xs
xsm
sm
md
lg

ชาวสมุทรสาครเฮ!! ศาล ปค.กลางสั่งระงับกิจการถ่านหินทุกกรณีทั้งหมด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศาลปกครองกลางสั่งระงับกิจการถ่านหินในพื้นที่ท่าทราย สมุทรสาคร ทุกกรณี ชี้ลักลอบทำมานานส่งผลเสียต่อคุณภาพชีวิตประชาชน

วันนี้ (1 ส.ค.) ที่ศาลปกครองกลาง ได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาให้ระงับการประกอบกิจการถ่านหิน ในพื้นที่ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ในทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการลำเลียง การเก็บของ การขนถ่าย การขนส่ง หรือการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ที่ โดยให้ อบต.ท่าทราย สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และสำนักงานขนส่งทางน้ำจังหวัดสมุทรสาครปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของแต่ละราย เพื่อควบคุม ตรวจสอบ หรือกำชับให้มีการปฏิบัติตามคำสั่งศาลและคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครในพื้นที่ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ทั้งนี้ คำร้องดังกล่าวสืบเนื่องจาก นายทองนาค เสวกจินดา แกนนำต่อต้านโรงถ่านหิน จ.สมุทรสาคร ที่เพิ่งถูกยิงเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ก่อน และพวกรวม 3 คน ที่ได้ยื่นฟ้อง อบต.ท่าทราย สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานขนส่งทางน้ำจังหวัดสมุทรสาคร และบริษัท เทคนิคทีม (ประเทศไทย) จำกัด ต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอให้ศาลสั่งให้สำนักงานอุตสาหกรรม จ.สมุทรสาคร ควบคุมการประกอบกิจการถ่านหินดังกล่าวให้ถูกต้องตามกฎหมาย และขอให้ศาลมีคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยให้หยุดการเก็บกอง ขนถ่าย และขนส่งถ่านหินในเขตพื้นที่ตำบลท่าทรายไว้เป็นการชั่วคราว ก่อนการพิพากษาคดี

ส่วนเหตุที่ศาลฯมีคำสั่งระงับการดำเนินกิจการ ระบุว่า การประกอบกิจการถ่านหินของบริษัทเป็นการประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ต้องได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข 35 จึงจะสามารถดำเนินการได้ แต่ปรากฏว่า บริษัทได้ลักลอบประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมายมาเป็นเวลานาน จนกระทั่ง นายทองนาค เสวกจินดา และประชาชนในพื้นที่ได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ทำให้ อบต.ท่าทราย จ.สมุทรสาคร ได้มีคำสั่งให้หยุดกิจการ และได้ร้องทุกข์ หรือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเมื่อปี พ.ศ.2553 จนศาลจังหวัดสมุทรสาครได้มีคำพิพากษาลงโทษบริษัทเทคนิคทีม ทั้งจำคุกทั้งปรับ แต่บริษัทยังคงประกอบกิจการดังกล่าวเรื่อยมา มีผลทำให้ถ่านหินบางส่วนตกลงสู่แม่น้ำและสองข้างทางในระหว่างการขนถ่ายลำเลียงหรือขนส่ง อีกทั้งน้ำหนักของรถบรรทุกถ่านหิน ยังทำให้ถนนในพื้นที่ได้รับความเสียหายเป็นหลุมเป็นบ่อ จนก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และยิ่งไปกว่านั้นฝุ่นละอองถ่านหินได้ฟุ้งกระจายออกไปเป็นบริเวณกว้าง อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชน

อีกทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ และรู้ข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่เป็นอย่างดี ได้มีคำสั่งให้ผู้ประกอบการถ่านหินทั้งหมดในจังหวัดสมุทรสาคร ระงับการประกอบกิจการถ่านหินทุกกรณี ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค.54 เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า ยังคงมีการลักลอบลำเลียง หรือขนส่งถ่านหินในพื้นที่ที่เกิดเหตุของคดีนี้ อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัด โดยบริษัทได้ยอมรับต่อศาลว่า เป็นการดำเนินการของบริษัทจึงเห็นได้ว่า ยังคงมีการกระทำซ้ำ เป็นการกระทำละเมิดหรือกระทำผิดกฎหมายทำให้เกิดความเดือดร้อนหรือเสียหายแก่นายทองนาคและประชาชนในพื้นที่

วันเดียวกัน สำนักงานศาลปกครอง แจ้งว่า หลังจากมีการเปิดทำการแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลปกครองกลาง วันที่ 2 ส.ค.นี้ คดีโรงฟ้าฟ้าถ่านหิน จ.สมุทครสาครนี้ ก็จะโฮนเข้าสู่การพิจารณาพิพากษาของแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลปกครองต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น