กาฬสินธุ์ - ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง ส.ส.ยิ่งทำให้บรรยากาศการหาเสียงคึกคักมากยิ่งขึ้น และส่งผลให้แรงงานที่รับจ้างไถและปักดำขาดแคลน หลังต้องไปรับจ้างผู้สมัครหาเสียง รวมทั้งแรงงานรับจ้างติดตั้งป้ายอีกด้วย
วันนี้ (14 มิ.ย.) ที่จังหวัดกาฬสินธุ์บรรยากาศการหาเสียง ของผู้สมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)ทวีความคึกคักมากยิ่งขึ้น จนทำให้ทุ่งนาข้าวหลายแห่งยังว่างและรกร้าง ผิดจากปกติที่เป็นช่วงทำนาตามฤดูกาล และฝนก็ตกมาพอเหมาะที่จะทำนาได้
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่สอบถามพบว่าชาวนาและกลุ่มแรงงานรับจ้างทำนาในปีนี้ต่างหันไปช่วยและรับจ้างผู้สมัครหาเสียง และไปติดตามนักการเมืองที่ตนเองชื่นชอบจำนวนมาก ทำให้นาข้าวที่พบเห็นบางแห่งยังมีการไถไว้บ้าง และบางแห่งมีการหว่านกล้าพันธุ์ข้าวไว้ แต่ก็มีส่วนมากที่ยังไม่ดำเนินการใด ๆ เลย
นายเอกพงษ์ อุ่นฤทธิ์ รองนายกเทศมนตรีตำบลลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในช่วงการหาเสียงของผู้สมัครส.ส.ดังกล่าว พบว่าชาวบ้านในพื้นที่ชาวบ้านมีการตื่นตัวเป็นอย่างมาก เชื่อว่าจากการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นมิติใหม่ของการเมืองการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง จึงกระตือรือร้นที่จะออกไปใช้สิทธิ์ มีการจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันในชุมชน ทั้งนี้ ต่างก็ต้องการให้การเลือกตั้ง ดำเนินไปด้วยความโปร่งใส ผู้สมัครฯและผู้ให้การสนับสนุนแข่งขันกันในกติกา ไม่มีปัญหาข้อขัดแย้ง และไม่มีการทุจริตเลือกตั้ง ทุกคนต้องการผู้แทนที่จะเข้าไปทำหน้าที่เป็นปากเสียงแทนชาวบ้าน ไม่ต้องการนักการเมืองที่ชอบสร้างภาพ และที่เข้าไปรักษาผลประโยชน์ในกลุ่มของตน มากกว่าผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ
จึงเป็นสาเหตุหนึ่งให้ต้องละเว้นจากการทำนาในช่วงนี้ โดยหันมาจับกลุ่มพูดคุย และให้การสนับสนุนผู้สมัครที่ตนชอบ ทำให้พื้นที่แปลงนายังรกร้างดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น นับว่าเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ที่ชาวบ้านมีความตื่นตัวเรื่องการเมืองและให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นผลดีที่อาจจะทำให้ยอดผู้มาใช้สิทธิ์เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าการเลือกตั้งในครั้งที่ผ่าน ๆ มา
นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่าในช่วงเลือกตั้งจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทในพื้นที่ ทั้งด้านธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ ป้ายหาเสียงโฆษณา รถแห่ และภาคแรงงาน
วันนี้ (14 มิ.ย.) ที่จังหวัดกาฬสินธุ์บรรยากาศการหาเสียง ของผู้สมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)ทวีความคึกคักมากยิ่งขึ้น จนทำให้ทุ่งนาข้าวหลายแห่งยังว่างและรกร้าง ผิดจากปกติที่เป็นช่วงทำนาตามฤดูกาล และฝนก็ตกมาพอเหมาะที่จะทำนาได้
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่สอบถามพบว่าชาวนาและกลุ่มแรงงานรับจ้างทำนาในปีนี้ต่างหันไปช่วยและรับจ้างผู้สมัครหาเสียง และไปติดตามนักการเมืองที่ตนเองชื่นชอบจำนวนมาก ทำให้นาข้าวที่พบเห็นบางแห่งยังมีการไถไว้บ้าง และบางแห่งมีการหว่านกล้าพันธุ์ข้าวไว้ แต่ก็มีส่วนมากที่ยังไม่ดำเนินการใด ๆ เลย
นายเอกพงษ์ อุ่นฤทธิ์ รองนายกเทศมนตรีตำบลลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในช่วงการหาเสียงของผู้สมัครส.ส.ดังกล่าว พบว่าชาวบ้านในพื้นที่ชาวบ้านมีการตื่นตัวเป็นอย่างมาก เชื่อว่าจากการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นมิติใหม่ของการเมืองการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง จึงกระตือรือร้นที่จะออกไปใช้สิทธิ์ มีการจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันในชุมชน ทั้งนี้ ต่างก็ต้องการให้การเลือกตั้ง ดำเนินไปด้วยความโปร่งใส ผู้สมัครฯและผู้ให้การสนับสนุนแข่งขันกันในกติกา ไม่มีปัญหาข้อขัดแย้ง และไม่มีการทุจริตเลือกตั้ง ทุกคนต้องการผู้แทนที่จะเข้าไปทำหน้าที่เป็นปากเสียงแทนชาวบ้าน ไม่ต้องการนักการเมืองที่ชอบสร้างภาพ และที่เข้าไปรักษาผลประโยชน์ในกลุ่มของตน มากกว่าผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ
จึงเป็นสาเหตุหนึ่งให้ต้องละเว้นจากการทำนาในช่วงนี้ โดยหันมาจับกลุ่มพูดคุย และให้การสนับสนุนผู้สมัครที่ตนชอบ ทำให้พื้นที่แปลงนายังรกร้างดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น นับว่าเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ที่ชาวบ้านมีความตื่นตัวเรื่องการเมืองและให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นผลดีที่อาจจะทำให้ยอดผู้มาใช้สิทธิ์เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าการเลือกตั้งในครั้งที่ผ่าน ๆ มา
นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่าในช่วงเลือกตั้งจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทในพื้นที่ ทั้งด้านธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ ป้ายหาเสียงโฆษณา รถแห่ และภาคแรงงาน
