“ยิ่งลักษณ์” โยน “เฉลิม” ดูย้าย ตร.ปัดบีบ “วิเชียร” พ้นเก้าอี้ อ้างตั้งเสื้อแดงนั่งข้าราชการการเมืองตามประสบการณ์ ปัดตอบแทนม็อบ ก่อนชิ่งหนีสื่อ ด้านรองนายกฯ ด้าน ยธ. อ้างโยกย้ายใช้คนให้ถูกงาน โว ผบ.ตร.ใหม่แจงสังคมได้ โยน “ปู” เลือกใครเสียบแทน อ้างไม่ใช่หมอนวดจะได้บีบให้ลาออก เล็งดึง ตชด.ช่วยภูธรปราบยา สั่ง ผบช.น.จับบ่อนพระราม 3 เดี๋ยวนี้ เตือนฝ่ายค้าน “แล้วเธอจะรู้สึก” โว “เพรียวพันธ์” เก่งปราบยา เล็งแก้กฏหมายคืนอาวุธราชการ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (31 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ว่า แล้วแต่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่รับผิดชอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาระบุว่า ถูกบีบให้พ้นจากตำแหน่ง ผบ.ตร.นั้น ไม่มีหรอกคะ ไม่ได้บีบหรอกคะ ท่านก็ทำงานในส่วนของท่าน เมื่อวานเราก็คุยในเรื่องของนโยบายมากกว่าไม่ได้คุยเรื่องตัวบุคคลเลย
ส่วนเสียงวิจารณ์การตั้งแกนนำคนเสื้อแดงเข้ามาดำรงตำแหน่งในรัฐบาล นายกฯ กล่าวว่า รองโฆษกก็ได้แถลงแล้วไม่ใช่หรอคะ ว่า ในแง่ของคุณสมบัติบางท่านก็มีคุณสมบัติที่มีประสบการณ์ ก็ขอให้มองในส่วนของภาพรวมเอง เราก็ไม่ได้มีการแบ่งแยก เราเองก็อยากให้โอกาสทุกคน เมื่อถามว่า เป็นการตอบแทนหรือไม่ นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่หรอกค่ะ เมื่อถามว่า มีแรงกระเพื่อมในพรรคแรงหรือไม่ นายกฯ ไม่ตอบคำถาม และเดินเข้าห้องอาคารรัฐสภาทันที
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการปรับเปลี่ยนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ขอย้ำว่า จะพูดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย จะมอบหมายภารกิจให้ตรงความสามารถของตำรวจแต่ละคน ตนให้ความมั่นใจต่อสังคมไทย ว่า เมื่อรัฐบาลตนมาทำหน้าที่นี้ ตนจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีหน่วยงานพิเศษ ไม่มีหน่วยเฉพาะกิจ เฉพาะเก็บ มีแต่เอาข้าราชการประจำมาใช้งานให้ถูกกับคน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตำแหน่ง ผบ.ตร.ลงตัวแล้วหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่บอกว่าลงตัว แต่ตนจะพยายามปรับเปลี่ยนให้ทุกอย่างดีขึ้น และทุกคนสบายใจ อธิบายต่อสังคมได้ เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวจะให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.มาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตรงนั้นไม่ใช่หน้าที่ของตน เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี รัฐบาลชุดนี้จะบริหารจัดการบุคลากรให้ดีที่สุด จะไม่เพ้อเจ้อใช้อำนาจเลอะเทอะไม่บ้าอำนาจ อย่างที่นักการเมืองทำ
เมื่อถามว่า หากมีโยกย้าย ผบ.ตร.แล้วคนที่จะมารับตำแหน่งจะเป็น ผบ.ตร.หรือรักษาการ ผบ.ตร. ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่พูดว่าโยกย้าย แต่จะปรับคนให้เหมาะสมกับงาน ทุกอย่างเป็นตามกระบวนการ เมื่อถามว่า หาก ผบ.ตร.ไม่ยินยอมให้โยกย้ายคนที่จะมาเป็นแทนต้องรักษาการใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า อย่าไปพูดถึงเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ตนบริหารจัดการได้ ทุกอย่างเรียบร้อย เมื่อถามว่า ที่ระบุว่า จะให้คนให้ถูกกับงานแล้ว พล.ต.อ.วิเชียร เหมาะสมกับตำแหน่งปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนยังไม่ไปถึงขนาดนั้น เพราะไม่ใช่หน้าที่ตน ส่วนมีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า พล.ต.อ.วิเชียร จะออกเองนั้น ก็ขอไม่แสดงความเห็น เพราะไม่ใช่เรื่องที่ตนสามารถพูดได้
เมื่อถามว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร.และพี่ชายคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร จะขึ้นเป็น ผบ.ตร.เลยหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่ทราบ อาจเป็น พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ ซึ่งตนไม่รู้ใจนายกฯ หลายคนเข้าใจผิดในเรื่อง คณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ (ก.ตช.) กฎหมายเขียนว่า นายกฯเป็นประธานโดยตำแหน่ง ห้ามมอบหมายบุคคลอื่นทำหน้าที่แทน แต่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) นายกฯมอบหมายได้ให้รองนายกฯคนหนึ่งคนใด แต่ต้องมีหนังสือเฉพาะราย และการย้าย ผบ.ตร.โดยไม่ยินยอม สามารถย้ายมาช่วยราชการได้ แต่งตั้งคนรักษาการ หากย้ายโดยยินยอมก็แต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ซึ่งต้องเข้า ก.ตช.โดยนายกฯเป็นประธานรองนายกฯไม่เกี่ยว
