หน.ทีมเศรษฐกิจ ชพน.ควงลูกพรรค ขอคะแนนเยาวราช-สามย่าน หนุนพัฒนาพื้นที่จัดระบบจราจรเพิ่มยอดนักท่องเที่ยว ระบุ แม่ค้าโวยชั่งไข่ขายไม่ได้เรื่อง หากได้ร่วม รบ.ขอ 90 วันแก้ปัญหาค่าครองชีพสูง เผย เตรียมปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายที่โคราช-สกลฯ
วันนี้ (22 มิ.ย.) นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน และ นายนิกร เลาหพงศ์ชนะ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ นำทีมผู้สมัคร ส.ส.กทม.ลงพื้นที่หาเสียงย่านเยาวราช โดยเริ่มสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดไตรมิตร จากนั้นเดินหาเสียงที่ตลาดเยาวราช เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์วัดมังกรกมลาวาส และศาลเจ้าไต้ฮงกง เพื่อขอพรให้ผู้สมัครของพรรคได้เข้ามาบริหารบ้านเมืองให้คนไทยมีความสุข
จากนั้น นายกรพจน์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า พรรคมีแนวคิดในการพัฒนาพื้นที่เยาวราช โดยทำงานร่วมกับ กทม.อย่างใกล้ชิด พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวด้านอาหาร และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้ชาวเยาวราชมีรายได้จากการท่องเที่ยว โดยหากพรรคได้รับเลือกเขามาอยู่ในฝ่ายบริหารจะดึงนักท่องเที่ยวชาวจีนเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 10 ล้านคนต่อปี นอกจากนี้จะประสานงานกับกระทรวงคมนาคมนำรถเมล์ฟรี และรถปรับอากาศมาวิ่งในเส้นเยาวราชเพิ่มมากขึ้น โดยจะจัดการจราจร ให้มีความคล่องตัวมากขึ้น และให้นักท่องเที่ยวใช้บริการขนส่งมวลชนเพื่อลดความแออัดในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรพจน์ ได้ไปรับประทานอาหารร่วมกับผู้สมัครที่ร้านยู้ ลูกชิ้นปลาเยาวราช โดยโชว์การทำก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาให้กับเจ้าของร้านทดลองชิม โดยเมื่อเจ้าของร้านได้ชิมถึงกับชูมือ 2 นิ้วเป็นสัญลักษณ์ของพรรค
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น.นายกรพจน์ ได้นำทีมผู้สมัครมาที่ตลาดสามย่าน เพื่อหาเสียงกับพ่อค้าแม่ค้า โดยได้ให้สัมภาษณ์ ว่า พรรคจะชูนโยบายเรื่องทำมาค้าขาย จากการสัมผัสกับประชาชนในเขตสามย่าน และเยาวราช ต่างพูดเสียงเดียวกัน ว่า เศรษฐกิจขณะนี้ซบเซาอย่างมาก การจับจ่ายใช้สอยลดน้อยลง ให้เกิดภาวะที่น่าเป็นห่วง เมื่อมีรัฐบาลใหม่เข้ามาเรื่องที่ต้องแก้ไขด่วนที่สุดคือ เรื่องค่าครองชีพสูง โดยแม่ค้าระบุว่า นโยบายไข่ชั่งกิโลขาย เป็นนโยบายที่ใช้ไม่ได้เลย ไม่ควรนำมาใช้ทำให้ค้าขายลำบาก ควรกลับใช้แบบนับเป็นฟอง อีกปัญหาหนึ่งคือการใช้สอยลดลงอย่างมาก พ่อค้าแม่ค้าฝากถามรัฐบาลว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ พรรคจึงมีนโยบายอย่างชัดเจนว่าภายใน 90 วัน จะต้องเข้ามาแก้ไขปัญหา 2 เรื่องนี้ให้กับประชาชน โดยเร็วที่สุด
เมื่อถามว่า พรรคชาติไทยพัฒนาชูนโยบายเรื่องปรองดอง สอดคล้องกับนโยบายหยุดขั้วสลายสีของพรรค เป็นไปได้หรือไม่ที่พรรคเล็กจะจับมือกันตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง นายกรพจน์ กล่าวว่า พรรคเล็กก็มีนโยบายคล้ายๆ กันในเรื่องปรองดอง และพรรคใหญ่ทุกพรรคก็ออมาขานรับเป็นเสียงเดียวกัน ทุกพรรคเห็นด้วยที่จะสร้างความสามัคคีให้กลับมาสู่ประเทศชาติและประชาชนจะได้ทำมาหากินอย่างมั่นคง ตนเชื่อมั่นว่า ภายหลังการเลือกตั้งหากเป็นไปตามครรลองระบอบประชาธิปไตยและเคารพเสียงข้างมากของประชาชน เชื่อมั่นว่าประเทศไทยสามรถเดินไปได้อย่างสงบ
เมื่อถามว่า มีการพูดคุยในการฟอร์มทีมรัฐบาลหรือยัง นายกรพจน์ กล่าวว่า ช่วงเวลานี้เป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ทุกพรรคการเมืองยังคงช่วยกันหาเสียง ชูนโยบายที่มีประโยชน์แก่ประชาชน ดังนั้นคงยังไม่มีเวลาตัดสินใจว่าจะร่วมมือทางการเมืองกับพรรคไหนอย่างไร
เมื่อถามว่า วันที่ 23 มิ.ย.พรรคประชาธิปัตย์จะปราศรัยที่แยกราชประสงค์จะเกิดเหตุรุนแรงหรือไม่ นายกรพจน์ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะเลือกสถานที่ใดในการปราศรัยใหญ่ ตนคิดว่า ทุกพรรคการเมืองคงมีนโยบายที่สร้างสรรค์พยายามทำให้เกิดความสามัคคีปรองดอง สิ่งใดที่ทำให้เกิดความแตกแยกคิดว่าทุกพรรคการเมืองคงต้องหลีกเลี่ยง เชื่อว่าทุกพรรคการเมืองมีความรับผิดชอบ คงไม่เป็นการเติมเชื้อไฟอย่างแน่นอน ส่วนกรณีที่คนเสื้อแดงออกมาระบุว่าไม่เหมาะสมนั้น ตนคิดว่าคนเสื้อแดงน่าจะคิดว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เกิดเหตุการณ์สำคัญ จึงอาจจะกระทบกระเทือนต่อความรู้สึก
นายกรพจน์ กล่าวด้วยว่า พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินจะมีการปราศรัยใหญ่วันที่ 28 มิ.ย.ที่ จ.นครราชสีมา และในวันที่ 30 มิ.ย.จะมีการปราศรัยใหญ่ที่ จ.สกลนคร ส่วนในพื้นที่ กทม.ยังไม่ได้มีการหารือว่าจะจัดเวทีปราศรัยใหญ่หรือไม่
