“อภิสิทธิ์” ชี้เรื่องดี “ปู” สั่ง “ปึ้ง” สอบแถลงการณ์ปั๊มเขมร แนะย้อนไปถึงที่มาเอ็มโอยู ปี 44 ซัดเพื่อนบ้านใส่ร้ายสมัยตน จี้จับตาเสนอประโยชน์อะไรให้กันหรือไม่ แนะเคลียร์ปัญหาเขตแดนทางบกให้ชัด อ้างสมัยเป็นรัฐไม่ยกเลิกเพราะกำลังศึกษาอยู่
วันนี้ (2 ก.ย.) ที่ท่าอากาศยานพิษณุโลก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ตรวจสอบแถลงการณ์แถลงการณ์ของฝ่ายกัมพูชา ที่มีการระบุถึงการเจรจาลับระหว่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กับนายซก อาน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในเรื่องพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชาว่า เป็นเรื่องที่ดีและอยากให้มีการตรวจสอบในรัฐบาลที่แล้วที่ได้เข้าไปดูในกรอบของเรื่องดังกล่าว เพราะกรอบของเรื่องนี้มีเอ็มโอยู 2544 อยู่ และได้แขวนไว้ จากนั้นได้มอบหมายให้นายสุเทพไปดำเนินการร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อส่งเรื่องให้สภาพิจารณาเห็นชอบ แต่เกิดปัญหาข้อมูลที่ไม่ตรงกัน เลยต้องยุติไป โดยเฉพาะในช่วงที่กัมพูชาตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้าย เป็นที่ปรึกษา อีกทั้งเอ็มโอยูฉบับดังกล่าว มีปัญหาเรื่องการขีดเส้นรุกแดนเข้ามา แต่หากจะสอบก็ให้สอบย้อนกลับไปถึงปี 2544 ว่าที่มาของข้อตกลงของปัญหาที่แขวนไว้เป็นอย่างไรแล้วจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร
นายอภิสิทธิ์ยังได้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า แถลงการณ์ของการปิโตรเลียมแห่งชาติกัมพูชา พยายามที่จะพูดถึงรัฐบาลชุดที่แล้วในทางลบทั้งหมด และหากรัฐบาลที่แล้วไปเอื้อประโยชน์ให้กัมพูชา กัมพูชาจะพูดเช่นนั้นทำไม และขอให้จับตาดูรัฐบาลนี้ เพราะดูเหมือนกัมพูชาจะนิยมชมชอบเป็นพิเศษ หรือเป็นเพราะจะไปเสนอประโยชน์อะไรให้กันหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า กัมพูชาต้องการทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลที่แล้วเพื่อสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลนี้ในการเจรจา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การเจรจาจะมีหรือไม่ รัฐบาลนี้จะต้องตัดสินใจและจะต้องชี้แจงว่าที่จะย้อนกลับไปในข้อตกลงเดิมนั้น หรือตั้งต้นทำกรอบเจรจาใหม่ เพื่อให้เป็นความเป็นธรรมของทั้ง 2 ประเทศ และไม่ขัดกับมุมมองของเราในเรื่องของเขตแดน และรวมไปถึงเรื่องมุมมองของเราเรื่องของเขตแดน ทั้งยังมีปัญหาในเรื่องมรดกโลก ดังนั้นปัญหาเขตแดนทางบกจึงจำเป็นที่จะต้องทำให้ชัดเจน
เมื่อถามย้ำว่า ในแถลงการณ์ของกัมพูชาระบุว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ได้มีการเจรจาในทางลับนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นายสุเทพเองก็ได้ชี้แจงชัดเจนไปหมดแล้ว ตนก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ เพราะถ้าผิดปกติจริงและเราจะไปแขวนเอ็มโอยู 2544 ไว้เพื่ออะไร ขอให้ดูผลที่ออกมาซึ่งชัดเจนอยู่แล้วว่า ไม่มีการเอื้อประโยชน์ คิดว่ารัฐบาลนี้น่าจะต้องเดินหน้าทำงานและหาคำตอบให้ตัวเองมากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในเมื่อเอ็มโอยู 2544 อาจส่งผลทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบในเรื่องเขตแดน แต่เหตุใดรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ไม่ยกเลิกไปเสีย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องที่จะต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมสภา เพราะต้องมีกรอบเจรจาใหม่ที่จะเข้ามาทดแทน และกระทรวงการต่างประเทศกำลังศึกษาอยู่ว่าควรจะเดินต่อไปอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการทำงานกันอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน เรื่องของการเจรจาในอนาคตจะทำอย่างไร เพราะกระทบในเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติที่ทั้งสองประเทศจะต้องร่วมดูว่าจะใช้ร่วมกันอย่างไรด้วย เพียงแต่ว่าการใช้ทรัพยากรนี้จุดยืนในรัฐบาลที่แล้ว คือ ต้องไม่มากระทบต่อการสูญเสียอธิปไตยทางบกหรือทางทะเล ดังนั้น การจะเสนอเข้าสภาคราวที่แล้วยังไม่พร้อมจะต้องไปทบทวนในรายละเอียดที่หลายฝ่ายกำลังทำอยู่ และหากเราหวังประโยชน์แล้วจะแขวนเอ็มโอยู 2544 ไว้ทำไม ไม่อยากให้ทำเป็นการเมืองมากเกินไป