“ปานเทพ” แฉ “สุวิทย์” จ่อซ้ำรอยปี 53 ปูดนักการเมืองซุก ตปท.ชักใยทำไทยเสียท่า

โฆษกพันธมิตรฯ เผย ชุมนุมหน้ายูเนสโก จี้รัฐถอนตัวมรดกโลก หรือลบบัญชีพระวิหารจากทะเบียน ระบุ “เทพมนตรี” พบที่ประชุมใช้เอกสารลายเซ็น “สุวิทย์” หนุนไทยไม่ปฏิเสธมติย้อนหลังด้วย แนบแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน ซัดรัฐหวังเลื่อนแผนแค่ปัดสวะให้รัฐบาลหน้า แฉ รมว.ทส.เอาอีก จ่อทำบันทึกซ้ำรอยปีที่แล้ว แลกเลื่อนแผน ทำไทยถลำเข้าทางเขมร เล็งแจ้งความฟันแน่ แฉ นักการเมืองเร่ร่อนชักใยให้ไทยเสียท่า ล่าสุดสั่งถอยกลับมัฆวานฯ แล้ว หวั่นเจอป่วน


วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่บริเวณหน้าสำนักงานยูเนสโกประจำประเทศไทย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยว่า ทิศทางการชุมนุมในวันนี้ เป็นการชุมนุมเพื่อกดดันยูเนสโก ที่กำลังประชุมวาระเรื่องแผนบริหารจัดการมรดกโลกปราสาทพระวิหาร โดยสิ่งที่เราพยายามเรียกร้องรัฐบาลไทยในตอนนี้ คือ ให้รัฐบาลอย่าสู้แค่เลื่อนการพิจารณาแผนบริหารจัดการออกไป เพราะเป็นการปัดสวะทิ้งปัญหาให้ไปเสียดินแดนในอนาคต ต้องยกเลิกและถอนตัวออกจากภาคีอนุสัญญามรดกโลก หรือยูเนสโก ดำเนินการลบบัญชีรายชื่อปราสาทพระวิหารออกจากทะเบียนมรดกโลก

นายปานเทพ เปิดเผยด้วยว่า นายเทพมนตรี ลิมปพยอม กรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ที่ไปร่วมสังเกตการณ์อยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส ได้ส่งเอกสารการประชุมครั้งนี้มาให้ ทำให้เรารู้ว่าการประชุมครั้งนี้ มีปัญหาอย่างมากมาย คือ ในเอกสารดังกล่าวได้มีการอ้างบันทึกข้อตกลงที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ลงนามเมื่อวันที่ 26 ก.ค.53 ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งก่อน ที่เหมือนกับรัฐบาลไทยไม่ปฏิเสธมติคณะกรรมการมรดกโลกย้อนหลังทั้งหมด ทั้งยังมีการระบุเนื้อหาสำคัญที่ว่า มีคำร้องขอของ นายสุวิทย์ โดยความเห็นชอบจากฝ่ายกัมพูชาที่ได้ส่งแผนบริหารจัดการชุดหนึ่งให้ทางคณะกรรมการพร้อมแนบแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน ให้กับรัฐบาลและยูเนสโก โดยรอง ผอ.ฝ่ายวัฒนธรรมของยูเนสโก เมื่อวันที่ 9 ก.ย.53 แสดงว่า ฝ่ายไทยรับเอกสารเรื่องแผนที่นี้มาแล้วอย่างเป็นทางการ โดยปรากฏในรายงานการประชุม ขณะนี้เข้าใจว่า นายเทพมนตรี กำลังเรียกร้องให้ นายสุวิทย์ ดำเนินการประท้วงข้อความนี้

“สิ่งที่ปรากฏในเอกสารประกอบการประชุมนี้ ทำให้เรายิ่งสงสัยไปใหญ่ว่าเหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น หากรัฐบาลไทยไม่ประท้วงข้อความนี้ ก็เหมือนว่า ฝ่ายไทยไม่ปฏิเสธแผนบริหารจัดการ และไม่ปฏิเสธแผนที่ดังกล่าว สิ่งที่รัฐบาลไทยพยายามเลื่อนการพิจารณาอยู่ในตอนนี้ ย่อมถูกสงสัยได้ว่าเป็นกระบวนการเพื่อเลื่อนการเสียดินแดนให้ไปขึ้นอยู่กับรัฐบาลชุดหน้าก่อนการหย่อนบัตรเลือกตั้งเท่านั้น เป็นการปัดภาระและปัญหาไม่ให้ประชาชนคนไทยได้รับรู้ก่อนวันเลือกตั้ง ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรมอย่างยิ่ง หากรัฐบาลถลำลึกไปขนาดนี้สิ่งเดียวที่จะแก้ไขได้ คือ การถอนตัวออกจากมรดกโลกให้เร็วที่สุด หรือไม่ยูเนสโกต้องลบบัญชีปราสาทพระวิหารออกจากทะเบียนมรดกโลก” นายปานเทพ กล่าว

โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวด้วยว่า การชุมนุมยังคงดำเนินต่อไปจนกว่าจะมีความคืบหน้าทางใดทางหนึ่ง โดยสิ่งที่น่าตกใจ คือ การที่ นายสุวิทย์ กำลังพยายามทำบันทึกความเข้าใจขึ้นมาใหม่อีกหนึ่งฉบับ เหมือนร่างประนีประนอมเมื่อการประชุมครั้งที่แล้ว ที่ทำให้ไทยถลำลึกติดกับฝ่ายกัมพูชา โดย นายสุวิทย์ กำลังร่างเอกสาร 1 ฉบับ เพื่อให้กัมพูชาและคณะกรรมการมรดกโลกลงนามร่วมกัน เป็นมติการประชุมครั้งที่ 35 เพียงเพื่อแลกกับการเลื่อนแผนบริหารจัดการออกไป เป็นกระบวนการที่ยอมแลกทุกอย่างให้พ้นความรับผิดชอบของรัฐบาลตัวเองเท่านั้น โดยไม่สนใจว่าเอกสารที่ลงนามจะเป็นอันตรายต่อไปในอนาคตหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการกำหนดท่าทีการชุมนุมเมื่อใด นายปานเทพ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการติดต่อจากนายเทพมนตรี เป็นระยะๆ ทราบว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการหารือกับทีมงานฝ่ายไทยว่า ไม่เห็นด้วยกับข้อความที่ปรากฏในรายงานการประชุมว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่งหากเอกสารทั้งหลายนี้ รับทราบโดยหน่วยงานราชการ และนักการเมืองของไทย แต่ยังเพิกเฉยก็เป็นผลร้ายต่อประเทศไทย ก็จำเป็นต้องดำเนินการทางคดีความในท้ายที่สุด

เมื่อถามต่อว่า มีแนวโน้มที่จะชุมนุมยืดเยื้อหรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่ต้องมีการประเมินอีกครั้ง หวังว่า ทุกอย่างจะจบโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม มีบางส่วนของภาคประชาชนโดยเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ยืนยันว่า จะปักหลักพักค้างที่หน้าสำนักงานยูเนสโก เพราะได้ปักหลักมาก่อนหน้านี้แล้ว ในเบื้องต้นเข้าใจว่า การประชุมคณะกรรมการมรดกโลกอาจจะไม่จบภายในวันนี้ แต่ต้องมีการติดตามสถานกาณณ์อย่างใกล้ชิด ไม่สามารถประมาทได้ เนื่องจากรัฐบาลไทยถลำลึกมาก โดยที่ประชาชนคนไทยไม่เคยรู้มาก่อน โดยเอกสารทั้งหลายถูกประทับตราลับที่สุด ไม่ให้คนไทยรู้ แต่คนกัมพูชารู้ทั้งประเทศ

นายปานเทพ ยังได้กล่าวถึงกิจกรรมร่อนจรวดกระดาษเข้าไปในสำนักงานยูเนสโกด้วยว่า เป็นการสื่อความหมายเรียกร้องโดยประชาชนคนไทยที่รักแผ่นดิน ประณามการกระทำของยูเนสโกที่ละเมิดอธิปไตยของประเทศไทย ไม่ฟังเสียเรียกร้องของประชาชน และวิงวอนให้สันติภาพกลับมาโดยการยุติมรดกโลกปราสาทพระวิหาร โดยเฉพาะการเลื่อนพิจารณา 1 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดการปะทะประชาชนบาดเจ็บล้มตาย บ้านเรือนถูกทำลายมากมาย ยูเนสโกและคณะกรรมการมรดกโลกไม่ควรเป็นผู้ส่งเสริมการทำสงคราม หรือทำลายสันติภาพระหว่างประเทศ

“ยูเนสโก และคณะกรรมการมรดกโลก ต้องยุติทุกอย่างตั้งแต่วันนี้ หากขืนดึงดันต่อไปต้องถือว่ายูเนสโกเป็นศัตรูกับประชาชนชาวไทย” นายปานเทพ กล่าว

นายปานเทพ ยังกล่าวด้วยว่า นายเทพมนตรี ส่งข่าวมาว่า มีนักการเมืองบางคนที่อยู่ต่างประเทศล็อบบี้เพื่อให้เรื่องนี้ได้รับการอนุมัติโดยคณะกรรมการมรดกโลก โดยการวิ่งเต้นผ่านผู้แทนฝ่ายไทย เพื่อให้ประเทศไทยเสียท่าในเวทีนี้ เหลือเพียงว่า รัฐบาลไทยสมรู้ร่วมคิดหรือไม่ หากไม่สมรู้ด้วย มีวิธีเดียว คือ ต้องประท้วงและถอนตัวออกจากมรดกโลก แต่หากรัฐบาลนี้สมรู้ร่วมคิดด้วย หมายความว่า จะมีการเลื่อนการพิจารณาแผนบริหารจัดการออกไป ให้ตกอยู่ภายใต้รัฐบาลชุดหน้า หรืออาจถูกอนุมัติแผนบริหารจัดการคารัฐบาลชุดนี้เลย

ล่าสุด นายปานเทพ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยเพื่อแจ้งกับมวลชนที่ร่วมชุมนุมว่า จากการประชุมร่วมกันของคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ได้มีการลงมติและเห็นว่าการชุมนุมที่นี่ต่อไปอาจทำให้เกิดเหตุความวุ่นวายจากการกระทำของมือที่ 3 ทำให้มวลชนพันธมิตรฯต้องตกเป็นเหยื่ออีกครั้ง และคณะกรรมการฯยังเห็นว่า หากต้องการให้การเคลื่อนไหวเป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่ได้ผลมากที่สุด จึงควรกลับไปชุมนุมร่วมกันที่พื้นที่ชุมนุมสะพานมัฆวานรังสรรค์ ข้างทำเนียบรัฐบาล เพื่อกดดันให้รัฐบาลไทยถอนตัวออกจากภาคีอนุสัญญามรดกโลกให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ยังมีผู้ชุมนุมในส่วนของเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติบางส่วนที่ยังปักหลักพักค้างอยู่ที่บริเวณหน้าสำนักงานยูเนสโกต่อไป