“นายหัวชวน” นำทัพ ปชป.ขึ้นเวทีส่งท้ายที่นครฯคนร่วมคึกคัก

นครศรีธรรมราช - เวทีปราศรัยส่งท้ายของพรรคประชาธิปัตย์ที่นครศรีธรรมราชคึก “ชวน หลีกภัย” จัดหนักปิดเวทีท่ามกลางประชาชนนับหมื่น

ช่วงค่ำวานนี้( 1 ก.ค.) ที่สนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช ริมถนนราชดำเนิน ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นสถานที่ที่พรรคประชาธิปัตย์ ใช้เป็นเวทีปราศรัยปิดท้ายตั้งแต่เวลา 17.00น. ประชาชนจากทั่วจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ทยอยเข้ามาจับจองที่นั่งจนเต็มทั้งพื้นที่ 16 ไร่ของสนามหน้าเมือง และยังล้นไปยังผิวจราจรการจราจรติดขัดอย่างหนัก จนในที่สุดต้องปิดการจราจรไปโดยสิ้นเชิง เนื่องจากประชาชนได้ทยอยเพิ่มมากขึ้นกระทั่งในเวลา 19.00 น. เศษมีประชาชนมาร่วมรับฟังกว่า 30,000 คน

โดยส่วนหนึ่งนั้นได้มานั่งรอการปราศรัยของนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ขณะเดียวกันมีผู้สมัครในส่วนของพรรคเดินทางมาร่วมปราศรัยอย่างครบครัน นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล เขต 9 นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ เขต 1 นายประกอบ รัตนพันธ์ เขต 5 นายสุรเชษฐ์ มาศดิตถ์ เขต 8 นางสาวนริศา อดิเทพวรพันธ์ เขต 2 และ ดร.อภิชาติ การิกาญจน์ เขต 4 นายวิทยา แก้วภราดัย เขต 3 นายชิวรณ์ บุณยเกียรติ เขต 7 และนายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ นายสัมพันธ์ ทองสมัคร ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ

สำหรับบรรยากาศได้เริ่มความคึกคักขึ้น เมื่อมีการปล่อยสัญญาณปราศรัยจากลานพระรูป โดยมีเสียงตอบรับจากเวทีที่นครศรีธรรมราชอย่างคึกคัก ตะโกนเบอร์ 10 และเรียกชื่อนายอภิสิทธิ์ ประชาชนนับหมื่นที่นครศรีธรรมราชจะตอบว่า “นายกฯ” อย่างสนุกสนาน หลังจากนายอภิสิทธิ์ปราศรัยแล้ว นายวิทยา แก้วภราดัย ได้ปราศรัยถึงเหตุการณ์ต่างๆ ในช่วงรัฐบางสมัยนายสมัคร สุนทรเวช มาจนถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และมาที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ท่ามกลางประชาชนที่ปักหลักไม่ยอมถอยไปไหน

จนกระทั่งนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวปราศรัยใช้เวลากว่า 30 นาที โดยบางช่วงบางตอนได้กล่าวถึงประเทศไทยในปัจจุบันที่มีความไม่ปกติเกิดขึ้นมาก ทางที่จะพยายามแก้ได้คือต้องเลือกประชาธิปัตย์อย่างเด็ดขาด ยังนั่งคิดว่าประเทศไทยนี้เป็นของเขาหรือ เป็นของครอบครัวเขาหรือ จึงกำหนดอะไรก็ได้ ขณะเดียวกันบางช่วงบางตอนนายชวนยังแสดงถึงความกังวลการตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงที่เสมือนถูกล้างสมองอย่างหนักคล้ายกับเมื่อปลายสิบปีก่อน ไม่น่าเชื่อว่ามีการด่าทอบุคคลสำคัญของประเทศได้อย่างรุนแรงอย่างนี้ การเลือกตั้งครั้งนี้อยากให้ประชาชนศึกษาประวัติศาสตร์ของประเทศไทย อย่าให้ผิดพลาดอีกการเลือกคนเข้าไปบริหารประเทศต้องเลือกความเป็นมืออาชีพไม่ใช่เลือกมือสมัครเล่น