xs
xsm
sm
md
lg

“ยะใส” แย้ม “ปูแดง” ช้ำโพลลวง ผวาพิษใต้ดิน “ยี่ห้อย” ฮุบฐานเสียง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 นายสุริยะใส กตะศิลา
“ยะใส” ระบุ บทสรุปเลือกตั้งแค่เอาหรือไม่เอาทักษิณ ชี้ “ปูแดง” งานเข้า กระแสการเมืองดึงเสียงคนอีสานไม่ได้ อยากได้ต้องล็อกพื้นที่ ซึ่งเข้าทาง “ยี่ห้อย” เคยใช้เก้าอี้มหาดไทยวางระบบอุปถัมภ์ไว้แล้ว แย้มมีข่าววางฟอร์มจัดตั้ง รบ.เชื่อ หาก พท.ได้เป็น รบ.“บิ๊กป้อม” ได้นั่ง รมว.กลาโหม แกนนำเหลือง-แดง ส่อเป็นเหยื่อโดนเชือดคืนศักดิ์ศรีให้กองทัพ


วันที่ 29 มิ.ย.2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ วิเคราะห์สถานการเลือกตั้ง ว่า สุดท้ายจะเป็นเพียงเข้าคูหาลงประชามติ เอาหรือไม่เอาทักษิณ แต่เมื่อมีการรณรงค์โหวตโน ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีค่ามากกว่าเอาไม่เอาทักษิณ ยิ่งดูจากพฤติกรรมที่แสดงออกของ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย ยิ่งตอกย้ำความคิดของตนชัดเจนขึ้น

เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ พรรคประชาธิปัตย์ จะต้องหยิบประเด็นความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาหาเสียง เห็นได้จากมีการติดป้ายประกาศว่า ไม่ล้างผิดคนคนเดียว ซึ่งดูเหมือนจะดีแต่ลืมเขียนว่าต้องดำเนินการกับคนทำความผิดด้วย เพราะหากไม่ดำเนินการก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาให้บ้านเมือง

ส่วนพรรคเพื่อไทย เซียนการเมืองบอกคะแนนตก ตรงนี้เป็นเพราะโพลที่ทำมีการปั่นกระแส ขาดความเป็นเหตเป็นผล วันดีคืนดีจึงล่วงหายไปง่ายๆ นายชุมพล ศิลปอาชา ถึงได้ออกมาเตือนนางสาวยิ่งลักษณ์ ว่า หากปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเข้ามาชูประเด็นนิรโทษกรรมคะแนนจะล่วง ทำให้ช่วงหลังคนในพรรคเพื่อไทย ออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันจะไม่นิรโทษกรรมให้คนผิด แต่คงไม่มีใครเชื่อ เพราะธรรมชาติของนักการเมืองคำพูดกับการกระทำต่างกัน ด้วยเหตุนี้ทำให้เห็นภาพ นางสาวยิ่งลักษณ์ ไปหาเสียงภาคอื่นอย่างเก่งก็ไปได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ต้องรีบกลับปักหลักในภาคอีสาน เพราะเจอยุทธการใต้ดินของเนวิน ชิดชอบ เข้าไป

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า คนอีสานไม่ได้เลือกพรรคการเมืองตามกระแส ตีปี๊บไม่ได้ใจคนอีสาน หากจะเอาชนะเสียงในภาคอีสานต้องล๊อกพื้นที่เท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้เป็นงานถนัดเข้าทางนายเนวิน หากจำกันได้ตอนพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้เจาะจงเน้นเก้าอี้กระทรวงมหาดไทย เป็นเพราะ ตำแหน่งนี้จะคลุมผู้ว่าในทุกจังหวัด และช่วงที่ผ่านมาได้สร้างระบบอุปถัมภ์หยั่งเสียงไว้แล้ว ด้วยเหตุนี้เองทำให้พรรเพื่อไทยงานเข้า ไม่ง่ายอย่างที่คิด ถึงได้เอาพ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาแสดงบทบาททางการเมืองเพื่อเรียกเรตติ้งมากขึ้นด้วยการ ทวิตเตอร์บ้าง โฟนอินบ้าง

“สุดท้ายหากปล่อยให้สองพรรคใหญ่แข่งกันในคูหาเลือกตั้ง น่าเสียด้ายกับเงินที่รัฐต้องเสียไปเป็นหมื่นล้าน ถือว่าเสียโอกาสไปมากที่เดียว แต่ยังโชคดีที่เราเป็นกลุ่มคนที่สร้างทางเลือกที่สามไว้ ต้องปรบมือให้พลังโหวตโนทั้งประเทศ”

นายสุริยะใส กล่าวว่า หากพี่น้องติดตามข่าว จะเห็นว่า ขณะนี้ภายใต้แกนนำของพรรคเพื่อไทยมีการฟอร์มจัดตั้งรัฐบาลไว้แล้ว ตนก็ไม่อยากไห้พี่น้องไปเชื่อมากนัก ทั้งนี้จากโพลสำรวจของพรรคเพื่อไทย ที่พุ่งขึ้นต่อเนื่อง ทำให้มีการล๊อบบี้ต่อรองกับขั้วทางการเมืองฝุ่นตลบ โดยเฉพาะพรรคกองทัพไทย ดังนั้นข่าวที่ว่า หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล แล้วนางสาวยิ่งลัษณ์ ได้เป็นนายกฯ แล้วจะมี รัฐมนตรีกลาโหมจะชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั้น ตนเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูง

สูตรการเมืองของเพื่อไทยหากได้เป็นรัฐบาล ตนกังวลว่า อาจมีการขุดหลุมพรางทางการเมือง ให้แกนนำเสื้อเหลืองกับแกนนำเสื้อแดง ตกเป็นเหยื่อ มีข่าวคล้ายๆ จะเป็นข้อตกลงลับๆ ให้ดำเนินคดีกับแกนนำเสื้อเหลืองให้ถึงที่สุดและรวดเร็ว ถ้าต้องเชือดไก่ให้ลิงดูก็ต้องเชือด สำหรับแกนนำคนเสื้อแดง เพื่อให้กองทัพสบายใจในฐานะที่ต้องปกป้องสถาบัน ให้ดำเนินคดีอย่างเต็มที่ ทำให้ตนไม่แน่ใจว่าท้ายที่สุดแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ จะอุ้ม นายจตุพร พรหมพันธุ์ หรือ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ไปตลอด

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า โหวตโน มีชัยชนะที่เป็นรูปธรรม 1.ทำให้คำว่าปฏิรูปมีเจ้าภาพ คือ ประชาชนคนเสื้อเหลือง มีตัวตนไม่ใช่วาทกรรมลอยๆอีกต่อไป มีธงใครมาเป็นรัฐบาลก็ต้องปฏิรูปประเทศ 2.โหวตโนมีกฎหมายรองรับชัดเจน นักกฎหมายหลายท่าน ชี้ให้เห็นมีข้อกฎหมายรองรับ เหตุผลทางรัฐศาสตร์ยิ่งมีคุณค่า หากเกิน 5 ล้านสะเทือนการเมืองไทยแน่นอน 3.โหวตโนกลายเป็นรูปแบบทางการเมืองของพลังปฎิรูป แม้ที่ผ่านมามีพลังปฎิรูปแล้วแต่อายุสั่นเป็นเพราะไม่มีช่องทางให้แสดงเจตจำนงได้อย่างนักการเมือง แต่ครั้งนี้โหวตโนมีพลัง พันธมิตรฯเห็นว่าเป็นช่องทางของคนที่ต้องการปฏิรูปทางการเมือง
กำลังโหลดความคิดเห็น