“ทนายสุวัตร” เตือน “สุวิทย์” ถอนตัวได้กลับประเทศอย่างวีรบุรุษ ย้ำเดินหน้าหากพลาดเจอฟ้อง กดดัน ป.ป.ช.หากเห็นแก่บ้านเมือง ให้รีบหยิบคดี “นิติธร” ฟ้องยุบ พท.มาตัดสิน เล็งฟ้องทหารหากจ่ายเงินปลอบขวัญให้เสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง คาดยื่น กกต.ยุบ ปชป.ได้ภายในไม่เกินวันอังคารหน้า บอกพี่น้อง พธม.ไม่ต้องวอกแวก ลต.โค้งสุดท้าย วิชามารเยอะ เดินหน้าโหวตโนอย่างเดียว ชนะ 26 เขต ต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงในประเทศนี้แน่นอน
วันที่ 24 มิ.ย.2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง มีวิชามารจะโผล่ออกมาเยอะ มีข่าว กกต.เรียกชาวบ้านในจังหวัดเพชรบูรณ์ ไปประชุม บอกว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จับมือกันแล้ว ดังนั้น ขอให้เสื้อเหลืองไปลงคะแนนให้เบอร์ 1 ก็อยากบอกพ่อแม่พี่น้องว่าไม่ต้องลังเลวอกแวก เดินหน้าโหวตโนอย่างเดียว หากโหวตโนชนะผู้สมัครเลือกตั้ง26 เขต ต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงในประเทศนี้แน่นอน
“ตนจะมาพบพี่น้องบนเวทีแห่งนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะตามกำหนดการเราจะเลิกชุมนุมวันที่ 29 มิ.ย.นี้ นั่นแปลว่า วันศุกร์หน้าไม่ได้เจอกัน อย่างไรก็ดี แม้ไม่เจอบนเวทีแห่งนี้ ก็สามารถติดต่อตนได้ในสื่อเอเอสทีวี ในรายการ “ทวงสิทธิ์คนไทย” ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.00-14.30 น.จากนั้นเวลา 15.30 น.จะไปออกอาศทางคลื่นวิทยุ ที่ช่องความถี่ 97.75 อีกชั่วโมงครึ่ง ไม่ได้ผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น ทุกครั้งไปด้วยหัวใจ อยากพูดคุยกับพี่น้อง”
ทนายสุวัตร กล่าวต่อว่า เมื่อวานพา นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายอมรเทพ อมรรัตนานนท์ ไปเบิกความกรณีวิทยุการบินฟ้องที่ศาลแพ่ง เมื่อเช้าก็พา ตั้ว ศรัญญู วงศ์กระจ่าง ไปเบิกความ ปรากฏว่า มีคนเข้ามาให้กำลังใจ ขอลายเซ็นพี่ตั้ว เรตติ้งกระฉูดเลย ที่ศาลแพ่งมีคนรักพี่ตั้วเยอะ กกต.ใช้เงิน 50 ล้าน ประชาสัมพันธ์ให้คนไปเลือกตั้ง สู้เพลงตั้วไม่ได้เลยออกมากี่เพลงร้องกันได้หมด วันนี้ขอคุยเรื่องสัพเพเหระ ในทุกเรื่อง เพราะเป็นวันสุดท้าย
