xs
xsm
sm
md
lg

“เป็ดเหลิม” อ้างจงรักภักดีโดยสันดาน ลั่นกลางสภาไม่แตะ ม.112

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ
รัฐบาลปู เจอรุมยำ ไม่ใส่ใจนโยบายป้องสถาบัน จี้ จัดการแดงคดีล้มเจ้า แฉ เว็บไซต์ล้มสถาบันเกลื่อนโลกไซเบอร์ หวั่นเด็กเปิดแท็บเล็ตเจอ บ้านเมืองเกิดปัญหา “เป็ดเหลิม” กางปีกป้องเผาไทย อ้างจงรักภักดีโดยสันดาน รับปากกลางสภาไม่ขอแก้ ม.112 “มาร์ค” ตอกลิ่มยังมีพวกหมิ่นสถาบันลอยคอ “จุติ” ลั่นขอหายใจรดคอตามจี้จนครบเทอม


วันนี้ (23 ส.ค.) ในการอภิปรายคำแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา เริ่มเข้มข้นขึ้น เมื่อ นางตรึงใจ บูรณสมภพ ส.ว.สรรหา อภิปรายติง ว่า นโยบายการปกป้องสถาบันในข้อที่ 2 ว่าด้วยนโยบายความมั่นคงแห่งรัฐนั้น มีน้อยเกินไป และไปใส่ไว้เป็นนโยบายที่จะดำเนินการภายในช่วงระยะเวลา 4 ปี ทั้งที่ควรจะเป็นนโยบายเร่งด่วน

โดย นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.สัดส่วน พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า พรรคเพื่อไทยไม่ยอมนำเรื่องการปกป้องสถาบันเป็นเรื่องเร่งด่วน เพราะขณะนี้มีการจาบจ้วงจำนวนมาก นายกฯปฏิเสธไม่ได้ว่า สาเหตุที่ชนะการเลือกตั้ง เพราะมีกลุ่มเสื้อแดงสนับสนุน เพราะมีกลุ่มเสื้อแดงบางกลุ่ม อาทิ แดงสยาม แดงแอลเอ ที่มีพฤติกรรมไม่จงรักภักดี มีแนวคิดล้มสถาบัน และทำการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็นคดีอยู่ในขณะนี้ อยากถามว่า นายกฯจะมีมาตรการดำเนินการกับคนเหล่านี้อย่างไร จะเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ เพราะปฏิเสธว่าคนหลบหนีคดี หรือความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทย มีอยู่จริง นายกฯต้องสลัดคนพวกนี้ออกไป และอยากให้รักษาระบบนิติธรรมของประเทศ และรัฐบาลก็ไม่มีมาตรการเชิงรุกเรื่องนี้

นายศุภชัย กล่าวว่า นายกฯรู้หรือไม่ ว่า หลังจากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ในวันที่ 3 ก.ค.ปรากฏว่า มีเว็บไซต์หมิ่นสถาบันเกิดขึ้นมากมาย นายกฯ และรัฐบาล เคยจะดำเนินการหรือไม่ ตนเชื่อว่า นายกฯไม่ทราบเรื่องนี้ และพร้อมจะนำรายชื่อเว็บไซต์ไปให้ ที่สำคัญ หากไม่แก้ไข รัฐบาลไปแจกแท็บเล็ตให้เด็ก และเปิดไปดูเว็บไซต์พวกนี้ บ้านเมืองจะเกิดอะไรขึ้น รวมถึงอยากถามความชัดเจน ว่า รัฐบาลนี้จะมีการแก้กฎหมายอาญามาตรา 112 เรื่องการหมิ่นสถาบัน หรือไม่

“ทำไมรัฐบาลต้องออกตัวแรงในการแก้รัฐธรรมนูญ 50 จากแต่เดิมจะนำ รธน.40 มาใช้ แต่กลับมาเป็นตั้ง ส.ส.ร.แทน และเชื่อว่า จะมีคนใกล้ชิดพวกท่านจำนวนมากเข้ามา และการร่างรัฐธรรมนูญก็เป็นไปตามที่ท่านต้องการ ไม่ทราบว่า จะมีการนิรโทษกรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่”

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจงแทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า พวกตนจงรักภักดีต่อสถาบัน การเขียนนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ หากนับบรรทัดก็ยาวกว่ารัฐบาลชุดที่ผ่านมา อีกทั้งยังเป็นพรรคการเมือง ที่มีทหาร และตำรวจ เข้าเวร เข้ายาม เฝ้าพระตำหนักมากที่สุด และพรรคเพื่อไทย ก็ไม่แนวคิดแก้กฎหมายอาญามาตรา 112 เรื่องการหมิ่นสถาบัน เพราะเป็นเครื่องมือในการปกป้องสถาบัน พวกตนไม่เข้าไปแตะต้องเด็ดขาด ส่วนเรื่องเว็บไซต์หมิ่นสถาบันจำนวนมากนั้น ยืนยันว่า พึ่งเข้ามาเป็นรัฐบาล ทำไมรัฐบาลที่ผ่านมาเข้ามาจัดการ พรรคภูมิใจไทย ดูแลกระทรวงมหาดไทย ทุกอย่างทำไมไม่ยอมจัดการ เห็นมีแต่ป้ายปกป้องสถาบันเท่านั้น โดยไม่ทำอะไร ทั้งที่ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีต รมว.มหาดไทย มีอำนาจทุกอย่าง

“ผมเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย ไม่เคยใช้รถหลวง ไม่เคยใช้น้ำมันหลวง ไม่เคยหาผลประโยชน์จากการโยกย้ายตำแหน่งข้าราชการ แต่หากใครเข้าไปกระทำในลักษณะดังกล่าว ขอให้มีความวิบัติชาตินี้ไปถึงชาติหน้า”

รองนายกฯ กล่าวและว่า ส่วนเรื่องการแก้ รธน.นั้น เมื่อแก้ รธน.มาตรา 291 แล้วตั้ง ส.ส.ร.จากการเลือกตั้ง 77 คน และอีก 12 คน เป็นนักปราชญ์ราชบัณฑิต รวมเป็น 99 คน โดยมีประธานและรองประธานยกร่าง ส.ส.ร.และเมื่อพิจารณาเสร็จก็จะถามประชาชนจะเอาหรือไม่ หากไม่เอาก็ไม่ผ่าน หากประชาชนเห็นด้วย ก็ส่งมอบให้รัฐสภาพิจารณา มีหน้าที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย และยืนยันว่า การเขียน รธน.ไม่มีใครเขาเขียนเรื่องนิรโทษกรรม

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครธรรพ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย รมว.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) อภิปรายว่า แม้เพิ่งจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี แต่ยืนยันว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการปราบปรามเว็บไซต์หมิ่นสถาบันมาตลอด แต่อยากถามว่า ใครกันแน่ที่ไม่ยอมมีการปราบปรามเว็บหมิ่นอย่างจริงจัง ทั้งนี้ มีรายงานเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของกระทรวงไอซีที ระบุว่า ในสมัยรัฐบาลชุดที่แล้ว มีการดำเนินการฟ้องร้องเกี่ยวกับคดีหมิ่นสถาบันที่ยังไม่มีการจัดการถึง 116 เรื่อง และที่ผ่านมา ก็มีการตั้งงบประมาณเพื่อดำเนินการเรื่องนี้ ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึง 530 ล้านบาท แต่กระทรวงไอซีทีไม่นำไปใช้ ตรงข้ามกลับมีการโอนให้กระทรวงยุติธรรม และ ป.ป.ส.ไปทำแทน จึงไม่สงสัยเลยว่าทำไมเว็บไซต์เช่นนี้ถึงมีมากในสมัยรัฐบาลชุดที่แล้ว

จากนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นอภิปรายว่า ต้องยอมรับความจริง ว่า มีกลุ่มบุคคลที่มีอุดมการณ์ละเมิดสถาบันจริง ทั้งที่อยู่ในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มของ นายใจ อึ๊งภากรณ์ ทั้งนี้ กลุ่มคนดังกล่าวพยายามเชื่อมโยงเหตุผลเพื่อสร้างกระแสความคิดว่าการบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญา ม.112 ไม่สอดคล้องกับวิถีทางประชาธิปไตย นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ ว่า หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล อาจจะมีการพิจารณาแก้ไขป.อาญา มาตรา 112 ดังนั้น ฝ่ายค้านจึงอยากเรียกร้องให้ นายอนุดิษฐ์ ในฐานะ รมว.ไอซีที ต้องตอบให้ชัดว่ามีแนวทางที่จะจัดการเว็บไซต์เหล่านี้อย่างไรบ้าง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าจะไม่ปล่อยให้มีเรื่องเช่นนี้อีก

จากนั้น นายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก ในฐานะอดีต รมว.ไอซีที ได้ใช้สิทธิ์พาดพิง โดยอภิปรายว่า ตลอดช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งเป็น รมต.ได้พยายามทุกอย่างที่จะปราบปรามเว็บไซต์หมิ่นสถาบันมาโดยตลอด โดยมีการฟ้องร้อง และอาศัยอำนาจศาลสั่งให้มีการปิดเว็บไซต์หมิ่นสถาบันจำนวนมาก โดยบางวันได้ปิดเว็บไซต์ถึง 2,695 เว็บไซต์ จนปิดกันไม่ไหว และได้ทำงานถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งวันนี้ก็ยังมีเว็บไซต์ที่ยังไม่ได้ปิดอีก

หลังจากที่พยายามแกะรอยโจรมานานแล้ว ตั้งแต่ปี 50 สมัยที่ตนเป็นกรรมาธิการการทหารฯ ซึ่งทำงานร่วมกับ นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค อดีต รมว.ยุติธรรม แต่ไอ้คนที่เข้าใจผิดก็จะกล่าวหาลอยๆ ยืนยันว่า ในการขออำนาจศาลสั่งปิด ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเว็บไซต์การเมือง เพราะถ้าตนทำผิดกฎหมายก็จะถูกดำเนินคดี ตาม ม.157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ขอบอกว่า บางเว็บมีการตัดต่อรูปเคารพ ตนยอมไม่ได้ จนบางครั้งต้องยอมล้ำเส้น สั่งให้มีการดำเนินการ

“ต่อจากนี้ไปอีก 4 ปี ผมจะหายใจรดต้นคอท่าน เรื่องนี้ เพื่อตามเว็บหมิ่นให้หมดไป และถ้าดูแล้วเว็บหมิ่นเหล่านี้เริ่มเกิดขึ้นในปี 2550 และเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ดนับตั้งแต่มีการตัดสินคดียึดทรัพย์ อยากให้ท่านจับให้เจอ เพราะอยู่กับกลุ่มผู้สนับสนุนทั้งนั้น” นายจุติ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น