xs
xsm
sm
md
lg

ขุนคลังเล็งช่องเก็บภาษีเพิ่ม ลั่นคดีขายหุ้น “โอ๊ค-เอม” ไม่เกี่ยวคลัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล (แฟ้มภาพ)
“ธีระชัย” เผยเล็งหาช่องทางเก็บภาษีเพิ่มรับนโยบาย พท. ลั่นภาษีโอนขายหุ้นชินฯ จบแล้วไม่เกี่ยวกับคลัง อ้างสรรพากรมีอำนาจเด็ดขาดได้พิจารณาเรียบร้อยแล้ว โยน “สาธิต” แจงเหตุไม่เก็บภาษีหุ้น 12,000 ล้านบาท จาก “แม้ว” รัฐเสียหายหรือไม่และใครต้องเป็นผู้รับผิดชอบในสัปดาห์หน้า

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่กระทรวงการคลัง นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายอารีพงษ์ ภู่ชะอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยขณะพบปะสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการครั้งแรกว่า สัปดาห์ที่ผ่านมากระทรวงการคลัง มุ่งเน้นในการจัดทำตัวเลขจากการประเมินนโยบายของพรรคเพื่อไทย เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ก่อนนำนโยบายแถลงต่อรัฐสภา เพื่อดูผลกระทบว่าจะมีผลต่อสถานะทางการคลังอย่างไร ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสม เพราะที่ผ่านมาผู้ประกอบการต่างออกมาแสดงความคิดเห็น ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนต่อนโยบายของรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม สำหรับรายได้ที่ทางกระทรวงการคลัง จะหามาเพิ่มเพื่อที่จะรองรับนโยบายนั้น นายธีระชัยยืนยันว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะเกิดขึ้น จากการดำเนินโครงการต่างๆ ของรัฐบาล ทำให้มีการจัดเก็บภาษีมากขึ้น และจะมาดูว่าจะชดเชยกับโครงการต่างๆ ได้หรือไม่ นอกจากนี้ได้พยายามศึกษาหาช่องทางการจัดเก็บภาษีจากส่วนอื่นเพิ่ม

นายธีระชัยกล่าวต่อว่า สำหรับกรณีการเก็บภาษีการโอนหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรืออินทัช ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้นายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาว ถือว่ามีข้อยุติแล้ว เนื่องจากกรมสรรพากรได้พิจารณา และนำเสนอเรื่องมาที่กระทรวงการคลังในรัฐบาลก่อน และกระทรวงการคลังได้รับทราบแล้ว ขณะนี้เหลือเพียงการพิจารณาการเก็บภาษีของ บริษัท แอมเพิลริช ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเสนอคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรพิจารณา

“เรื่องเก็บภาษีลูกคุณทักษิณถือว่าจบแล้ว ส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง คือ คุณทักษิณ เป็นอำนาจหน้าที่เด็ดขาดในระดับกรมสรรพากร ถือว่ากระทรวงการคลังไม่เกี่ยวแล้ว ส่วนแอมเพิลริชได้รับทราบว่าอยู่ในขั้นตอนดำเนินการเกี่ยวกับการเสนอคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีพิจารณา อย่างไรก็ตาม สัปดาห์หน้าจะให้นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร มาชี้แจงกรณีไม่เก็บภาษีหุ้นจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 12,000 ล้านบาท ว่าสร้างความเสียหายกับรัฐหรือไม่ และใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ” นายธีระชัยกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น