ที่ประชุม ครม.เห็นพ้องการตัดสิดใจของ หน.คณะผู้แทนไทย กรณีตัดสินใจถอนตัวจากภาคีอนุสัญญามรดโลก ยอมรับข้อเสนอกัมพูชามีความกำกวมสุ่มเสี่ยงทำไทยเสียอธิปไตย พร้อมขอความชัดเจนจากยูเนสโก ในการดำเนินการกรณีปราสาทพระวิหาร ส่งไม้ต่อ รบ.หน้า
วันนี้ (28 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากร รักษาการรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ในที่ประชุม ครม.วันนี้ (28 มิ.ย.) ใช้เวลาส่วนใหญ่เพื่อรับทราบ และพิจารณากรณีนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการมรดกโลก โดย นายสุวิทย์ ชี้แจงถึงเหตุการณ์ในที่ประชุมคณะกรรมการ ต่อ ครม.ซึ่งรัฐมนตรีหลายคนแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง แต่ที่สุดแล้วข้อสรุปใน ครม.เห็นพ้องว่า สนับสนุน นายสุวิทย์ เนื่องจากทำดีที่สุดแล้ว ซึ่งสถานการณ์ในที่ประชุมฯโดยเฉพาะการที่ฝ่ายกัมพูชาเสนอข้อมติในประชุมคณะกรรมการฯ ถือเป็นการสุ่มเสี่ยงที่จะมีผลกระทบต่ออธิปไตยดินแดนไทย ซึ่งข้อความมติที่ทางกัมพูชาเสนอไม่มีความชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องของสถานการณ์ สถานภาพ และแนวทางการจัดการในพื้นที่ ที่ยังเป็นปัญหา
ดังนั้น จึงถือเป็นความจำเป็นที่รัฐบาลไทยต้องแสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนในประชุม ต่อการถอนตัวออกจากการเป็นภาคี ในฐานะรัฐภาคี และการถอนตัวจะเป็นไปตามขั้นตอนของกฏหมาย ที่นำไปสู่การพิจารณาข้อมูลของหลายฝ่าย โดยเป็นเรื่องที่รัฐบาลชุดหน้าจะรับหน้าที่พิจารณาเดินหน้าต่อ เนื่องจากขณะนี้ ครม.ไม่สามารถมีมติที่จะส่งผลผูกพันต่อรัฐบาลชุดหน้าได้
ทั้งนี้ นายปณิธาน ระบุว่า นายกฯอภิสิทธิ์ ยืนยันว่า รัฐบาลไทยต้องดูแลปกป้องอธิปไตย และประชาชนตามแนวชายแดน พร้อมทั้งปฏิเสธกรณีสมเด็จฮุนเซน นายกฯกัมพูชา กล่าวหาไทย ว่า ไม่เป็นความจริง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงการคาดการณ์ที่ผิดพลาดของรัฐบาลกัมพูชา ที่คิดว่า คณะกรรมการจะรับแผนบริหารจัดการ แต่กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น
นอกจากนี้ นายปณิธาน ยังเปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ ผอ.ยูเนสโก ได้มีจดหมายชี้แจงมายังรัฐบาลไทย ว่า คณะกรรมการไม่ได้มีการรับแผนบริหารจัดการดังกล่าว พร้อมทั้งยืนยันเจตนารมณ์ของคณะกรรมการ ว่า จะดูแลพื้นที่บริเวณที่อยู่ในข้อพิพาท และขอให้ไทยพิจารณาในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับมรดกโลกให้ดี ทั้งนี้ นายกฯได้มอบหมายให้กระทรวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงวัฒนธรรม ดำเนินการขอคำยืนยันจากยูเนสโก ว่า มติที่ออกมาไม่มีการพิจารณาแผนบริหารจัดการแต่อย่างใด อีกทั้งดำเนินการขอความชัดเจนถึงมติในการที่จะเข้าไปดำเนินการตามเจตนารมณ์ของยูเนสโก ว่า มีรายละเอียดตามที่ระบุไว้ในแผนปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับตัวปราสาทเขาพระวิหารอย่างไร ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ดินแดนไทย โดยข้อมูลที่ได้ทั้งหมดจะส่งต่อให้กับ ครม.ชุดหน้าเพื่อดำเนินการต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัปดาห์หน้าจะไม่มีการประชุม ครม.โดยจะมีการประชุมอีกครั้ง เป็นครั้งสุดท้ายหลังการเลือกตั้ง เพื่อพิจารณา พ.ร.ก.เปิดรัฐสภา