xs
xsm
sm
md
lg

โฉมหน้า “ปู 1” ยังไม่ผ่าน-สะดุดที่ รมว.กลาโหม!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ผ่าประเด็นร้อน

นาทีนี้กระบวนการตามขั้นตอนเริ่มเดินไปเรื่อยๆ แล้วหลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานคนที่ 1 และ 2 ตามลำดับ และเมื่อวานนี้ (3 สิงหาคม) ก็มีการทำพิธีรับสนองพระบรมราชโองการไปเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่ง ประธานสภาผู้แทนราษฎร สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ได้นัดประชุมเพื่อลงมติในวันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม เวลา 10.00 น.

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาบรรยากาศและความเคลื่อนไหวรอบตัวในเวลานี้เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร นายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องเป็น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่ต้องพิจารณากันหลังจากนั้นนี่สิ น่าสนใจกว่า โดยเฉพาะโฉมหน้าของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ที่กำลังวิ่งเต้นกันในช่วงโค้งสุดท้ายว่าจะมีหน้าตาสมกับที่รอคอย จนสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนสมกับที่ได้เทคะแนนให้จนชนะการเลือกตั้งถล่มทลายได้หรือไม่

ขณะเดียวกัน คงไม่อาจเชื่อตามคำพูดของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ว่าการฟอร์มคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เสร็จสิ้นไปแค่ 50 เปอร์เซ็นต์กว่าๆเท่านั้นเอง เพราะถ้าทำได้แค่นี้มันก็ย่อมสะท้อนให้เห็นถึง “ภาวะผู้นำ” ที่สังคมกำลังกังขากันอยู่แล้วว่าเป็นเพียง “นายกฯตัวปลอม” หรือโคลนนิ่งก็ยิ่งตอกย้ำให้เห็นชัดเจนขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ เป็นใจให้อย่างสะดวกปลอดโปร่ง ไม่ต้องมาพะวงเรื่องการต่อรองกดดันจากพรรคร่วมรัฐบาล หรือมีพรรคการเมืองอื่นจะมาแข่งขันตั้งรัฐบาล ดังนั้นในความเป็นจริงด้วยระยะเวลาที่ผ่านมาเดือนเศษทุกอย่างก็ต้องเดินหน้าเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว

แต่อีกด้านหนึ่งมันก็เริ่มเห็นร่องรอยความ “ผิดปกติ” ออกมาให้เห็นชัดเจนมากขึ้นเช่นเดียวกัน นั่นคือ เกิดปัญหาในเก้าอี้สำคัญ โดยเฉพาะตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งสถานการณ์นับจากนี้ไปถือว่าเป็น “หัวใจ” ทั้งกับตัวรัฐบาลเอง และ ฝ่ายกองทัพ ด้วยเหมือนกัน

สำหรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแม้จะพลิกไปพลิกมาเป็นม้าตีนต้น ตีนปลายก็ตาม แต่ในที่สุดก็ต้อง “ชี้นิ้ว” สั่งการได้ไม่ยาก เพียงแต่ว่าต้องสรุปตัวเลือกที่สร้างความอุ่นใจให้กับพวกนักธุรกิจ นักลงทุนและไม่ “หัวแข็ง” เท่านั้นเป็นใช้ได้

แต่น่าสนใจตรงที่การออกตัวของ พล.อ.อำนวย ถิระชุณหะ ที่ปรึกษาพิเศษพรรคเพื่อไทย คัดค้าน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยอ้างถึงความไม่เหมาะสมในหลายเรื่อง เช่น ไม่เคยช่วยงานพรรค ไม่มีวิสัยทัศน์ด้านความมั่นคง และแถมท้ายยังขู่อีกว่าหากมีการดึงดันแต่งตั้งก็อาจจะออกมาร่วมคัดค้านกับคนอื่นๆที่มีความคิดตรงกันอีกด้วย นอกจากนี้ เขายังได้ขัดขวางไม่ให้ดึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กลับมาอีกรอบ โดยระบุว่าจะสร้างปัญหาความไม่พอใจให้กับคนเสื้อแดง อ้างว่าที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร เกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุมในช่วงเหตุการณ์นองเลือดที่ผ่านมาด้วย

