“บรรหาร” โวเสียงรัฐปูแดงมั่นคง แนะ ส.ส.รักษาสัญญาประชาชน สร้างสามัคคี วอนคุมสภาอย่าให้ล่ม ชี้ ประธานสภา สำคัญ ถ้ารัฐทำดีก็อยู่ครบเทอม ระบุเร็วไปพูดเรื่องโควตาพรรค แย้ม ชทพ.นัดถกพรุ่งนี้ รับอยากสานงานเก่า แต่คาดเคลียร์เก้าอี้กันได้ ยันพรรคไม่นั่งรองประธานสภา
วันนี้ (5 ก.ค.) ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลที่จะจัดตั้งโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ด้วยเสียงพรรคร่วมอีก 4 พรรค เป็น 299 เสียง ว่า เชื่อว่า น่าจะมีความมั่นคงพอสมควร เพราะถือเป็นความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ที่เขาต้องการให้ใครเป็นคนจัดตั้งรัฐบาล ส.ส.แต่ละคนกว่าจะฝ่ามาได้ ดังนั้น ต้องพยายามรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ตามที่แต่ละพรรคการเมืองปราศรัยหาเสียงกับประชาชนไว้อะไรบ้างที่บอกประชาชนไว้ก็ต้องทำ และต้องดำเนินการเรื่องความสามัคคีของคนในชาติให้เกิดขึ้นให้ได้ โดยการทำตรงนี้ต้องมีความจริงใจเกิดขึ้นทั้งสองฝ่ายด้วยกัน และเรื่องต่างๆ ที่มีความขัดแย้งกันตอนหาเสียง หรือปราศรัยก็ควรจะเลิกได้แล้วไม่ควรจะนำมาพูดกันอีก แต่ต้องไปดูว่ารัฐบาลทำงานอย่างไร
เมื่อถามว่า คิดว่า 299 เสียง มีความมั่นคงพอ ไม่ต้องไปดึงบางกลุ่มจากพรรคภูมิใจไทยมาอีกหรือ นายบรรหาร กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้ คิดว่า รัฐบาลน่าจะไปได้เพราะมีความมั่นคง ตั้ง 299 เสียง คราวที่แล้วพรรคประชาธิปัตย์มีตั้ง 280 เสียง ก็เป็นตัวเลขที่สวย และอยู่ได้ตั้ง 2 ปีกว่า ถ้าไม่ยุบสภาเสียก่อนก็อยู่ได้ครบเทอม และคราวนี้ได้ 299 ก็ยิ่งดีใหญ่ แต่การจะอยู่ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการควบคุมสมาชิกแต่ละพรรคในสภา อย่าให้สภาล่มบ่อยเหมือนคราวที่แล้ว ตรงนี้สำคัญ
เมื่อถามว่า แสดงว่า ตำแหน่งประธานสภาครั้งนี้ มีความสำคัญมาก นายบรรหาร กล่าวว่า ใช่ มีความสำคัญมาก เมื่อถามว่า ย้ำว่า ดังนั้น ควรเลือกคนที่มีคุณสมบัติแบบไหน นายบรรหาร กล่าวว่า อย่ามาถามตน เพราะเดี๋ยวจะถูกว่าตนเข้าไปยุ่ง เพราะเป็นเรื่องของพรรคใหญ่เขา เราไม่เกี่ยวข้อง แต่อย่างไรก็ตามคนในพรรคเพื่อไทยมีความเหมาะ อยู่ที่พรรคเขาจะเลือกอย่างไร
เมื่อถามว่า คิดว่า 299 เสียงนี้ จะอยู่ได้ครบเทอมหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า อนาคตเป็นเรื่องที่ตอบไม่ได้ เพราะถ้ารัฐบาลทำดีก็ครบเทอม แต่ถ้าทำไม่ดีก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่คราวนี้คะแนนเสียงมามากมาย ก็เป็นเรื่องที่น่าจะพิจารณา และตนในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาคงต้องมาทบทวนว่าทำไมจึงเป็นอย่างนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเสียงวิจารณ์ว่า รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจจะอยู่ได้เพียง 6-8 เดือน นายบรรหาร กล่าวว่า ใครเป็นคนวิจารณ์ แต่ตนคิดว่าอยู่ได้ ถ้าทำดีก็อยู่ได้นาน แต่ถ้าทำไม่ดีก็อีกเรื่องหนึ่ง เมื่อถามว่า คิดว่าอยู่ได้มากกว่าครึ่งเทอมหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ครึ่งเทอมนั้นกี่ปี เมื่อถามย้ำว่า มากกว่า 2 ปีหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า “เดี๋ยวนี้ครึ่งเทอมเขาเปลี่ยนเป็น 6 ปีแล้วไม่ใช่หรือ เอาเป็นว่าทำดีก็อยู่ได้นาน และผมเองในฐานะเป็นที่ปรึกษาก็จะพยายามดูอะไรต่างๆและจะให้ข้อคิดข้อเสนอแนะไปที่รัฐบาล ในฐานะที่พอจะรู้ๆอะไรบ้าง”
