสาวคนโตแต่งงานมีลูกชาย 1 คน คือ นายอิทธิฤทธิ์ อยู่กับตายายตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เนื่องจากพ่อกับแม่ไปทำงานต่างจังหวัด จนผ่านไปกว่า 10 ปีแล้ว ลูกทั้ง 6 คนไม่ติดต่อกลับมาเลย ตนและภรรยาต้องอยู่กับหลานตามมีตามเกิด ภรรยาก็มาป่วยเป็นอัมพาต เดินไม่ได้ ต้องนอนอยู่ในบ้านมานานนับ 10 ปี นอนกิน ขับถ่ายอยู่กับที่ มีหลานชายคอยช่วยเหลือดูแลหาข้าวให้กิน

“ทุกวันนี้มีรายได้เพียงเบี้ยยังชีพและเบี้ยผู้พิการ รวมเดือนละประมาณ 1,500 บาทพอประทังชีวิต ซื้อข้าวกิน ซื้อยารักษาโรคเท่านั้น ทำให้หลานชายต้องหยุดเรียนกลางคันแค่ชั้น ม.3 อยากวิงวอนผู้ใจบุญช่วยหลานชาย เพราะอยากให้หลานชายได้รับการศึกษา มีอนาคต เพราะโดยนิสัยเป็นเด็กดี ดูแลยายทุกอย่าง จึงอยากให้หลานมีอนาคตที่ดีเมื่อตากับยายเสียชีวิตไปแล้ว”

ด้านนางเพลินใจ ศรีสุทัศน์ อายุ 36 ปี เพื่อนบ้านที่คอยช่วยเหลือ กล่าวว่า ครอบครัวนี้น่าสงสารมาก มีลูกหลายคน แต่ความยากจนทำให้ต้องแยกย้ายกันไปทำงานต่างถิ่น ขาดการติดต่อ สองตายายต้องอยู่กับหลานชายที่อาศัยเพียงรายได้จากการรับจ้าง เมื่อยายมิตรป่วยเป็นอัมพาตทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม บางวันต้องอาศัยข้าวเพื่อนบ้านกิน ล่าสุดตาสุดีก็มีอาการเจ็บป่วยจากโรคชรา ปวดตามร่างกาย ไม่สามารถทำงานรับจ้างได้ ต้องฝากชีวิตไว้กับหลานชาย อยากให้ผู้ใจบุญช่วยเหลือ เพราะห่วงอนาคตหลานชายของคุณตาคุณยาย

นายอุดร แพงทรัพย์ อายุ 52 ปี นายกเทศมนตรีตำบลบัวสว่าง อ.พรรณานิคม กล่าวว่า เทศบาลได้จัดอาสาสมัครสาธารณสุขไปดูแลเรื่องเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยคนพิการ แต่ไม่เพียงพอ จึงได้ประสานไปยังทางหน่วยงานเกี่ยวข้อง หากเป็นไปด้วยอยากให้ผู้ใจบุญช่วยกันบริจาคสิ่งของ รวมถึงทุนการศึกษา

“เบื้องต้นเทศบาลตำบลบัวสว่างได้เปิดบัญชีเพื่อรับบริจาค เป็นบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาอำเภอพรรณานิคม ชื่อบัญชีนายสุดี ช่างคำ เลขที่ 01-137-2-93287-9 หรือบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาอำเภออากาศอำนวย ชื่อบัญชีช่วยเหลือนายสุดี ช่างคำ เลขที่ 444-0-38118-9 หรือสอบถามได้ที่โทร. 08-0742-6364"