ทีมงานโฆษก ปชป.ขู่ รบ.บริหารชาติอย่างสร้างรังสรรค์ ชี้หากใช้อำนาจในที่ทางผิด เจอกระบวนการตรวจสอบ แฉทีมงานด้าน กม.ไข่แม้ว โยนหินจ้องทำประชามติดึง รธน.40 ฉบับเหวงกลับมาใช้หวังฟอกตัว เตือนซ้ำรอยยุคสมัคร สร้างความแตกแยกให้บ้านเมืองยัน หนุน “มาร์ค-สุเทพ” รีเทิร์น หน.-เลขาฯ พรรค ระบุสมาชิกพรรคจะเสียใจถ้า “สุเทพ” ปฏิเสธ
วันนี้ (12 ก.ค.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงว่า พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันและพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสถาบันการเมืองอย่างสร้างสรรค์ในงานนิติบัญญัติ โดยหากฝ่ายบริหารและรัฐบาลทำหน้าที่อย่างดีรักษาประโยชน์ส่วนรวม พรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมสนับสนุน แต่หากฝ่ายบริหารมีพฤติการณ์ใช้อำนาจในทางที่ผิดก็ต้องถูกตรวจสอบถ่วงดุลตามวิถีทางประชาธิปไตย
นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์อยากเห็นพรรคเพื่อไทย (พท.) ทำงานสร้างสรรค์ ชี้แจงข้อเท็จจริงมากกว่าตีตนไปก่อนไข้ เพราะการเข้าสู่อำนาจต้องควบคู่ไปกับระบบกฎหมายด้วย และไม่ควรนำกระบวนการต่างๆมาอ้างเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ ที่ปรึกษาคณะทำงานด้านกฎหมายของพรรคเพื่อไทย ออกมาอ้างว่าเพื่อป้องกันการถูกยุบพรรค ควรเสนอให้ประชาชนลงประชามติเพื่อเอารัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 กลับมาใช้ ซึ่งขานรับกับคำสัมภาษณ์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีความสอดรับกับร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับของ คป.พร.ของ นพ.เหวง โตจิราการ อีกทั้งยังสอดรับกับการส่งผลให้คดีทุจริตต่างๆ ให้ตกไปจากการแก้รัฐธรรมนูญ เป็นการเดินซ้ำรอยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ทำให้บ้านเมืองขัดแย้ง
นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า สำหรับพรรคประชาธิปัตย์จะมีการประชุมพบปะว่าที่ ส.ส.ใหม่ในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ จากนั้นวันที่ 19 กรกฎาคม เวลา 10.00 น. กรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการจะประชุมเพื่อกำหนดกระบวนการเลือกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ส่วนจะเลือกวันไหนเป็นดุลพินิจของรักษาการกรรมการบริหารพรรค แต่เชื่อว่าจะได้ชุดใหม่ในเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนบุคคลกรที่จะมาทำหน้าที่กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ระบบพรรคเป็นสถาบันการเมืองจะให้ที่ประชุมใหญ่ของพรรค ทั้ง ส.ส. สาขาพรรค และสมาชิก เป็นผู้ตัดสิน ยืนยันว่าการปฏิบัติหน้าที่ของพรรคตลอดเวลาที่ผ่านมา ยึดถือประโชน์ประเทศและประชาชน การตัดสินใจเสดงรับผิดชอบของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรค เป็นการรักษาบรรทัดฐานที่ดีทางการเมือง และเชื่อว่ากระบวนการของพรรคจะสามารถทำให้ผู้ที่ลาออกไปกลับมาบริหารใหม่ได้อีกในอนาคต เพราะทั้งนายอภิสิทธิ์ช่วงเป็นนายกฯ และนายสุเทพขณะเป็นรองนายกฯ ได้แสดงความสามารถแก้ปัญหาช่วงมีความรุนแรงการเมืองทั้งที่ถูกปองร้ายไล่ล่าเอาชีวิต แต่ได้มุ่งมั้นทำงานได้สมเกียรติสมศักดิ์ศรี
“ที่นายสุเทพแสดงความตั้งใจไว้ว่าจะไม่รับตำแหน่งเลขาธิการพรรคอีก ก็ยังมีเวลา และสมาชิกพรรคก็จะรู้สึกเสียใจหากท่านประสงค์ไม่รับตำแหน่ง แต่ก็เชื่อว่าทั้งสองท่านจะเปิดกว้างรับความเห็นสมาชิกพรรค” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว