“อภิสิทธิ์” เรียกร้อง กกต.ทำงานตรงไปตรงมา อย่าจำนนต่อแรงกดดันจากแก๊งเสื้อแดง เพราะจะเป็นการเชื้อเชิญให้มีคนมากดดันต่อทุกฝ่ายที่ทำงาน ขณะเดียวกันเรียกร้องเพื่อไทย ส่งสัญญาณให้ชัดเรื่องจำนำข้าว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากักตุน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางไปรับหนังสือรับรองการเป็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า สะดวกไปเมื่อไหร่ก็จะไป แต่จะยังไม่ไปในวันนี้ (20 ก.ค.) เนื่องจากยังเตรียมเอกสารไม่ครบ และยังขาดรูปถ่ายอยู่ ส่วนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะยังไม่เดินทางไปรับหนังสือรับรองจนกว่าแกนนำ นปช.จะได้การรับรองด้วย คิดว่าเป็นการกดดัน กกต.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงไม่เกี่ยว เพราะ กกต.ก็ต้องทำหน้าที่ตามสำนวนของแต่ละกรณี แต่ถ้าจะรอเพื่อนไปก็ไม่เป็นไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ยังมีแรงกดดัน กกต.จากกลุ่มคนเสื้อแดงอยู่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็ไม่ควรจะมี แต่ว่า กกต.จะต้องชัดเจนว่าไม่อยู่ภายใต้แรงกดดันต่างๆ ทุกองค์กรตนก็เรียกร้องให้ทำหน้าที่ตรงไปตรงมา ยืนยันว่าถ้าเมื่อใดเริ่มที่จะจำนนต่อแรงกดดันแบบนี้ปัญหาจะตามมาไม่รู้จบ ถ้าท่านทำอะไรไม่เที่ยงตรงก็จะทำผิดเสียเอง และถ้าท่านทำอะไรที่ก้ำกึ่งยอมตามแรงกดดันเสียเอง วันข้างหน้าก็จะเป็นการเชื้อเชิญให้มีคนมากดดันทุกฝ่าย
ส่วนภาพลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์หลังการประชุมในวันที่ 6 ส.ค.นี้นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของสมาชิกที่จะต้องเลือกกรรมการบริหารใหม่ และกรรมการใหม่ก็ต้องสามารถนำพรรคไปข้างหน้า ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ที่สุด เพราะว่ามีประชาชนที่ให้ความไว้วางใจมาจำนวนมาก และท่านสามารถที่จะขยายฐานการสนับสนุนออกไปได้ เมื่อถามว่ายังมีแกนนำพรรคหลายคนที่สนับสนุนให้ท่านกลับมาเป็นหัวหน้าพรรค ได้ตัดสินใจอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า “ยังครับ” ต่อข้อถามว่า หากมีเสียงโหวตจากประชาชนจะยอมรับหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตอนนี้พึ่งมีการกำหนดวันประชุมเอง
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่ผู้ค้าข้าวเริ่มมีการกักตุน เพื่อรอนโยบายเรื่องการจำนำข้าวจากรัฐบาลใหม่ว่า ตนถึงได้ย้ำว่าขณะนี้นโยบายทุกเรื่องแม้ว่ารัฐบาลยังไม่ได้ตั้งขึ้นมา พรรคเพื่อไทยในฐานะที่เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งและต้องบริหารประเทศต่อไป ควรจะใช้เวลาตรงนี้ทำความชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการเก็ง การคาดการณ์ที่จะมีผลกระทบทางเศรษฐกิจในทุกเรื่อง ตนได้เขียนในบทความไปแล้ว ซึ่งอยากให้เร่งทำ เพราะมันจะช่วยทำให้การบริหารงานราบรื่นและไม่มีผลกระทบกับประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วงรอยต่อตรงนี้จะทำอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภาวะข้าวขาดตลาด นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ดีที่สุดคือการสร้างความชัดเจนถึงทิศทางการบริหารต่อไป เมื่อถามว่า แต่ในช่วงที่ยังบริหารงานอยู่ ถ้าหากว่าความชัดเจนยังไม่เกิดขึ้นจะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้ามีปัญหาก็ต้องแก้ แต่การที่จะไปห้ามการคาดการณ์นั้นดีที่สุดคือการสร้างความชัดเจนเสียว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ซึ่งคนที่จะอยู่ในฐานะที่จะทำได้ตอนนี้คือพรรคเพื่อไทย ที่จะออกมาบอกว่าการไปกักตุนอะไร มันไม่ได้มีประโยชน์อะไร เพราะนโยบายจะไม่เอื้อต่อคนที่กักตุน
เมื่อถามว่า หมายถึงว่าระหว่างนี้รัฐบาลชุดปัจจุบันยังไม่สามารถทำอะไรได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราทำได้ ถ้าเขามีการกักตุนจริง เราต้องไปดำเนินการ แต่ว่าถ้าหากว่ามันเป็นเรื่องของการคาดการณ์ เราไปห้ามการคาดการณ์ไม่ได้ การจะไปห้ามการคาดการณ์ก็คือการที่เราจะต้องสร้างความชัดเจน ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะต้องออกมาทำตรงนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่ามันจะตกอยู่ในภาวะที่ต้องไปเข้าคิวซื้อข้าวถุงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ควรจะเกิดขึ้น เมื่อถามต่อว่า ในส่วนตรงนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แสดงความเป็นห่วงต่อนโยบายรับจำนำในเรื่องของการสร้างหนี้เพิ่มนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนฟังดูเขาก็จะต้องให้ข้อมูลกับทางรัฐบาลใหม่ว่าผลกระทบมันมีอะไรบ้าง แต่ตนเชื่อว่าเขาก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามนโยบาย เมื่อมีการตัดสินใจ ต่อข้อถามว่าจะกระทบต่อการแข่งขันในตลาดโลกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ความเห็นของตนชัดเจนอยู่แล้วว่านโยบายการจำนำข้าว จะสร้างปัญหามาก
