เลขาฯ ครม. เผย นายกฯ ให้ “โกวิท” ถกสำนักนายกฯ จัดงานพิธีศพเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ และงานเฉลิมพระเกียรติในหลวง ครบ 7 รอบ พร้อมสั่ง ครม.น้อมรับพระราชเสาวนีย์ราชินี แก้อุทกภัย ส่งเสริมโครงการหลวง โขน ให้ “ยงยุทธ” ดูแลไฟใต้ “สันติ” ดูหมู่บ้านพอเพียง โยน “สุรพงษ์” ดูถอนตัวมรดกโลกหรือไม่ ให้ “กิตติรัตน์” ดูงบ ปี 55 “ธีระชัย” ดู 6 มาตรการช่วย ปชช. - “ฐิติมา” ดอดดูงาน
วันนี้ (16 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) กล่าวภายหลังการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุม ครม.ได้พิจารณาเรื่อง การเตรียมการพิธีศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และการเตรียมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวา 2554 ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความเห็นชอบมอบหมายให้ พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี ไปหารือกับสำนักนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและคณะทำงานเร่งดำเนินการและเสนอ ครม.หลังจากที่นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายแล้ว
นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีคำสั่งให้คณะรัฐมนตรีน้อมนำพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวันที่คณะรัฐมนตรีได้เข้าเฝ้าถวายพระพรในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาในวันที่ 12 สิงหาคม 2554 โดยเรื่องแรกเป็นการน้อมนำพระราชเสาวนีย์ในเรื่องอุทกภัย ซึ่งขณะนี้ทางด้านนายกฯได้รับรายงานจากกรมชลประทาน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านกระแสน้ำ รายงานถึงมวลน้ำจากภาคเหนือที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งตอนนี้กระแสน้ำไม่เกินขีดจำกัดของการรับน้ำ
นายอำพน กล่าวต่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้มีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และกรุงเทพมหานคร ให้เตรียมการป้องกันไว้ล่วงหน้า เพราะการเปลี่ยนแปลงของมวลน้ำสามารถเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วและตลอดเวลา เรื่องที่สองเป็นการน้อมนำพระราชเสาวนีย์ในการส่งเสริมโครงการหลวง ซึ่งเป็นโครงการส่วนพระองค์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการดำเนินการต่างๆ นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ สนับสนุนโครงการหลวงอย่างต่อเนื่อง
นายอำพน ยังกล่าวอีกว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงจัดโขน ชุดศึกไมยราพ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับพระราชเสาวนีย์ในเรื่องของโขนไม่ใช่เฉพาะผู้ชำนาญการฝ่ายเดียว แต่เป็นความร่วมมือหลายส่วน นายกรัฐมนตรีจึงมอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม พิจารณาในการดำเนินการที่จะตามรอยพระราชเสาวนีย์ได้ในการทรงเสริมวัฒนธรรม ซึ่งเชื่อมโยงกับนโยบายของรัฐบาลที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มจากความคิดและวัฒนธรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายหลักที่นายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบในการประชุม ครม.ครั้งนี้
นายอำพน ยังกล่าวอีกว่า ให้มีการสนับสนุนการส่งเสริมศิลปาชีพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ย้ำในเรื่องนี้ ว่า “ฝีมือ วัฒนธรรม และอาชีพ” ที่ทรงมีพระราชเสาวนีย์นั้น เป็นเรื่องที่สำคัญ และเป็นข้อสำคัญที่จะน้อมนำมาพัฒนาประเทศ ในส่วนปัญหายาเสพติด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้น้อมนำพระราชเสาวนีย์โดยจะต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของชุมชน ของประชาชน หลักกฎหมายต่างๆ ต้องยึดหลักละมุนละม่อม ต้องมีกระบวนการในการช่วยเหลือผู้หลงผิดให้กับเข้ามาเป็นคนดีของสังคมได้
นายอำพน ยังกล่าวอีกว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นห่วงใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ เรื่องนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้น้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการดำเนินการใดๆ ก็ตาม ต้องยึดหลักของการ “เข้าใจ เข้าถึง และร่วมกันพัฒนา” เป็นหัวใจหลักในการแก้ไขปัญหา และได้มอบหมายให้ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้เร่งดูแลเรื่องความมั่นคงและความปลอดภัยให้เกิดขึ้นและ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ดูแลในเรื่องการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม
