โฆษก ปชป.ย้ำพฤติกรรมถ่อยแดงเหิมหนัก บุกล้อมรถ “นายหัวชวน” หวังทำร้าย หลังรัฐสภาล่มวันแถลงนโยบายรัฐบาล เคราะห์ดีรอดหวุดหวิด เจ้าตัวปิดปากเงียบไม่อยากขยายผล ตอกลิ่มรัฐบาลดีแต่พูดปรองดอง แต่กลับวางเฉยปล่อยให้สาวกแดงคุกคามฝ่ายตรงข้าม
วันนี้ (26 ส.ค.) ปัญหากลุ่มคนเสื้อแดงคุกคามสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น ทั้งกรณีที่คนเสื้อแดงรุมทำร้าย 2 นักศึกษาที่วางพวกหรีดประท้วงการทำงานของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา และกรณีการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ลูกโซ่ผ่านเครื่อข่ายคนเสื้อแดงมีเนื้อหาคุกคามผู้สื่อข่าวช่อง 7 ล่าสุดยังมีเหตุการณ์คนเสื้อแดงดักทำร้าย ส.ส.ฝ่ายค้านอีกด้วย ซึ่งคนที่ได้รับผลกระทบ คือ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์
ทั้งนี้ คนใกล้ชิดของนายชวนเล่าว่า ในระหว่างที่รถยนต์ของนายชวนกำลังเคลื่อนออกจากสภากลางดึกของคืนวันที่ 24 ส.ค. ซึ่งเป็นวันที่เกิดปัญหาองค์ประชุมล่มขณะการแถลงนโยบายของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยกลุ่มคนเสื้อแดงที่ชุมนุมอยู่บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภาตั้งแต่วันแรกของการแถลงนโยบาย ได้ข้ามฝั่งมายืนดักบริเวณประตูทางออกเพื่อคอยสังเกตว่ามีใครเดินทางออกไปบ้าง หากรถที่เคลื่อนผ่านไปเป็น ส.ส.พรรคฝ่ายรัฐบาลก็จะปรบมือต้อนรับ แต่เมื่อรถยนต์ของนายชวนเคลื่อนผ่านหน้าประตูคนเสื้อแดงที่ยืนอยู่บริเวณดังกล่าวได่ตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายว่า “ไอ้เหี้...ชวน” ทำให้คนเสื้อแดงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกรูเข้ามาเพื่อรุมล้อมรถนายชวน โดยมีคนเสื้อแดงรายหนึ่งพยายามใช้ด้ามธงฟาดไปที่รถ แต่รถเคลื่อนตัวออกไปก่อนจึงทำให้นายชวนหลุดพ้นจากวงล้อมของกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างฉิวเฉียด
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเรื่องดังกล่าวไปยังนายชวนซึ่งก็ได้รับการยืนยันว่าเกิดเหตุการณ์ที่คนเสื้อแดงรุมล้อมจริง แต่เห็นว่าเป็นเพียงการตะโกนด่าจึงไม่อยากให้สัมภาษณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงเห็นว่าผู้ที่นั่งอยู่ในรถยนต์คันดังกล่าวเป็นนายชวนเพราะนายชวนเปิดไฟอ่านหนังสือในรถ จึงทำให้เห็นหน้าชัดเจน และพยายามที่จะเข้ามาทำร้ายดังกล่าว
ด้าน นายชวนนท์ อินทรโกมาลสุตย์ ว่าที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลโดยเฉพาะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีควรห้ามปรามกลุ่มคนเสื้อแดงผู้สสนับสนุนของตัวเอง แต่ก็น่าผิดหวังที่จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากรัฐบาลที่จะหยุดยั้งพฤติการณ์ในการข่มขู่ คุกคามของคนเสื้อแดงเหล่านี้ และเหตุการณ์เช่นนี้ก็เคยเกิดขึ้นกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อครั้งที่เป็นนายกฯ มาก่อนในทุกที่ ที่สำคัญทางพรรคเพื่อไทยเองก็ไม่เคยส่งสัญญาณในการห้ามปรามคนเสื้อแดงที่เป็นฐานสนับสนุนเช่นกัน ซึ่งเมื่อวันนี้เข้ามาเป็นรัฐบาลแล้ว และมีนโยบายปรองดอง ตัวนายกรัฐมนตรีเองก็ควรที่จะเริ่มต้นจากการให้คนเสื้อแดงยุติการเคลื่อนไหวกดดันคนอื่นด้วยการละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น เพราะประเทศจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้ ฝ่ายบริหารต้องไม่สร้างอาณาจักรแห่งความกลัวให้เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้น
นายชวนนท์กล่าวต่อว่า พฤติกรรมของคนเสื้อแดงหน้าสภา ถือเป็นการคุกคามการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านอย่างชัดเจน ดังนั้นเพื่อให้การทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติเป็นไปโดยอิสระ รัฐบาลก็ควรห้ามมวลชนของตัวเองไม่ให้ชุมนุมกดดัน ถ้าไม่ทำก็มองเป็นอื่นไปได้ นอกจากรัฐบาลจะมีจุดประสงค์ที่จะใช้คนเสื้อแดงเป็นกองกำลังเรดการ์ดนอกสภา เพื่อทำให้ฝ่ายค้านและภาคประชาชขนไม่กล้าที่จะตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และไม่เป็นผลดีตอการปกครองในระบอบประชาธิปไตย จึงขอให้รัฐบาลเร่งทำความเข้าใจกับกลุ่มคนเสื้อแดงว่า เมื่อไม่มีควมจำเป็นใดๆ ในการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา หรือหากต้องการยึดพื้นที่ชุมนุมต่อก็ควรอยู่ในกรอบโดยไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น หรือถ้าห้ามปรามไม่ได้ตามที่เคยบอกมาก่อนหน้านี้ ก็ขอให้จัดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความเรียบร้อยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้ซ้ำรอย เพื่อให้การชุมนุมของคนเสื้อแดงอยู่ในกรอบของกฎหมายบ้านเมือง