ทนายสุวัตร กล่าวถึงกรณีที่ นายเทพมนตรี ลิมปพยอม โทร.มาบ่นกับตน ว่า การประชุมมรดกโลกครั้งนี้ เราหลวมตัวไปมาก เราไปยอมรับเงื่อนไขกัมพูชา เกือบทุกเรื่อง โอกาสที่จะถอนตัวกลับยากมาก วันนี้ไม่มีทางเดินหน้าได้แล้ว มีทางเดียวต้องถอนตัวออกจากภาคีมรดกโลก ตนเลยบอก นายเทพมนตรี ให้ไปบอก นายสุวิทย์ คุณกิตติ ว่า หากอยากกลับประเทศไทยอย่างวีรบุรุษ ให้ถอนตัวเสีย หากไม่ถอนตัวบ้านที่ขอนแก่น ก็จะมีคนไปล้อม ตามกฎหมายเรื่องดินแดนนี้ มีโทษถึงประหารชีวิต หาก นายสุวิทย์ พลาดกลับมาครั้งนี้ ตนก็จำต้องฟ้องเหมือนกัน ตนพูดและทำจริง
“พรรคเพื่อไทย นอกจาก นายสนธิ ร.ต.เเซมดิน ไปยื่นต่อ กกต.ขอยุบพรรคเพื่อไทยแล้ว พรรคเพื่อไทย ยังมีคดีติดหลังอยู่อีก กรณีที่ นายนิติธร ล้ำเหลือ ยื่นคำร้องยุบพรรคเพื่อไทย เอาไว้ กรณีสมาชิกพรรคเพื่อไทยขึ้นเวที นปช.ต่อมามีการเผาบ้านเผาเมือง เรื่องนี้ตอนนี้อยู่ในกองกฎหมาย หาก ป.ป.ช.เห็นแก่บ้านเมือง ขอให้รีบหยิบคดีที่ นายนิติธร ฟ้องมาตัดสินเสีย”
ทั้งนี้ ในส่วนที่ นายสนธิ ยื่นฟ้องเข้าไป ตนก็จะเดินเรื่องต่อไป นอกจากนี้ ยังได้รวบรวมแผ่นป้ายหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ที่เขียนข้อความรณรงค์หาเสียงเป็นคำมั่นว่าจะให้ สัญญาต่างๆ และจะหาในทุกพรรค มาเขียนเป็นคำร้องมอบในนายสนธิ นายปานเทพ หรือพรรคเพื่อฟ้าดิน ไปยื่นฟ้องยุบพรรคประชาธิปัตย์ ภายในไม่เกินวันอังคารหน้า ในส่วน 25% โหวตหน้าก็เดินต่อไป ด้านปราสาทเขาวิหารก็เดินหน้าต่อ ในเมื่อรัฐบาลไม่ทำ พันธมิตรฯจะทำและทำให้ดู แล้วผลสำเร็จจะเป็นของพ่อแม่พี่น้องที่ร่วมต่อสู้ทุกคน
ทนายสุวัตร กล่าวย้ำในประเด็น นายแก้วสรร อติโพธิ มีความเห็นโต้แย้งพันธมิตรฯในมาตรา 88 และมาตรา 89 นั้น ตนว่า นายแก้วสรร อ่านกฎหมายไม่ตลอดมาตรา คิดง่ายๆ มาตรา 82 วรรคแรก ระบุ ให้นับบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน ส่วนบัตรเสียในมาตรา 82 วรรคสอง ระบุว่าห้ามนับบัตรเสีย หากเขาแยกไว้อย่างนี้จะเอามาปนกันได้อย่างไร
ส่วนกรณีที่หลายคนบอกคะแนนโหวตโน 5% จะทำอะไรได้ ขอให้พี่น้องลองคิดดูคราวที่แล้วประชาธิปัตย์ได้ 165 เสียง ทำไมต้องยอมภูมิใจไทย ก็เพราะในเมื่อเสียงไม่พอตั้งรัฐบาล แม้เสียงเดียวก็มีค่ามหาศาล ดังนั้น 5% ไม่ใช่ของยากให้พวกเราสู้กันให้ได้ อย่าหมดความหวังเดินหน้ารณรงค์โหวตโนอย่างเดียว การที่จะเปิดประชุมสภาได้ต้องมีเสียงมากกว่า 95% หากได้ 94 ขาดไป 1 เสียง ก็ไม่สามารถเปิดสภาได้
