xs
xsm
sm
md
lg

“เติ้ง” ปัดจุ้นร่วมรัฐปูแดง แย้มดึง ภท.เข้า จี้ดันปรองดอง จ่อนัดเจี๊ยะ “เทือก”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประธานกุนซือหัวหน้าชาติไทยพัฒนา อ้างไม่เกี่ยวดึงร่วมรัฐปูแดง คาดเพื่อไทยคงโทร.หาน้องชายวานนี้ ยันยังเป็นพันธมิตรพรรคห้อย โบ้ยภูมิใจไทยทำไม่เข้าเป้าเอง เผยพยายามดึงไปร่วมอยู่ เชื่อเจรจาได้ ชี้รัฐจะเสถียรภาพถ้าได้ 300 ขึ้น ยันพร้อมให้คำแนะนำแต่ชี้ฝั่งโน้นมีซือแป๋เก่งอยู่ จ่อเดินหน้าปรองดอง ไม่พูด “บิ๊กป้อม” คัมแบ็กกลาโหม เตรียมนัดกินข้าว “เทือก” หลัง “มาร์ค” โทร.หาคืนหมาหอน เผยติงรีบยุบสภาทำไม เจ้าตัวอ้างไม่ไหวแล้ว ยัน นช.แม้ว ไม่ได้โทร.มา 2 ปีแล้ว เชื่อเดี๋ยว “อภิสิทธิ์” ก็มาเป็นหัวหน้าเหมือนเดิม


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายบรรหาร ศิลปอาชา ให้สัมภาษณ์  

วันนี้ (4 ก.ค.) ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงความชัดเจนที่พรรคชาติไทยพัฒนาได้เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยแล้วว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เพราะถูกเว้นวรรค 5 ปี ยุ่งเกี่ยวการเมืองไม่ได้ พรรคเพื่อไทยคงประสานมาที่หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เท่าที่ได้สอบถามหัวหน้าพรรค ทราบว่าพรรคเพื่อไทยติดต่อไปตอนเย็นวานนี้ ส่วนรายละเอียดนั้นตนไม่ทราบชัดเจน

“เท่าที่ดูจากข่าวจะตั้ง 4 พรรค คือ พรรคภูมิใจไทย เอ้ยไม่ใช่ พรรคภูมิใจไทยเอาไว้ทีหลัง นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ไปออกว่าจับมือกับพรรคชาติไทยพัฒนา ผมก็ตกใจ อะไรกันนี่ แต่หัวหน้าพรรคไปต่างประเทศ ผมก็ตามตัวยุ่งทั้งคืนเมื่อคืนทั้งคืน มีการเจรจากันบ้างหรือเปล่า ไม่มี เพียงแต่ผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยโทร.มาหาว่าเมื่อได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง ก็คงไม่ขัดข้อง แต่ต้องมาขอมติพรรคอีกครั้งหนึ่ง ก็เลยเป็นข่าวขึ้นมา แล้วคงไปทาบทามอีก 2-3 พรรค แต่ผมไม่เกี่ยวนะ ไม่ได้ชี้แนะ” นายบรรหารกล่าว

เมื่อถามว่า พรรคชาติไทยพัฒนากับพรรคภูมิใจไทยยังเป็นพันธมิตรกันอยู่หรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า ยังเป็นอยู่แต่ได้บอกกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคว่าต้องได้ 70 ที่นั่งไม่งั้นจะมีปัญหาแน่ในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะถ้า 70 บวกกับ ประชาธิปัตย์ 160 ที่นั่งและชาติไทยพัฒนาอีกประมาณ 20 ที่นั่ง ทุกอย่างก็จบจัดตั้งรัฐบาลได้ ท่านเนวินก็ยืนยันมากับตนแต่ทีนี้เป็นอย่างไรก็เหลือแค่ 34 คน แล้วมันก็คล้ายกับของเดิม ซึ่งได้ 160 บวก 34 เป็น 194 แล้วบวกอีกสัก 20 แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะฝ่ายโน้นก็เกิน 250 เสียงไปแล้ว เพราะเข้าเหลืออีกแค่ 10 กว่าเสียงก็ตั้งรัฐบาลได้แล้ว มันเป็นเดดล็อก ทำไมพระเจ้าให้การเมืองเป็นอย่างนี้เหมือนครั้งที่แล้วไม่มีผิด ตำราเดียวกันเลยไม่รู้ใครเขียนมา ตนสังหรณ์ใจว่าขออย่าให้เป็นอย่างนี้ ขาดก็ขาดไปเลย แต่ในเมื่อเหตุการณ์เป็นอย่างนี้ก็ต้องไปว่ากัน