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่จัดโควตารัฐมนตรีให้พรรคร่วมรัฐบาล นายบรรหาร กล่าวว่า ตนว่าจะเร็วไปหรือไม่ถ้าพูดเรื่องนี้ เพราะหลังเลือกตั้งรัฐบาลก็เพิ่งจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง รวมกันได้ 5 พรรค ดังนั้นเชื่อว่าตำแหน่งต่างๆคงยังไม่มีการคุยกัน เป็นเพียงการเดากันไปเท่านั้นว่าพรรคโน้นได้อย่างนั้น พรรคนี้ได้อย่างนี้ ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนาก็คงยังไม่ได้พูดอะไร คงต้องหารือกันว่ามีอะไรบ้างที่พรรคแกนนำจะให้มา ซึ่งตนทราบว่าในวันพุธที่ 6 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น.ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาจะเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อพูดคุยในเรื่องนี้
เมื่อถามว่า พรรคชาติไทยพัฒนา น่าจะได้ดูกระทรวงเดิมที่ถนัด อย่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเกษตร หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า หากตนพูดไปก็จะถูกโจมตีอีก ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร แต่ตามธรรมดาแล้วหากเรามีงานอะไรค้างอยู่ก็อยากจะทำต่อเท่านั้นเอง เพราะงานค้างก็ยังไม่เสร็จสิ้น เช่นปัญหาเรื่องน้ำที่ต้องเร่งรัดแก้ไขปัญหาให้ได้ น้ำมากชะตามไหล่เขาทั้งภาคเหนือ และภาคใต้ ซึ่งกรมชลประทานน่าจะต้องเข้าไปวางรูปแบบในการแก้ปัญหา เพื่อไม่ให้น้ำเซาะ ซึ่งคราวที่แล้ว นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรฯ ก็กำลังแก้ไขอยู่ นี่เป็นเพียงความคิดเห็นของตน แต่จะได้ดูงานอะไรบ้างก็แล้วแต่พรรคแกนนำจะหารือ ส่วนกระทรวงที่เกี่ยวกับกีฬานั้นทุกพรรคต่างมีความถนัดทั้งพลังชล ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ดังนั้นต้องมาว่ากันอีกที กับ นายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำพรรคพลังชลคุยกันง่าย อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าการแบ่งงานให้พรรคร่วมรัฐบาลนั้นไม่น่าจะมีปัญหา
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า พรรคแกนนำจะให้ตำแหน่งรองประธานสภากับพรรคชาติไทยพัฒนาด้วย นายบรรหาร กล่าวว่า หารือแล้วตำแหน่งรองประธานคงไม่รับ เพราะคงไม่มีตัวบุคคล เพราะต้องเก่งด้านกฎหมาย เมื่อถามว่า อาจจะเปลี่ยนมาเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยแทน นายบรรหาร กล่าวว่า รัฐมนตรีช่วย 1 ที่นั่งนั้นต้องได้อยู่แล้ว ไม่ต้องมาเพิ่ม แค่นั้นก็พออยู่แล้ว เมื่อถามว่า แสดงว่าพรรคชาติไทยพัฒนาได้ 2 รัฐมนตรีว่าการ กับ 1 รัฐมนตรีช่วย ใช่หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ สื่อคิดและคาดคะเนเอาเอง รอถามหัวหน้าพรรคเอาดีกว่า ตนมันแค่ที่ปรึกษาเท่านั้น
เมื่อถามว่า ตลาดหุ้นก็ขานรับรัฐบาลไปในทางที่ดี นายบรรหาร กล่าวว่า เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ก็คิดว่าจะดีขึ้น ตลาดหุ้นก็เป็นอย่างนี้อะไรเปลี่ยนใหม่ก็ดีขึ้น แต่ถ้าไม่ดีขึ้นมาก็คงตกลงไปอีก แต่เชื่อว่าคงดี ใช้ได้