ยื้อกันมานาน...สุดท้ายอัยการมีความเห็นว่า “สำนวนไม่สมบูรณ์” กับสำนวนสอบสวนคดีทุจริตการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร
คดีนี้คณะทำงานร่วมระหว่างอัยการกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มีตัวแทนจากสภาทนายความเป็นกรรมการร่วม เพื่อพิจารณาสำนวนคดี โดยที่ ป.ป.ช.รับไม้ต่อมาจากคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เป็นคดีที่ยื้อกันมานานร่วมสี่ปีกว่า นับแต่มีการตั้งเรื่องมาจาก คตส.
อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช.มีมติยื่นฟ้องคดีนี้เองในฐานะโจทก์ที่จะยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในวันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคมนี้
โดยสำนวนคดีนี้ เดิมมีผู้ถูกชี้มูลความผิดทั้งสิ้น 7 รายทั้งตัวบุคคและนิติบุคคล แต่เมื่อนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตผู้ว่าฯกทม.ในยุคเกิดเหตุ เสียชีวิตลงจึงต้องตัดชื่อออกไปด้วย ทำให้สำนวนคดีนี้ซึ่งจะมีการยื่นฟ้องต่อศาลจะมีคนโดนเอาผิดทั้งหมด 6 รายเช่น นายโภคิน พลกุล อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ถูกเอาผิดสมัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย-นายประชา มาลีนนท์อดีตรมช.มหาดไทย
นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์-พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร บริษัท STEYR-DAIMLER - PUCH Spezialfahrzeug AG&CO KG และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ผู้ถูกสอบสวนทั้งหมดจะถูกยื่นฟ้องในความผิดต่อ ตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา ในการจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิงพร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยของกรุงเทพมหานคร
เมื่อดูรายชื่อทั้งหมดจะพบว่า คนที่ยังโลดแล่นอยู่ทางการเมืองจะมีสองตัวหลัก คือ อภิรักษ์ โกษะโยธิน ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าพวก ส.ส.กทม.ประชาธิปัตย์ รวมถึงสุเทพ เทือกสุบรรณ เตรียมผลักดันให้ชิงตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แม้ท่าทีของอภิรักษ์จะยังไม่ตอบรับแต่ก็ไม่ปฏิเสธเต็มตัว อีกคนหนึ่งคือ วัฒนา เมืองสุขซึ่งกำลังขึ้นหม้อเหมือนกันเพราะมีชื่อติดโผว่าที่รัฐมนตรีหลายสมัยและโผหลายสำนัก ไม่ว่าจะเป็น รมว.พาณิชย์-ต่างประเทศ-อุตสาหกรรม
โดยวัฒนาถือว่าเป็นนักการเมืองระดับแกนนำพรรคเพื่อไทยยุคนี้ที่ใกล้ชิดกับทักษิณ ชินวัตรอย่างมากและบทบาทที่ผ่านมาในการเป็นตัวกลางประสานระหว่าง ทักษิณ -แกนนำเสื้อแดงและฝ่ายทหารโดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในช่วงการชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดงเมื่อปีที่แล้ว
วัฒนาถือว่ามีความสำคัญค่อนข้างมาก คอยอยู่เป็นมือประสานแกนนำนปช.เกือบทุกค่ำคืนโดยเฉพาะช่วงท้ายๆ ก่อนทหารจะสลายการชุมนุม
