บรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ วันที่ 14 มิ.ย.2554 มวลชนคนเสียสละออกมา แสดงจุดยืนรักชาติอย่างไม่เสื่อมคลาย ก้าวผ่านปัญหายึดติดกับพรรค ตัวบุคคล เอาธุระของชาติเป็นของตัวเอง ดวงตาเห็นธรรมไม่ว่าพรรคไหนขึ้นเป็นรัฐบาลปัญหาความวุ่นวายในประเทศไม่จบ แก้ปัญหาทุจริตไม่ได้ จากพฤติกรรมที่ผ่านมาสุ่มเสี่ยงทำให้เสียอธิปไตยของชาติชายแดนไทย-กัมพูชา ตลอด จึงต้องเคลื่อนไหวด้วยยุทธวิธี โหวตโน หรือรณรงค์ให้กาในช่องไม่เลือกใคร เพื่อกวาดล้างนักการเมืองที่มาตามระบอบการเมืองเก่า คือ ซื้อเสียงเลือกตั้ง แล้วเข้ามาถอนทุนคืน
สำหรับในช่วงเสวนาราชอาณาจักรไทยกำลังเสียดินแดน นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการประวัติศาสตร์ กล่าวว่า ประชาธิปัตย์ คือ พรรคที่จะทำให้พรรคเพื่อไทยกลับมา หากประชาธิปัตย์ไม่ลงเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยจะขาดความชอบธรรมทันที ในการนี้ก็สามารถอ้างได้ว่าพรรคเพื่อไทยเผาบ้านเผาเมือง เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะไม่ลงเลือกตั้งด้วย การส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งเท่ากับเป็นการคอนเฟิร์มให้เพื่อไทยกลับมาโดยชอบธรรม ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า พรรคเพื่อไทยทั้งหมดเป็นนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หากประชาธิปัตย์รู้เต็มอกว่า อย่างไรพรรคเพื่อไทยก็มาแน่แล้วยังลงเลือกตั้งอีกย่อมสันนิฐานได้ว่ารู้กันกับพ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้น หากประชาธิปัตย์ตรงไปตรงมา ต้องไม่เข้าร่วมสังฆกรรมกับพรรคเผาบ้านเผาเมือง หากนายอภิสิทธิ์ คิดว่าสิ่งที่ตนพูดไม่จริง จะต้องถอนผู้สมัครออกให้หมด แล้วตนจะไปกราบอย่างงาม
นายเทพมนตรี กล่าวถึง ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ในฐานะที่ใช้กระบอกเสียงมาด่าพันธมิตรฯแทนรัฐบาล ว่า อยากให้วิจารณ์ นายอภิสิทธิ์ บ้าง โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ซึ่ง ดร.เจิมศักดิ์ เก่งด้านนี้มาก แต่เห็นวิจารรัฐบาลน้อยมาก ต่างจากรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ก่อนจะเสียใจในอนาคต หากนายอภิสิทธิ์เข้าไปปรองดองกับพรรคเพื่อไทย ถึงตอนนั้นอยากรู้จริงๆ ดร.เจิมศักดิ์ จะเอาอย่างไรกับชีวิต ตนเชื่อว่าหากพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาได้จริง คนแรกที่จะเล่นงานในฐานะสื่อมวลชน ก็คือ ดร.เจิมศักดิ์ นี่แหละ
“หากมีคนถาม ทำไมต้องโหวตโน ให้พี่น้องบอกไปเลยว่า ตลอด 6 ปีที่ผ่านมาทุกรัฐบาล ทำให้ไทยเสียดินแดน หากใครมาหากเสียง ให้บอกกลับไปว่า ถ้าเอาดินแดนกลับมาได้ก่อน 3 ก.ค.ก็พร้อมจะลงคะแนนให้” นายเทพมนตรี กล่าว