แนะจับตาโค้งสุดท้ายหาเสียงนักเลือกตั้งเมืองน้ำดำเงินซื้อเสียงสะพัดไม่ต่ำกว่าพันล้าน

กาฬสินธุ์ - ปธ.หอการค้ากาฬสินธุ์ ให้จับตาเงินนอกระบบที่จะใช้ในช่วงโค้งสุดท้ายและคืนหมาหอน คาดสะพัดไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท โดยเฉพาะค่ำคืน 2 ก.ค.จะมีกระสุนสีเทาว่อนเต็มพื้นที่โดยเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ 5 ที่เป็นการแข่งขันกันระหว่างพรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย

วันนี้ (22 มิ.ย.) นายชนินทร์ สังข์วิเศษ ประธานหอการค้า จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ทางหอการค้าไทยได้มีการคาดการณ์เม็ดเงินที่จะสะพัดในช่วงเลือกตั้งทั่วประเทศประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ภาพรวมในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ทั้ง 18 อำเภอ 6 เขตเลือกตั้ง มีเงินสะพัดในพื้นที่อยู่ประมาณพันล้านบาท โดยจะอยู่ในภาคธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ และภาคแรงงานที่กระจายไปในทุกชุมชน ซึ่งนับว่าในการจัดการเลือกตั้งทำให้เศรษฐกิจตื่นตัวคึกคักมากขึ้น มีการจับจ่ายซื้อของเพิ่มมากขึ้นตามมาด้วย

แต่ทั้งนี้ ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง คาดว่า จะยิ่งเพิ่มการแข่งขันสูงขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ที่คาดการณ์ว่าจะมีการต่อสู้กันอย่างรุนแรงทั้ง 6 เขตเลือกตั้ง ทั้งนี้เป็นเพราะพรรคใหญ่ๆ ได้ส่งผู้สมัครของพรรคครบทุกเขตเลือกตั้งและทุกพรรคก็ตั้งความหวังจะต้องได้เก้าอี้ ส.ส.ในกลุ่มของตัวเต็ง ขณะที่เจ้าของพื้นที่เดิมอย่าง พรรคเพื่อไทย ทั้ง 6 เขตต่างพยายามที่จะรักษาเก้าอี้ของตัวเองไว้ให้ได้

ทั้งนี้ อย่างพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีสิทธิ์ลุ้นในหลายพื้นที่ บรรดาผู้สมัครของพรรคเร่งลงพื้นที่เช่นเดียวกันกับพรรคภูมิใจไทย ที่มีการลงพื้นที่แบบถี่ยิบไม่น้อยกว่าพรรคอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าจับตามองในคืนวันที่ 2 ก.ค.หรือภาษาการเมืองเลือกตั้ง เรียกว่า คืนหมาหอน จะมีเงินนอกระบบสะพัดในพื้นที่ทั้งหมดและในพื้นที่เขต 5 ที่เป็นการช่วงชิงของพรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทยน่าจะมีเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทเฉพาะในเขตเลือกตั้งเขตนี้ ซึ่งการยิงกระสุนสีเทาในพื้นที่เขต 5 กาฬสินธุ์ เป็นที่น่าจับตามองมาก ซึ่งไม่น้อยกว่าการลุ้นว่าใครจะได้ ส.ส.ในเขตนี้

สำหรับเขตเลือกตั้ง จ.กาฬสินธุ์ 6 เขตเลือกตั้ง เซียนการเมือง ระบุว่า ในเขตเลือกตั้งที่ 1 ซึ่งพรรคเพื่อไทยส่ง นางบุญรื่น ศรีธเรศ เจ้าของพื้นที่เดิมลงสมัคร โดยมีคู่แข่งอย่างนายชัย คูสกุลรัตน์ พรรคภูมิใจไทยเป็นตัวเบียดและมีนาง จารุณี พิมพะนิตย์ ณ นครพนม พรรคชาติไทยพัฒนาฯ นายดุษณีศักดิ์ โง่นคำ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นตัวสอดแทรก

ส่วนในเขตเลือกตั้งที่ 2 เป็นการห้ำหั่นของพรรคเพื่อไทย นายวีระวัฒน์ โอสถานุเคราะห์ และนางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา พรรคภูมิใจไทย เป็นการสู้แบบตัวต่อตัวไม่มีคู่แข่งเข้ามาสอดแทรก ส่วนในเขตเลือกตั้งที่ 3 เป็นศึกวัดศักดิ์ศรีของนักการเมืองรุ่นเก๋าอดีต ส.ส.และตัวเต็งที่รักษาพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย นายคมเดช ไชยศิวามงคล พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน อดีต ส.ส.3 สมัยอย่าง นายวิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง พรรคภูมิใจไทย นายบวร ภูจริต อดีต ส.ส.หลายสมัยเช่นกัน และยังมีตัวเต็งของพรรคประชาธิปัตย์อย่างนายจำลอง ภูนวนทา

อีกเขตเลือกตั้ง คือ เขต 4 เขตนี้ถือว่าสบาย เพราะพรรคเพื่อไทย นายพีระเพชร ศิริกุล ไม่มีคู่แข่งเบียดได้ เขตเลือกตั้งที่ 5 เขตนี้เจ้าของเดิม คือ นายนิพนธ์ ศรีธเรศ พรรคเพื่อไทยที่ต้องสู้แบบหืดจับเพราะมีคู่แข่งที่เป็นมหาเศรษฐีเงินเต็มกระเป๋าอย่าง น.ส.ภัทรา วรามิตร พรรคภูมิใจไทย

ส่วนเขตที่ 6 พรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ บุญเรือง ยังมีเสียวบ้างเล็กๆ เพราะมีตัวสอดแทรกกระแสดีอย่าง พรรคประชาธิปัตย์ ดร.ธวัธวงศ์ชัย ไตรทิพย์ และ นายแม้วมงคลชัย ไชยทองศรี พรรคภูมิใจไทย ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่าเป็นทั้งศึกศักดิ์ศรีและการช่วงชิงฐานการเมืองที่จะส่งผลไปสู่การเลือกตั้ง อบจ.ของกาฬสินธุ์ ในเร็วๆ นี้ ด้วย