มีข่าวว่าวัฒนาจะเป็นหนึ่งในคนประสานและรายงานความเคลื่อนไหวให้ทักษิณทราบตลอด เห็นได้จากวันสุดท้ายของการชุมนุม 19 พ.ค.53 วัฒนาก็เป็นแกนนำพรรคเพื่อไทยคนหนึ่งที่คอยประสานกับทหารและตำรวจในการพาแกนนำ นปช.ไปมอบตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ก็ต้องดูไปว่า ครม.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะมีชื่อ “เสี่ยไก่” ติดโผรัฐมนตรีหรือไม่
หากมีชื่อ วัฒนา เมืองสุข อยู่ใน ครม.ยิ่งลักษณ์ แล้วศาลฎีกาฯ มีความเห็นประทับรับฟ้องคดีไว้ไต่สวน โดยบุคคลทั้งหมดที่ถูก ป.ป.ช.ยื่นฟ้องตกเป็นจำเลย
ก็เท่ากับว่า ครม.ยิ่งลักษณ์ก็จะมีจำเลยคดีอาญานั่งเป็นรัฐมนตรีอยู่ใน ครม.ด้วยอีกหนึ่งคน หากว่าท้ายสุดแกนนำ นปช.อย่างณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ตกเป็นจำเลยคดีก่อการร้ายก็ได้เป็นรัฐมนตรีด้วย
แต่รายของวัฒนา แตกต่างจากแกนนำ นปช.คนอื่นๆ เพราะหากเป็นไปตามนี้ เท่ากับ วัฒนา ตกเป็นจำเลยในคดีที่ถูกฟ้องว่าทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ โฉมหน้าของ ครม.ยิ่งลักษณ์ คงถูกวิจารณ์หนักไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดยังไม่อาจระบุได้ว่า ผู้ถูก ป.ป.ช.จะยื่นฟ้องเอาผิด เป็นผู้กระทำผิดจริง ทั้งหมดต้องให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไปเพื่อให้ทั้งหมดได้พิสูจน์ตัวเองต่อไป แต่อันดับแรกต้องดูก่อนว่าเมื่อ ป.ป.ช.ยื่นฟ้องแล้วศาลฎีกาฯจะประทับรับฟ้องไว้ไต่สวนหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีกรณีที่ ป.ป.ช.ยื่นฟ้องคดีอัลไพน์เองแล้วศาลฎีกาฯ ไม่รับฟ้องเพราะคดีหมดอายุความมาแล้ว
ทว่าที่น่าสนใจคือ เหตุผลที่อัยการ มีความเห็นแย้งกับ ป.ป.ช.ในการสั่งฟ้องคดีนี้ เพราะข่าวที่ทราบมาคือ อัยการได้ทำหนังสือสรุปเพียงสั้นๆ ว่า “สำนวนไม่สมบูรณ์”
จึงทำให้คณะทำงานของ ป.ป.ช.ที่ส่วนใหญ่ดึงมาจากสภาทนายความมาช่วยกลั่นกรองสำนวนคดีให้ไม่เห็นด้วยกับความเห็นของอัยการ เพราะเห็นว่าสำนวนคดีที่ทำมาตั้งแต่ คตส.จนมาสอบสวนเพิ่มเติมต่อในชั้น ป.ป.ช. และอัยการ มีความครบถ้วนสมบูรณ์พอจะยื่นฟ้องได้แล้ว
คณะทำงานของ ป.ป.ช.จึงนำเสนอรายงานสำนวนคดีทั้งหมดที่ทำไว้นานแล้วแต่ที่ไม่คืบหน้าเพราะยังเคลียร์กับอัยการไม่ลงตัว เมื่อเห็นว่าอัยการคงไม่ฟ้องแน่นอน คณะทำงานและกรรมการ ป.ป.ช.บางคนที่รับผิดชอบคดีนี้จึงเห็นชอบร่วมกันว่าไม่สมควรรออีกต่อไปแล้วเพราะจะทำไม่ทัน จึงมีการนำเสนอสำนวนทั้งหมดต่อที่ประชุมใหญ่ ป.ป.ช. เมื่อ 14 ก.ค. 2554
ซึ่งกรรมการ ป.ป.ช.หลายคนก็เห็นด้วยว่าควรต้องยื่นฟ้องเอง ไม่จำเป็นรออัยการ เนื่องจากที่ผ่านมาการทำงานของอัยการกับ ป.ป.ช.ในคดีต่างๆ มักจะเกิดปัญหาขัดแย้งกันมาตลอดเช่นคดีหวยบนดิน-คดีสนามกอล์ฟอัลไพน์ ที่อัยการก็ไม่ยอมฟ้องทำให้ ป.ป.ช.ฟ้องเองแม้จะเกิดข้อผิดพลาดบ้างเช่นคดีอัลไพน์ที่ฟ้องไปแล้วศาลฎีกาฯ ชี้ว่าคดีหมดอายุความ มันจึงเป็นที่มาของการยื่นฟ้องดังกล่าวของ ป.ป.ช.
และให้จับตาดูเถอะ ยังมีอีกหลายคดีที่ค้างอยู่ในชั้น ป.ป.ช.ที่รอจะส่งอัยการหรือส่งไปแล้วบางส่วนและมีความเห็นให้ตั้งคณะทำงานร่วมกันสองฝ่าย
สุดท้าย ก็ต้องเข้าอีหรอบแบบเดียวกันนี้ คือ อัยการไม่ฟ้อง ป.ป.ช.ต้องฟ้องเอง เหตุเพราะสำนวนไม่สมบูรณ์ข้ออ้างยอดฮิตของอัยการ