ทีม กม.ปชป.ขอรอดู กกต.ให้การรับรอง ส.ส.“จตุพร” หรือไม่ เพราะอาจเข้าข่ายจงใจปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ยันไม่ได้เป็นกดดันการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระ ขู่ฟ้องยุบพรรคเพื่อไทย ฐานส่งผู้ไม่มีคุณสมบัติลงสมัคร ส.ส.
วันนี้ (31 ส.ค.) นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า กกต.บางคน ระบุว่า ได้รับรองสถานภาพ ส.ส.ของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อและแกนนำ นปช.ว่า ตน จะติดตามฟังผลการพิจารณาในวัน 1 ส.ค.ก่อน และจะรอดูเจตนาของ กกต.ว่า จงใจประพฤติมิชอบในการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกตั้ง มาตรา 29 ของ พ.ร.บ.กกต.หรือไม่ แล้วจึงจะตัดสินใจว่าทีมกฎหมายของพรรคจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ทั้งนี้ ยืนยันว่า การติดตามและชี้แจงของพรรคตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นการกดดันการทำงานของ กกต.เพียงแต่จำเป็นต้องทำไปตามหลักของกฎหมาย ที่ได้บัญญัติไว้ชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษรที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม และไม่ได้เกี่ยวข้องว่า จะต้องเป็นใคร หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่หากมีพฤติการณ์ตรงตามข้อห้ามของกฏหมาย กกต.ก็ต้องปฏิบัติตาม และขอยืนยันแนวทางที่ถูกต้องที่กฏหมายกำหนดไว้ คือ 1.การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายจตุพร เพราะขาดสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.จากการถูกคุมขังโดยคำสั่งของศาล จึงถือว่า ฝ่าฝืนมาตรา 34 ประกอบมาตรา 139 ของกฎหมายเลือกตั้ง และ 2.หรือจะวินิจฉัยว่า นายจตุพร ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ตามมาตรา 20 พ.ร.บ.พรรคการเมือง ประกอบมาตรา 100(3) ของรัฐธรรมนูญ และให้งดการประกาศผลการเลือกตั้งของ นายจตุพร ตามมาตรา 236(7) ของรัฐธรรมนูญ 3.กรณีของ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ทราบดีว่า นายจตุพร ไม่มีสิทธิ์ลงสมัคร แต่จงใจฝ่าฝืน อันถือว่าผิด พ.ร.บ.เลือกตั้ง มีโทษจำคุก 1-10 ปี หรือปรับ 2 หมื่น-2 แสนบาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี และอาจถึงขั้นยุบพรรคเพื่อไทย