เมื่อถามว่า แสดงว่าไม่ได้เป็นไปตามสัญญาที่ให้ไว้กับพรรคภูมิใจไทยใช่หรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า ไม่ใช่อย่างนั้น แต่ต้องดูช่วงจังหวะเวลาแต่นี่ก็ยังไม่ทิ้งนะพยายามจะดึงพรรคภูมิใจไทยไปอยู่ว่าเขาจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ ก็พูดคุยกันอยู่ตลอดเวลาไม่ได้ทิ้ง เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยได้ออกแถลงการณ์ย้ำหลายครั้งก่อนหน้านี้ว่าไม่เอาพรรคภูมิใจไทยร่วมรัฐบาล นายบรรหารกล่าวว่า อะไรก็แล้วแต่ บทเรียนก็มีมาแล้ว มีปัญหาก็สามารถพูดคุยเจรจากันได้ ที่ปรองดองกันไม่ได้ก็เพราะปัญหาอย่างนี้ คนที่โกรธกันทะเลาะกันถ้าหันหน้าเข้าหากันก็ไม่มีปัญหาเกิดขึ้น แต่ขึ้นอยู่กับพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลว่าตอบรับได้แค่ไหน เราสามารถเสนอได้แต่อยู่ที่พรรคแกนนำว่าจะตอบรับได้แค่ไหนเราก็ยังตอบไม่ได้แล้วต้องดูว่าทางโน้นจะโอเคไหมเราก็พูดคุยกันอยู่ ยิ่งตอนนี้เสียงมันไป 290 กว่ามันก็นิ่งอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า รัฐบาลเกือบ 300 เสียงจะมีความมั่นคงได้ขนาดไหน นายบรรหารกล่าวว่า ครั้งที่แล้วพรรคประชาธิปัตย์ก็ตั้งรัฐบาลเสียงประมาณ 280 เสียง แต่ปัญหาอยู่ที่การคุมลูกพรรคให้อยู่ในสภาเวลาโหวตเรื่องสำคัญ แต่ถ้าจะให้ดีก็ต้องมากกว่า 300 เสียง เมื่อถามว่าภาพของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่มีการคาดหวังว่าต้องได้คนหน้าตาดีหล่อๆ นายบรรหารกล่าวว่า “งั้นพรรคชาติไทยพัฒนาเสนอคุณกันต์ เดอะสตาร์ดีไหม เรื่องหน้าตาก็แล้วแต่เราตอบไม่ได้ต้องให้นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคกลับมาก่อน”

เมื่อถามว่า โฉมหน้าคณะรัฐมนตรีภายใต้การควบคุมของนายกรัฐมนตรีหญิงจะเป็นอย่างไร นายบรรหารกล่าวว่า ภาพลักษณ์คงไม่ได้อยู่ที่พรรคร่วมรัฐบาล เพราะพรรคร่วมรัฐบาลถือเป็นเพียงซีกหนึ่งเท่านั้น แต่เสี้ยวใหญ่อยู่ที่พรรคเพื่อไทยว่าเขาจะจัดกันอย่างไรอยู่ในตำแหน่งเหมาะสมหรือไม่ตรงนี้สำคัญกว่า เพราะอย่างน้อยเขาต้องเข้าไปควบคุมกระทรวงเศรษฐกิจไม่ปล่อยให้พรรคร่วมรัฐบาลเอาเศรษฐกิจไป อย่างไรก็ตาม ถ้าเขามาปรึกษาตนเป็นการส่วนตัวก็พร้อมให้ข้อแนะนำได้แต่ถ้าไม่ปรึกษาก็จบ แต่ตนคงไม่ต้องให้คำแนะนำอะไรมากเพราะเขามีซือแป๋เก่งจะตายอยู่ที่โน่น

