เลขาฯ กกต.แจงประชาสมพันธ์หนักแล้ว คนไม่รู้กาบัตรล่วงหน้าปัญหาต้องแก้กฎหมาย หากกากบาทโลโก้เป็นบัตรเสีย แก้กฎหมายไม่ได้ ให้ความคุ้มครองสิทธิเพศที่สาม กว่า 4 ล้านคน แนะให้นำบัตรในหลายติดตัวไปใช้สิทธิ์ กำชับ กกต.จว.อำนวยการเลือกตั้งด้วยความสุภาพ ห้ามหมิ่นเหม่ภาพในบัตรประชาชน
วันนี้ (1 ก.ค.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.กล่าวชี้แจงถึงกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยื่นหนังสือถึง กกต.ว่า ไม่ได้ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งล่วงหน้าให้ประชาชนเข้าใจ จนทำให้มีผู้ไม่ได้ไปใช้สิทธิจำนวนมากว่า ที่ผ่านมา กกต.ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งมาล่วงหน้ามาโดยตลอดทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ หรือการแถลงข่าวหลายครั้ง เพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ หากเคยลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตไว้เมื่อปี 2550 แล้ว ครั้งนี้หากไม่ต้องการใช้สิทธิดังกล่าวก็จะต้องไปแจ้งถอนชื่อ หรือแจ้งย้ายชื่อ เนื่องจากกฎหมายระบุให้การลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าจะมีผลผูกพันไปตลอดจนกว่าจะมีการแจ้งเปลี่ยน ส่วนผู้ที่เคยลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรไว้เมื่อปี2550 ก่อนที่จะมี พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง กกต.ก็ประสานกับกรมการกงสุลให้ช่วยประชาสัมพันธ์ให้คนไทยที่เคยลงทะเบียนไว้ หากไม่ต้องการไปใช้ก็ให้ถอนชื่อออก ก็ได้รับความสนใจอย่างดี และมีคนมาถอนชื่อมากกว่า 10,000 คน แต่อย่างไรก็ตามก็คิดว่ายังมีคนที่ไม่ได้รับสื่อหรือรับรู้ที่กกต.ประชาสัมพันธ์อยู่บ้าง ก็เป็นเรื่องที่ต้องปรับปรุง และก่อนหน้านี้กกต.ก็เคยเสนอความเป็นห่วงเรื่องนี้ไปยังกรรมาธิการ ส.ส.เพื่อให้แก้ไขเรื่องดังกล่าวในพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.แต่ทางกรรมาธิการก็มีเหตุผลเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน แต่หลังจากนี้จึงจะได้ประมวลข้อร้องเรียน และปัญหาทั้งหมดเพื่อเสนอไปยังกรรมาธิการ เพื่อให้พิจารณาในเรื่องนี้อีกครั้ง
นายสุทธิพล กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องบัตรเลือกตั้งที่กลุ่มนปช.เสนอให้ยกเว้นบัตรเสียหากกากบาทในช่องโลโก้นั้น พิจารณาแล้วเห็นว่าหากมีการทำแบบนั้นจะสร้างความสับสนแก่ประชาชน และจะก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี และที่ผ่านมาสถิติบัตรเสียจะมีในบัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตมากกว่า ส่วนบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ที่ปรับเปลี่ยนมาจากบัตรเลือกตั้งแบบสัดส่วนนั้นประชาชาชนมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะรูปแบบของบัตรไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก ที่เพียงช่องสัญลักษณ์พรรคการเมืองที่เพิ่มเข้ามา แต่การเพิ่มก็เป็นการเสนอของพรรคการเมืองต่างๆ มาเอง
“เรื่องนี้มั่นใจว่าประชาชนจะเข้าใจ และไม่สับสน จากการลงพื้นที่หลายพื้นที่ก็เห็นว่าประชาชนเข้าใจ และรู้ว่าจะต้องกากบาทอย่างไรประชาชนเข้าใจ” นายสุทธิพล กล่าว
เลขาธิการ กกต.กล่าวถึงกรณีความเป็นห่วงว่ากลุ่มหลากหลายทางเพศ หรือกลุ่มเพศที่ 3 จะไม่กล้าออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดความอับอายหากรูปในบัตรประจำตัวประชาชน จะไม่ตรงกับตัวจริง หรือถูกหัวเราะขบขันจากเจ้าหน้าที่กรรมการประจำหน่วย(กปน.) ว่า เรื่องดังกล่าวได้มีการประชุมกันใน กกต.และให้นโยบายไปยัง กกต.จว.ทุกจังหวัดว่า หากรูปในบัตรประจำตัวประชาชน ไม่ตรงกับหน้าตาของเจ้าของบัตร เนื่องจากเป็นกลุ่มหลากหลายทางเพศก็ขอให้สอบถามด้วยความสุภาพ ไม่ให้มีการหัวเราะขบขัน และผอ.กปน.หน่วยนั้นๆ เป็นผู้พิจารณาว่าเป็นเจ้าของบัตรตัวจริงหรือไม่ ส่วนข้อแนะนำไปยังกลุ่มหลากหลายทางเพศว่านอกจากจะพกบัตรประจำตัวประชาชนติดตัวไปด้วยแล้ว ก็ขอให้นำบัตรที่ทางราชการออกให้ใบอื่นติดตัวไปด้วย เพื่อยืนยันการเป็นเจ้าของสิทธิเลือกตั้งตัวจริง
“ในการเลือกตั้งครั้งนี้ กลุ่มหลากหลายทางเพศก็เริ่มที่สนใจที่จะไปเลือกตั้งด้วยเช่นกัน โดยจากยอดแล้วคนเหล่านี้มีจำนวนประมาณ 4 ล้านกว่าคน ซึ่งบางคนก็มีสิทธิ และอาจไม่มีสิทธิก็ไม่ใช่น้อยมากกว่ากลุ่มคนพลังคนรุ่นใหม่ ตรงนั้นมีประมาณเกือบล้านคนเท่านั้น คนเหล่านี้ได้มีการแต่งเป็นหญิง จึงขอเตือนกปน.ว่าเวลาเขามาเลือกตั้งเราก็ต้องปฏิบัติเขาโดยไม่ให้ถูกดูหมิ่นดูแคลน เราก็เขาไปทำงานร่วมกับเขา” เลขาธิการ กกต.กล่าว