การออกมา “ชน” เต็มตัวของ นายทหาร ตท.10 ครั้งนี้ย่อมถือว่าไม่ธรรมดาแน่นอน แม้ว่าด้วยชื่อชั้นของคนที่พูดนั้นไม่มีราคา “ไม่มีเพาเวอร์” แต่การพูดแบบนี้มันก็ต้องมีนัย มีใคร “ดันหลัง” ให้ออกมาหรือไม่

หากเพ่งมองไปที่กระทรวงกลาโหมที่ต้องควบคุมกองทัพและความมั่นคงมันก็น่าจับตาจริงๆ เพราะที่ผ่านมาหากยังจำกันได้ว่ามีข่าวเล็ดลอดมาตลอด พร้อมทั้งท่าทีจากฝ่าย “เจ้าของ” พรรคเพื่อไทย ทั้ง ทักษิณ ชินวัตร ที่เคยมีข่าวว่าได้นัด “เคลียร์” กับ พล.อ.ประวิตร ในฐานะ “พี่ใหญ่” ของ “บูรพาพยัคฆ์” ที่คุมอำนาจอยู่ในกองทัพบกในขณะนี้ โดยเปิดทางให้กลับมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอีกรอบ พร้อมกับหลักประกัน “ไม่แตะต้อง” ผู้นำกองทัพในปัจจุบัน

ขณะเดียวกันก็เคยมีท่าทีสอดคล้องกันก่อนหน้านี้ของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่บอกว่าอยากจะพบหารือกับ ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นการส่งสัญญาณทางบวกให้สาธารณะได้รับรู้ สร้างภาพ “ปรองดอง” ไปพร้อมกัน

นอกจากนี้ หากสังเกตคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ เมื่อสองสามวันก่อนก็ประกาศความพร้อมจะนั่งเก้าอี้อันสำคัญนี้ ที่สำคัญเขาไม่ลืมที่จะย้ำว่า “จะมีการปลด โยกย้ายผู้นำเหล่าทัพ” รวมไปถึงพร้อมที่จะประสานความเข้าใจกับคนเสื้อแดงอีกด้วย

หากจับอาการรวมๆ แล้วประเด็นก็อยู่ที่ “ไม่ยุ่ง” กับ “ขาใหญ่”ในกองทัพนั่นแหละ

ความเคลื่อนไหวทั้งสองสามเหตุการณ์ดังกล่าวมันก็สะท้อนให้เห็นว่าตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีความ “อ่อนไหว” มากที่สุด เพราะต้องฟังความเห็นจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะจากผู้นำกองทัพ ไม่ใช่กำหนดโดยเจ้าของพรรคเพื่อไทยเหมือนกับเก้าอี้ตัวอื่นๆ

ขณะเดียวกัน การนำใครมานั่งเก้าอี้ตัวนี้ก็ต้องทำให้ฝ่ายกองทัพ “พยักหน้า” เห็นชอบ เพราะมันมีผลต่ออนาคตของพวกเขาด้วย ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่มีหลายคนหลายประเภท ทั้งเสนอหน้าเข้ามา รวมทั้งส่งชื่อให้ไปพิจารณาแต่ก็ยังไม่โอเคเต็มร้อย

ดังนั้น ถ้าพิจารณาโดยภาพรวมจากความเคลื่อนไหวตั้งแต่ต้น นับจากหลังรู้ผลการเลือกตั้งเชื่อว่า ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนี่แหละที่ยัง “สะดุด” อยู่ ยังหาคนที่เหมาะสมถูกใจพร้อมกันทั้งสองฝ่ายไม่ได้ ที่สำคัญยังหาคนที่ให้หลักประกันเรื่อง “ไม่แตะต้องกองทัพ” นั้นหายาก ส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่ “ตกรุ่น” แต่ชอบปั่นราคาหากำไรเท่านั้น!!
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา
กำลังโหลดความคิดเห็น