รักษาการเลขาฯ ปชป.ส่งคนสนิทเดินสายล็อบบี้ ส.ส.เพื่อคัดค้าน “เฉลิมชัย” นั่งเลขาฯคนใหม่ หวั่นขั้วอำนาจในพรรคเปลี่ยน หลังกล่อม “มาร์ค” ชงชื่อ “อภิรักษ์” ขึ้นแท่นไม่สำเร็จ เผย หล่อใหญ่ อาจถอดใจไม่รับนั่งเก้าอี้ หน.อีกคำรบหาก “เทพเทือก” ก่อหวอด
วันนี้ (5 ส.ค.) ในการประชุมเพื่อคัดเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ โดยในช่วงเย็นวันนี้ ได้มีการจัดเลี้ยงสังสรรค์ผู้มีสิทธิลงคะแนน ซึ่งประกอบด้วย ประธานสาขาพรรคทั่วประเทศ และ ส.ส.พรรค ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ ย่านหลักสี่ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีแกนนำพรรคมาร่วมงานหลายคน อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ขณะที่ผู้อาสาตัวลงแข่งขันเป็นผู้บริหารพรรค ต่างเดินสายหาเสียงกับผู้มีสิทธิลงคะแนนเพื่อให้สนับสนุนตน
อย่างไรก็ตาม มีรายงานด้วยว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรค ได้ส่งตัวแทนคือ นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.สัดส่วน และ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช เดินสายล็อบบี้ผู้มีสิทธิลงคะแนน เพื่อให้โหวตโนหาก นายอภิสิทธิ์ เสนอชื่อ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเลขาธิการพรรค เนื่องจาก นายสุเทพ เกรงว่า หาก นายเฉลิมชัย ได้เป็นเลขาธิการพรรค อำนาจจะเปลี่ยนขั้ว และทำให้กลุ่มของนายสุเทพ สูญเสียอำนาจการบริหารภายในพรรค
โดยก่อนหน้านี้ นายสุเทพ ได้พยายามผลักดันให้นายอภิสิทธิ์ เสนอชื่อ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งมีความใกล้ชิดกับนายสุเทพ เป็นเลขาธิการพรค แต่ นายอภิสิทธิ์ ไม่เห็นด้วย เนื่องจาก นายอภิรักษ์ ติดคดีทุจริตจจัดซื้อรถดับเพลิง กทม.ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อาจจะทำให้นายอภิรักษ์ ตกเป็นเป้าโจมตีจากคู่แข่งทางการเมืองทันที หากได้เป็นเลขาธิการพรค จึงไม่เป็นผลดีต่อทั้งตัวนายอภิรักษ์ และพรรค โดย นายสุเทพ ยังพยายามเสนอชื่อ นายจุติ ไกรฤกษ์ เป็นเลขาธิการพรรคแทน แต่ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนใจ นายอภิสิทธิ์ ได้ จึงเดินเกมประท้วงด้วยการล็อบบี้ให้ผู้มีสิทธิลงคะแนนโหวตโน หากมีการเสนอชื่อ นายเฉลิมชัย โดยอ้างว่า ผู้ใหญ่ในพรรคไม่เห็นด้วยที่จะให้นายเฉลิมชัยเป็นเลขาธิการพรรค เพราะไม่มีความกังวลว่า นายเฉลิมชัย ไม่ใช่ลูกหม้อของพรรคประชาธิปัตย์ และก่อนหน้านี้ ก็มีหลายครั้งที่เคยคิดจะย้ายสังกัด จึงเป็นห่วงว่าอาจจะไม่มีความจงรักภักดีต่อพรรคจริง ซึ่งจะเป็นปัญหาในยุคที่พรรคต้องต่อสู้กับอำนาจเงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่พร้อมจะทุ่มซื้อผู้บริหารทุกพรรคการเมือง โดยมีการเปรียบเทียบกับปัญหาที่เกิดขึ้นในยุคที่ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เป็นเลขาธิการพรรค แต่กลับสู้ไม่เต็มที่ ทำให้พรรคพ่ายแพ้อย่างยับเยินในการเลือกตั้งปี 48 จากนั้นก็ทิ้งพรรคไป จึงเกรงว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย หากนายเฉลิมชัย ได้เป็นเลขาธิการพรรคในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม คนใกล้ชิด นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค ยืนยันว่า นายบัญญัติไม่ได้ต่อต้าน นายเฉลิมชัย ส่วนแกนนำพรรคระดับผู้ใหญ่ อาทิ นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่เคยติดใจต่อพฤติกรรมของนายเฉลิมชัย ในอดีต และเกรงว่า อาจจะไม่มีความมั่นคงกับพรรค ก็ได้มีการทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว รวมถึง นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยังพร้อมให้การสนับสนุน นายเฉลิมชัย เป็นเลขาธิการพรรคด้วย ดังนั้น จึงมีเพียงกลุ่มเดียวที่เคลื่อนไหวต่อต้านอย่างจริงจัง คือ กลุ่มของนายสุเทพเท่านั้น แต่ก็มีกระแสข่าวด้วยว่าหากการเลือกเลขาธิการพรรคครั้งนี้ สร้างแรงกระเพื่อมอย่างหนัก จนทำให้ไม่มีความเป็นเอกภาพภายในพรรค ก็มีความเป็นได้ที่ นายอภิสิทธิ์ จะตัดสินใจไม่รับตำแหน่งหัวหน้าพรรค