“มาร์ค” หาเสียงสมุทรสาคร ก่อนไปนนทบุรี ลพบุรี ย้ำ ถ้าเลือกเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะล้างความผิดให้ “นช.แม้ว” แถมคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาท แกนนำแก๊งแดงมีอำนาจบ้านเมืองจะวุ่นวาย ด้าน “เจ๊ปู” ขึ้นรถไฟหาเสียงศรีสะเกษ ก่อนบุกถิ่น “เนวิน” บุรีรัมย์ ทำฟิตประชุมแผนรถไฟรางคู่ พร้อมปัดเป็นพรรคเ้ผาบ้าน เผาเมือง สั่งฝ่ายกฎหมายพรรคดูป้ายสยามสามัคคี ก่อนพิจารณาร้อง กกต.
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย ว่า เช้าวันนี้ (29 มิ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปยัง จ.สมุทรสาคร เพื่อช่วย นายครรชิต ทับสุวรรณ ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์หาเสียง โดยก่อนการหาเสียง นายอภิสิทธิ์ ได้เข้าสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร พร้อมจุดประทัดเอาฤกษ์ ก่อนขึ้นรถแห่หาเสียงในตลาดมหาชัย วนรอบตลาดและรอบเมือง พร้อมกับขึ้นปราศรัยบริเวณลานหน้าท่าเรือรับลม
นายอภิสิทธิ์ กล่าวปราศัยโดยย้ำความสัมพันธ์ของพรรคประชาธิปัตย์ กับสมุทรสาคร โดยได้ย้อนถึงสมัยเล่นการเมืองใหม่ๆ ว่า จ.สมุทรสาคร เป็นจังหวัดแรกแรกที่หาเสียง และหอมแก้มครั้งแรกก็ที่นี่
นายอภิสิทธิ์ ปราศรัยถึงนโยบายพรรคที่จะช่วยเหลือประชาชน ไม่ว่าจะเป็นนโยบายประกันรายได้เกษตรกร เรียนฟรี เบี้ยผู้สูงอายุ ค่าตอบแทน อสม.ตรึงแก๊สแอลพีจีและดีเซล และยังได้ย้ำว่า หากเลือกพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะล้างความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเอาเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทคืน และแกนนำเสื้อแดงจะมีอำนาจมากขึ้นพี่น้องจะยอมหรือไม่ บ้านเมืองจะวุ่นวายอีก
ผู้สื่อข่าวหลังจาก นายอภิสิทธิ์ ช่วย นายครรชิต หาเสียงแล้ว ก็จะไปช่วย นายนิติรัคฐ สุนทรวร ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ หาเสียงต่้อ โดยการพบปะพี่น้องประชาชน พร้อมขึ้นเวทีปราศรัย
สำหรับช่วยบ่าย นายอภิสิทธิ์ มีกำหนดการเดินทางไปช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียงที่ จ.นนทบุรี และลพบุรีด้วย
ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับ 1 พรรคเพื่อไทย ได้ขึ้นรถไฟจากจ.อุบลราชธานี ไปยังศรีสะเกษ เพื่อช่วยผู้สมัครพรรคเพื่อไทยหาเสียง ก่อนจะไปยัง จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ และเดินทางไปปราศรัยใหญ่ที่ จ.นครราชสีมา โดยมีการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ที่เดินทางด้วยรถไฟเพื่อตรวจสภาพขบวนรถไฟ ให้เป็นไปตามแผนนโยบายเมกกะโปรเจ็กต์ และรถไฟรางคู่ ซึ่งหากทำได้ประชาชนก็ได้ประหยัดเวลามากขึ้น ส่วนจะมีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางเดินรถไฟหรือไม่นั้น ต้องมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า หากได้เป็นรัฐบาลโครงการเมกกะโปรเจ็กต์จะทำได้จริงและเสร็จภายใน 4 ปี เพราะได้หารือกับผู้เชี่ยวชาญถึงแผนการศึกษานโยบายปี 2020 ซึ่งเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงของประเทศในอนาคต ทั้งนี้หากไม่ได้เป็นรัฐบาลถึง 2 สมัย ก็อยากให้รัฐบาลชุดต่อไปมาสานต่อโครงการต่อด้วย เพราะโครงการดังกล่าวไม่ได้คิดเพื่อแค่หวังหาเสียงอย่างเดียว แต่เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน
ส่วนที่กลุ่มสยามสามัครี ขึ้นป้าย อย่าเลือกพรรคที่เผาบ้านเผาเมืองนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกกล่าวหา เพราะพรรคจะมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาให้ประชาชนเพื่อให้ปรเทศเดินไปข้างหน้า ซึ่งเรื่องนี้จะให้ทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทยพิจารณาว่าควรจะร้องต่อ กกต.หรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินทางด้วยรถไฟไป จ.ศรีสะเกษ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เป็นประธานในการประชุมเกี่ยวกับโครงการเชื่อมต่อรถไฟทั้ง 4 ประเภทเข้าด้วยกันจากกรุงเทพฯไปยังจังหวัดต่างๆ ของประเทศไทย โดยประชาชนไม่จำเป็นจะต้องเปลี่ยนถ่ายสถานีเพื่อความสะดวกและลดค่าใช้จ่าย รวมไปถึงการโดยสารรถไฟในแต่ละครั้งที่ใช้เวลานาน รวมไปถึงโครงการเชื่อมลุ่มแม่น้ำเข้าด้วยกัน เพื่อกระจายความแออัดจากกรุงเทพฯ อีกทั้งยังเห็นได้ว่าประเทศขาดการจัดการระบบชลประทานที่ดี พร้อมยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยทำงานจากข้อมูลที่เป็นปัญหาจริงและจุดประสงค์คือการลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในประเทศ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยมีแนวโน้มจะตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ว่า ขอให้ประชาชนตัดสินก่อนว่าใครจะได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล เพราะตามมารยาททุกภาคส่วนก็ต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชนเป็นอันดับแรก โดยส่วนตัวนั้นไม่ได้มองถึงการจัดตั้งรัฐบาลในขณะนี้เลยเพราะอยู่ในช่วงการหาเสียง และอยากรอผลที่เป็นทางการออกมาก่อนด้วย
ส่วนจะรับได้หรือไม่หากพรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมากแต่มีผู้จัดตั้งรัฐบาลแข่ง ซึ่งเห็นว่าเรื่องดังกล่าวต้องถามประชาชนและให้ทุกฝ่ายเคารพเสียงประชาชน ซึ่งขณะนี้พรรคยังไม่มีการตั้งเป้า ส.ส.ที่จะได้ว่าเป็นเท่าใด อย่างไรก็ตามตนขอฝากไปยังชาวบุรีรัมย์ให้พรรคเพื่อไทยได้ลงพื้นที่หาเสียงชี้แจงนโยบายด้วย