เมื่อถามว่า ต้องชูเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลักหรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า ต้องเอาเรื่องความปรองดองเป็นหลัก ถ้าไม่มีตรงนี้เศรษฐกิจก็ไปไม่รอดเดี๋ยวก็เดินขบวนกันออกมา เดี๋ยวเสื้อสีโน่นสีนี่ก็ออกมา ตนขอให้ทำเรื่องปรองดองก่อนและต้องเดินหน้าอย่าชักช้ามีความจริงใจ

เมื่อถามว่า สำหรับตำแหน่งรมว.กลาโหมต้องรูปหล่อหน่อยใช่หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า แล้วตอนนี้ใครหล่อ เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่หาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะกลับดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหมอีกตามที่มีกระแสข่าว นายบรรหารกล่าวว่า ตนออกความเห็นไม่ได้ ขึ้นอยู่กับพรรคแกนนำ

เมื่อถามว่า ถึงขณะนี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ได้โทรศัพท์หาบ้างแล้วหรือยัง นายบรรหารกล่าวว่า ตนจะนัดทานข้าวกับนายสุเทพในอีก 1-2 วันนี้ เพราะบังเอิญในวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ร้อยวันพันปีไม่เคยคุยโทรศัพท์กัน แต่ในวันดังกล่าวนายอภิสิทธิ์ โทร.มาหาตนทำเอาตกใจหวิดตกจากเก้าอี้ คุยกันถึงประมาณ 5 ทุ่ม กำลังนอนหลับ นายสุเทพก็โทร.มาอีกทำเอาตนตื่นจากที่นอนจนนอนไม่หลับทั้งคืน ตนให้กำลังใจทุกคนไม่ว่าใครโทร.มาก็ให้กำลังใจทั้งนั้นขอให้อดทน ได้รับชัยชนะ ส่วนจะได้ชัยชนะแค่ไหนก็ตอบไม่ได้ และตนยังได้ถามนายอภิสิทธิ์ด้วยว่า แล้วท่านนายกฯ ยุบสภาทำไม พวกตนลำบาก ถ้าอยู่จนครบเทอม งบประมาณผ่านสภาก็จะค่อยยังชั่ว แต่นี้ต้องมาแก้ไขมาจัดทำงบประมาณกันใหม่ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ก็บอกว่าขอให้เห็นใจเพราะเขาไม่ไหวแล้ว

“ขอให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ โดยเฉพาะเรื่องการปรองดองเป็นเรื่องที่สำคัญต้องเดินหน้าต่อไป แต่จะปรองดองในรูปใดค่อยมาพูดกันอีกที หากบ้านเมืองเราไม่มีความปรองดองก็ทำอะไรไม่ได้” นายบรรหารกล่าว

เมื่อถามว่า ทางด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้าย ได้โทรศัพท์มาหาหรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า ไม่มีโทร.มา 2 ปีมาแล้วไม่เคยพูดกันเลย เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่โทร.มาเพื่อคำแนะนำจัดตั้งรัฐบาลเลยหรือ นายบรรหารกล่าวว่า เขาจะต้องมาขอตนทำไม เพราะเขาก็เซียนอยู่แล้วในเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการพ่ายแพ้การเลือกตั้ง นายบรรหารกล่าวว่า ถ้าให้ตนเดาขอเดาว่า เดี๋ยวพรรคประชาธิปัตย์ก็จะมีมติเลือกนายอภิสิทธิ์กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีก เพราะลาออกได้ก็กลับเข้าไปใหม่ได้ เพราะพรรคประชาธิปัตย์คงจะหาคนมาแทนได้ลำบาก หรือจะให้นายสุเทพเป็นหัวหน้าพรรคแทนได้หรือไม่ แต่ตนเดาว่าพรรคประชาธิปัตย์คงมีมติให้นายอภิสิทธิ์กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีก

กำลังโหลดความคิดเห็น