เมื่อถามว่า พล.ต.อ.วิเชียร ระบุมีการบีบให้ออกจากตำแหน่ง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ท่านเมื่อยเมื่อไหร่ ถึงมีคนบีบ ไม่มีหรอก คนจะบีบ ท่านต้องเป็นขี้เมื่อย เมื่อถามย้ำว่า ตกลงมีการบีบจริงหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “อ๋อผมไม่ใช่หมอนวด” เมื่อถามว่า จะจัดกรมตำรวจให้คนกับงานเหมาะสมกัน ทำให้ตำรวจกลับมารับใช้คนเหมือนเดิม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า แน่นอน จริงจัง วันศุกร์นี้ตนจะไปตรวจเยี่ยมกองบัญชาตำรวจตระเวนชายแดน จะไปเอากำลังตำรวจตระเวนชายแดนที่มีจำนวนมาก เพื่อเอามาเสริมตำรวจภูธร เรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด มาเสริมนครบาลในเรื่องป้องกันปราบปรามปัญหายาเสพติด จากนั้นวันจันทร์หน้าตนจะเชิญนายตำรวจระดับผู้บังคับการขึ้นไปมารับฟังนโยบายและรับฟังความคิดเห็น และวันศุกร์หน้าเชิญผู้กำกับ 1,459 สถานี มาร่วมประชุมปรึกษาหารือว่าจะทำอย่างไรให้การประชาชนดีขึ้น และจากนั้นจะเชิญนายตำรวจจากกรมตำรวจที่ได้ทุนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปศึกษาปริญญาเอก มานั่งคุยกันว่าทำไมที่ผ่านมาตำรวจถึงแก้ปัญหาประชาชนไม่ได้ และทำไมตำรวจถูกด่าตลอด หลังจากนั้น คิกออฟแคมเปญเรื่องยาเสพติด และจะไปเวิร์กชอบที่ จ.เชียงราย
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า มีบ่อนที่ท่านไม่ได้เปิดเผยอยู่ที่พระราม 3 ชื่อย่อ พ.ต. ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนได้อ่านแล้ว ที่ตนเปิดเผยนั้น คือ มีการเล่นมาเป็น 10 ปี ใครๆ ก็รู้ พวกใหม่ตนรู้ไม่หมด ดังนั้น ให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จัดการบ่อนที่ถนนพระราม 3 ที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาระบุ กรุณาไปจับให้ด้วยเดี๋ยวนี้ ส่วนที่บอกว่าเคยมาเดินตามตนด้วยนั้น ตนรู้จักคนเป็นจำนวนมาก แต่ใครก็ตามไม่มีเอกสิทธิ์ หรืออภิสิทธิ์ใดๆ ที่ตนไม่เอ่ยถึง เพราะบ่อนเปิดใหม่ในระยะปีครึ่งปีนั้น ตนไม่ทราบ เมื่อถามว่า บ่อนที่มีการเปิดมานานมีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า พวกเก็บตังค์
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเตือนว่า อย่าเมามันในอำนาจ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ใครเมามัน ตนนะหรือเมามันในอำนาจ ตนมีอำนาจมาตั้งแต่เด็ก ปี 2519 ตนเป็นอธิบดีตำรวจคนที่ 3 ออกหมายค้นหมายจับได้ทั่วราชอาณาจักรไทย แล้วไม่มีอำนาจเหรอ
“วันนี้เหรอเมามัน ทำอะไรไม่ดีสภาตรวจสอบ สื่อด่า ชาวบ้านระอา และที่ฝ่ายค้านเตรียมตั้งกระทู้นั้น ก็ตั้งมาแล้วตอบไปแล้วจะบอกว่า “เธอจะรู้สึก” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า วันนี้เป็นข่าวดีของสังคมไทย แต่เป็นข่าวร้ายของพวกค้ายาเสพติด เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ตนตนได้เชิญ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ มาปรึกษา ซึ่ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ได้เบาะแสการค้ายาของคนไทยและมาเลเซีย จึงส่ง พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รองผบช.ปส.ไปจับคนร้ายได้ที่ด่านสะเดา จ.สงขลา ได้ยาไอซ์ 45 กก.ซึ่งเรียนแล้วว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เก่งเรื่องปราบปรามยาเสพติด และปราบอาชญากรรมต้อง พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร.
เมื่อถามถึงการกวาดล้างอาวุธสงคราม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนกำลังคิดว่าจะดูเรื่องข้อกฎหมาย จะเปิดโอกาสให้คนที่มีอาวุธสงครามมาคืนราชการได้หรือไม่ แบบที่ประเทศฟิลิปปินส์ เคยทำ แต่เมืองไทยหากคิดอะไรแปลกๆ จะถูกด่าก่อน แต่นี้เป็นแนวคิด แต่ไม่ใช่การนิรโทษเพราะต้องดูกฎหมายก่อน