xs
xsm
sm
md
lg

รวบ “แท็กซี่แสบ” หลอกผู้โดยสารช่วยเข็นรถก่อนซิ่งหนีพร้อมทรัพย์สิน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงจับกุม นายสมปอง นันชัย อายุ 37 ปี  ผู้ต้องหา
ตร.บางโพงพาง จับกุมโชเฟอร์แท็กซี่แสบออกอุบายแกล้งรถเสีย หลอกให้ผู้โดยสารลงไปช่วยเข็นรถ ก่อนซิ่งหนีพร้อมทรัพย์สิน ทั้งโน้ตบุ๊ก ไอโฟน สารภาพก่อเหตุมาหลายครั้งจนเก็บเงินได้กว่า 6 หมื่นบาท อ้างเป็นค่าผ่าตัดแม่ป่วยโรคนิ่วในถุงน้ำดี

วันนี้ (28 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ สน.บางโพงพาง พ.ต.อ.กสิณ ศรีธรรมาสุข ผกก.สน.บางโพงพาง พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุพล นาคสุข รองผกก.สส.สน.บางโพงพาง พ.ต.ท.ศิโรจน์ สิงห์ทอง และ พ.ต.ท.ดุสิต วาลีประโคน สว.สส.สน.บางโพงพาง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวนายสมปอง นันชัย อายุ 37 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ อยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 7 ต.หัวสะพาน อ.หัวสะพาน จ.อำนาจเจริญ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ จ.501 /2554 ลงวันที่ 27 ส.ค.54 ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในยวดยานสาธารณะ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป โดยจับกุมได้ที่ห้องเช่าย่าน ถ.จันทน์ ซอย 43 แยก 11 ก่อนพาตัวไปขยายผลตรวจค้นตามร้านรับซื้ออุปกรณ์มือถือและเครื่องคอมพิวเตอร์มือสองย่านถนนเจริญกรุง สามารถติดตามของกลางเป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 3 เครื่อง โทรศัพท์มือถือไอโฟน 4 สีดำ 2 เครื่อง พระเลี่ยมทอง 1 องค์ เครื่องแปลภาษา 1 เครื่อง อุปกรณ์ชาร์จโทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ และอื่นๆ ซึ่งเป็นของผู้เสียหายกลับมาได้อีก รวม 20 รายการ

พ.ต.อ.กสิณ เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันมีผู้เสียหายหญิงสาวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ จำนวนหลายราย เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า ถูกคนร้ายเป็นโชเฟอร์แท็กซี่สีชมพูที่เรียกโดยสารมาจากสถานที่ต่างๆ ล่อลวงมาก่อเหตุชิงทรัพย์ โดยคนร้ายจะวางแผนทำทีว่ารถเสีย และขอความช่วยเหลือให้ผู้เสียหายลงจากรถไปช่วยเข็น จากนั้นจะติดเครื่องรถขับหลบหนีไปพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระและทรัพย์สินที่ผู้เสียหายยังวางไว้บนรถ

จากแนวทางการสืบสวนทราบว่าคนร้ายมักจะเลือกก่อเหตุในสถานที่ซ้ำๆ กัน คือ ทางลาดลงสะพานยกระดับข้ามแยกสะพานภูมิพล 1 ตัดถนนพระราม 3 ทางลาดลงสะพานข้ามแยกสาธุประดิษฐ์ หน้าห้างเทสโก้โลตัส พระราม 3 และบนถนนพระราม 3 หน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่

“เมื่อนำหลักฐานและคำให้การของผู้เสียหายทุกรายมาปะติดปะต่อกัน เชื่อว่า นายสมปอง ผู้ต้องหารายนี้ซึ่งขับรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีชมพูคาดขาว ทะเบียน ทร 7477 กรุงเทพมหานคร หมายเลขเครื่องวิทยุศูนย์เจริญเมือง 14196 น่าจะเป็นผู้ก่อเหตุจึงได้เดินทางไปเชิญตัวที่ห้องพักมาให้ผู้เสียหายทำการชี้ตัวที่ สน.บางโพงพาง ผลปรากฏว่า ทุกรายจดจำใบหน้าชี้ตัวยืนยันได้อย่างแม่นยำ ชุดจับกุมจึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีก่อนพาตัวไปติดตามของกลางที่ยังหลงเหลือกลับมาคืนให้ผู้เสียหายได้บางส่วน” พ.ต.อ.กสิณ กล่าว

จากการสอบสวน นายสมปอง ให้การรับสารภาพว่า ไม่เคยเสพยา ไม่เคยเล่นการพนัน และยังไม่มีครอบครัว แต่ปัจจุบันเป็นโรคหอบต้องเข้ารักษาตัวที่ รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ ตลอด ส่วนแม่ที่ จ.อำนาจเจริญ ก็เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดโรคนิ่วในถุงน้ำดี ตนกลัวว่า จะไม่มีเงินรักษาทั้งตัวเองและแม่ เลยวางแผนก่อเหตุชิงทรัพย์ผู้โดยสารโดยเลือกที่เป็นผู้หญิงสาวมีกระเป๋าสัมภาระติดตัวมาด้วย จากนั้นจะพาขับผ่านไปบริเวณทางลาดลงสะพานข้ามแยกต่างๆ แล้วแกล้งปล่อยคลัตช์แรงๆ ให้รถกระตุกดับ บางทีหากผู้โดยสารมีมากกว่า 1 คน ก็จะอ้างว่า ถังแก๊สใกล้ระเบิด เพื่อขอแรงให้ช่วยลงไปเข็น ซึ่งตนก็จะทำทีลงจากรถไปเปิดกระโปรงหลังคาไว้ และเดินไปช่วยเข็นบริเวณเสาคานประตูฝั่งคนขับด้วย เมื่อผู้เสียหายหลงกลตนก็จะรีบเปิดประตูรถเพื่อสตาร์ทขับหลบหนีไปทันที

นายสมปอง กล่าวต่อว่า ในระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ก่อเหตุไปแล้ว 8 ราย ระหว่างก่อเหตุทุกครั้งตนก็จะนำสติกเกอร์ไปติดทับเลข 7 ตัวสุดท้ายของทะเบียนรถเอาไว้ด้วย เพื่อป้องกันการถูกติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำหรับทรัพย์สินที่ได้มาหากเป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กจะนำไปขายที่ร้านรับซื้อย่านซอยวัดไผ่เงิน แต่ถ้าเป็นโทรศัพท์มือถือจะนำไปขายที่ร้านย่านสาธุประดิษฐ์ ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ผู้เสียหายมักจะไม่ได้เก็บทองรูปพรรณไว้ในกระเป๋า ตนจึงไม่ค่อยได้ไปใช้บริการที่โรงรับจำนำ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วางแผนก่อเหตุในลักษณะนี้มาตนสามารถเก็บเงินออมทรัพย์ไว้ในบัญชีได้กว่า 60,000 บาทแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้พาตัว นายสมปอง ไปแสดงวิธีการก่อเหตุให้ผู้เสียหายและกลุ่มผู้สื่อข่าวดูก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้หากประชาชนท่านใดสงสัยว่าเคยถูกคนร้ายรายนี้วางแผนชิงทรัพย์ในลักษณะเดียวกันขอให้เดินทางมาดูตัวและอายัดดำเนินคดีเพิ่มเติมได้ที่ สน.บางโพงพาง

กำลังโหลดความคิดเห็น