นายอำพน กล่าวต่ออีกว่า ในวโรกาสเฉลิมฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระชนมายุครบ 84 พรรษา และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระชนมายุ 80 พรรษา ในปี 2555 ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ มีพระราชเสาวนีย์จะเป็นองค์อุปถัมภ์ในการสร้างพระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถ คันธารราฐ ณ วัดทิพย์สุคนธาราม ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เพื่อเป็นการฉลองสิริมงคลในวโรกาส น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้มีคำสั่งให้หน่วยงานต่างที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนการดำเนินงานอย่างเต็มที่
นายอำพน กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ครม.ได้มอบหมายให้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ศึกษาและทบทวนกรณีการถอนตัวจากการเป็นภาคีสมาชิกอนุสัญญามรดกโลก และความคืบหน้ากรณีกัมพูชาในศาลโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลชุดที่แล้วไม่ได้มีมติ ครม.แต่ให้มีมติให้รัฐบาลชุดปัจจุบันพิจารณา โดยให้ไปหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดท่าทีและเสนอต่อที่ประชุม ครม.ต่อไป
นายอำพน กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม.ได้พิจารณาเรื่องการจัดทำงบประมาณปี 2555 และการจัดทำแผนบริหารราชการแผ่นดิน โดยมอบหมายให้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ดูแลในเรื่องการจัดทำเรื่องงบประมาณและจัดทำนโยบายบริหารราชการ เพื่อให้ดำเนินการได้เร็วที่สุด โดยเฉพาะเรื่องการช่วยเหลือประชาชนและนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดูแลมาตรการค่าครองชีพ 6 มาตรการ โดยให้ไปหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและนำเสนอต่อ ครม.ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในการแถลงข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรีของนายอำพล มี น.ส.ฐิติมา ฉายแสง ซึ่งเป็นบุคคลที่คาดว่าจะมาดำรงตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาเฝ้าสังเกตการณ์การแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย พร้อมทั้งได้เข้าดูห้องประจำตำแหน่งโฆษกฯ ที่ตึกนารีสโมสร ซึ่ง น.ส.ฐิติมา ได้เดินทางมาตั้งแต่ช่วงเช้าที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี
วันนี้ (16 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) กล่าวภายหลังการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุม ครม.ได้พิจารณาเรื่อง การเตรียมการพิธีศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และการเตรียมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวา 2554 ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความเห็นชอบมอบหมายให้ พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี ไปหารือกับสำนักนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและคณะทำงานเร่งดำเนินการและเสนอ ครม.หลังจากที่นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายแล้ว
นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีคำสั่งให้คณะรัฐมนตรีน้อมนำพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวันที่คณะรัฐมนตรีได้เข้าเฝ้าถวายพระพรในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาในวันที่ 12 สิงหาคม 2554 โดยเรื่องแรกเป็นการน้อมนำพระราชเสาวนีย์ในเรื่องอุทกภัย ซึ่งขณะนี้ทางด้านนายกฯได้รับรายงานจากกรมชลประทาน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านกระแสน้ำ รายงานถึงมวลน้ำจากภาคเหนือที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งตอนนี้กระแสน้ำไม่เกินขีดจำกัดของการรับน้ำ
นายอำพน กล่าวต่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้มีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และกรุงเทพมหานคร ให้เตรียมการป้องกันไว้ล่วงหน้า เพราะการเปลี่ยนแปลงของมวลน้ำสามารถเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วและตลอดเวลา เรื่องที่สองเป็นการน้อมนำพระราชเสาวนีย์ในการส่งเสริมโครงการหลวง ซึ่งเป็นโครงการส่วนพระองค์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการดำเนินการต่างๆ นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ สนับสนุนโครงการหลวงอย่างต่อเนื่อง