ทนายสุวัตร กล่าวอีกว่า นายสุทธิพล ทวีชัยการ จะคิดอย่างไรในฐานะนักกฎหมายก็คิดได้ ตนก็มีสิทธิ์คิดได้ แต่หลักคิดของใครควรได้รับการยอมรับ ต้องดูที่ใครใช้กฎหมายมากกว่ากัน ใครมีประสบการณ์จริงมากกว่ากัน ตนไม่ได้บอกว่าเก่งกว่าคนอื่น แต่มั่นใจว่า สิ่งที่ทำมาในอดีตมันพิสูจน์แล้ว เวลาถูกกล่าวหาเป็นกบฏ ตนก็ไปชี้ว่าไมใช่กบฏ ในที่สุดศาลก็บอกว่าไม่ใช่กบฏ บุกทำเนียบตนก็สู้จนชนะคดี ทั้งนี้ ตนมองกฎหมายเป็นกฎหมายเพื่อนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษย์ ไม่ได้มองว่ากฎหมายเป็นเครื่องมือกดหัวประชาชน คนที่มองกฎหมายเป็นเครื่องกดหัวประชาชนเท่านั้นแหละถึงได้ตีความแผลงๆ เมื่อมองกฎหมายเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งเราต้องคำนึงถึงว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน เอาง่ายๆหากผู้สงสมัครเลือกตั้งได้คะแนนหนึ่งแสน แต่โหวตโนได้แสนห้า แล้วจะบอกว่าหนึ่งแสนเป็นเสียงส่วนใหญ่ได้อย่างไร
การตีความกฎหมายต้องมุ่งไปที่เจตนารมณ์ของกฎหมาย เจตนารมณ์ในหลักประชาธิปไตย ต้องโดยประชาชน เพื่อประชาชน เมื่อประชาชนโหวตโนมากกว่าจะเอาเสียงน้อยกว่ามาชนะเสียงโหวตโนไม่ได้ ตรรกะง่ายๆ แต่นักวิชาการยังจะตะแบบเข้าข้างนักการเมืองที่ตัวเองถือหางอยู่ ตนมั่นใจจากสถิติที่ผ่านมา สมัยใดที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล เลือกตั้งอีกครั้งไม่มีทางได้เป็นรัฐบาลอีก เพราะไม่มีผลงาน การเลือกตั้งครั้งนี้ก็เหมือนกันหนีไม่พ้นประชาธิปัตย์ต้องเป็นฝ่ายค้านแน่นอน เป็นรัฐบาลมา 2 ปี 8 เดือน ไม่ทำอะไรพอใกล้วันเลือกตั้งมาฟูมฟายร้องไห้ขอคะแนนสงสาร ต่อให้ร้องไห้น้ำตาเป็นสายเลือดเราก็ไม่สน เพราะพันธมิตรฯเจ็บแล้วจำ
ทนายสุวัตร กล่าวว่า มีข่าวเสื้อแดงที่เผาบ้านเผาเมืองแล้วถูกยิง ไปฟ้องหาว่าทหารทำร้าย แล้วตอนนี้ทหารทำท่าจะยอมคดี ยอมจายเงินให้เสื้อแดง โดยให้เหตุผลว่า หากจ่ายไปตอนนี้ก็เป็นเงินภาษีประชาชน ไม่ใช่เงินตัวเอง ตรงนี้ถ้ายอมจ่ายเงินภาษีของเราให้คนเผาบ้านเผาเมืองเมื่อไร ตนจะฟ้องทหารพวกนี้อีก
“หัวใจหลักที่เรายืนหยัดต่อสู้มา คือ เรื่องเสียดินแดน มาบัดนี้เรื่องโหวตโน และกำลังสลายตัว 29 มิ.ย.นี้ อยากบอกพ่อแม่พี่น้องว่าภาพที่เรานั่งอยู่ตรงนี้จะติดตรึงในหัวใจผมอีกนาน แม้จะเลิกชุมนุมแล้วก็จะคิดถึงกัน วันใดหากมีเหตุการณ์ใดผมจะลุกขึ้นมาต่อสู้กับพี่น้องตลอดไป ผมเชื่อเราจะไม่ทิ้งกัน ส่วนตัวผมนั้นจะอยู่กับพี่น้องจนตัวตาย”