นายอำพน ยังกล่าวอีกว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงจัดโขน ชุดศึกไมยราพ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับพระราชเสาวนีย์ในเรื่องของโขนไม่ใช่เฉพาะผู้ชำนาญการฝ่ายเดียว แต่เป็นความร่วมมือหลายส่วน นายกรัฐมนตรีจึงมอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม พิจารณาในการดำเนินการที่จะตามรอยพระราชเสาวนีย์ได้ในการทรงเสริมวัฒนธรรม ซึ่งเชื่อมโยงกับนโยบายของรัฐบาลที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มจากความคิดและวัฒนธรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายหลักที่นายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบในการประชุม ครม.ครั้งนี้
นายอำพน ยังกล่าวอีกว่า ให้มีการสนับสนุนการส่งเสริมศิลปาชีพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ย้ำในเรื่องนี้ ว่า “ฝีมือ วัฒนธรรม และอาชีพ” ที่ทรงมีพระราชเสาวนีย์นั้น เป็นเรื่องที่สำคัญ และเป็นข้อสำคัญที่จะน้อมนำมาพัฒนาประเทศ ในส่วนปัญหายาเสพติด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้น้อมนำพระราชเสาวนีย์โดยจะต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของชุมชน ของประชาชน หลักกฎหมายต่างๆ ต้องยึดหลักละมุนละม่อม ต้องมีกระบวนการในการช่วยเหลือผู้หลงผิดให้กับเข้ามาเป็นคนดีของสังคมได้
นายอำพน ยังกล่าวอีกว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นห่วงใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ เรื่องนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้น้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการดำเนินการใดๆ ก็ตาม ต้องยึดหลักของการ “เข้าใจ เข้าถึง และร่วมกันพัฒนา” เป็นหัวใจหลักในการแก้ไขปัญหา และได้มอบหมายให้ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้เร่งดูแลเรื่องความมั่นคงและความปลอดภัยให้เกิดขึ้นและ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ดูแลในเรื่องการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม
นายอำพน กล่าวต่ออีกว่า ในวโรกาสเฉลิมฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระชนมายุครบ 84 พรรษา และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระชนมายุ 80 พรรษา ในปี 2555 ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ มีพระราชเสาวนีย์จะเป็นองค์อุปถัมภ์ในการสร้างพระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถ คันธารราฐ ณ วัดทิพย์สุคนธาราม ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เพื่อเป็นการฉลองสิริมงคลในวโรกาส น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้มีคำสั่งให้หน่วยงานต่างที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนการดำเนินงานอย่างเต็มที่
นายอำพน กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ครม.ได้มอบหมายให้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ศึกษาและทบทวนกรณีการถอนตัวจากการเป็นภาคีสมาชิกอนุสัญญามรดกโลก และความคืบหน้ากรณีกัมพูชาในศาลโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลชุดที่แล้วไม่ได้มีมติ ครม.แต่ให้มีมติให้รัฐบาลชุดปัจจุบันพิจารณา โดยให้ไปหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดท่าทีและเสนอต่อที่ประชุม ครม.ต่อไป
นายอำพน กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม.ได้พิจารณาเรื่องการจัดทำงบประมาณปี 2555 และการจัดทำแผนบริหารราชการแผ่นดิน โดยมอบหมายให้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ดูแลในเรื่องการจัดทำเรื่องงบประมาณและจัดทำนโยบายบริหารราชการ เพื่อให้ดำเนินการได้เร็วที่สุด โดยเฉพาะเรื่องการช่วยเหลือประชาชนและนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดูแลมาตรการค่าครองชีพ 6 มาตรการ โดยให้ไปหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและนำเสนอต่อ ครม.ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในการแถลงข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรีของนายอำพล มี น.ส.ฐิติมา ฉายแสง ซึ่งเป็นบุคคลที่คาดว่าจะมาดำรงตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาเฝ้าสังเกตการณ์การแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย พร้อมทั้งได้เข้าดูห้องประจำตำแหน่งโฆษกฯ ที่ตึกนารีสโมสร ซึ่ง น.ส.ฐิติมา ได้เดินทางมาตั้งแต่ช่วงเช้าที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี
