“ทักษิณ” ทวีตหนุนข้อเรียกร้อง “สื่อ-ภาคธุรกิจ” ให้ก้าวข้ามความรุนแรง สร้างความปรองดอง ระบุ ประชาชนมอบอำนาจให้พรรคการเมืองมาทำงานให้ ไม่ใช่ให้เอาเป็นเอาตายจนเกิดความขัดแย้ง เจอผู้เล่นทวิตเตอร์ซัดกลับ “คุณนั่นแหละตัวเผาบ้าน หน้าด้านจัง” ทำให้เจ้าตัวโต้ทันที อย่าเชื่อง่าย คนเจริญได้ต้องคิดเป็น แถมปากดีไล่ให้ไปศึกษากาลามสูตรฯ
วันนี้ (20 มิ.ย.) เมื่อเวลา 19.16 น.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ทวิตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ ชื่อ @ThaksinLive ข้อความว่า ขอขอบคุณในทุกๆ กำลังใจครับ ต้องยอมรับว่า ช่วงโค้งสุดท้ายประชาธิปัตย์กำลังใช้เกมถนัดอย่างสุดๆ ขอแนะนำว่าเพื่อไทยที่ถนัดในเกมส์สาระอย่าวอกแวก
วันนี้ดีใจที่องค์กรภาคเอกชนได้ร่วมกันออกแถลงการณ์เรื่องก้าวข้ามความรุนแรงสู่สังคมปรองดอง ผมเห็นด้วยล้านเปอร์เซ็นต์ครับ เพราะบ้านเมืองเป็นเรื่องที่ทุกคน ทุกฝ่าย ทุกภาคส่วนต้องให้ความสนใจและห่วงใยไม่ใช่ปล่อยให้เป็นเรื่องของพรรคการเมืองเท่านั้น แต่พรรคการเมืองต้องตระหนักว่าประชาชนเขามอบอำนาจมาทำงานให้เขา ไม่ใช่ให้มาเอาเป็นเอาตายจนเกิดความขัดแย้งจนประชาชนและภาคเอกชนทำมาหากิน ลำบาก ผมขอยกสองมือสนับสนุนครับ
จากนั้นมีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @Tobkk ส่งข้อความมายัง @ThaksinLive ว่า “รวบ 6 นศ.ม.ราม แจกซีดี-แผ่นพับ “ทักษิณล้มเจ้า” ดิสเครดิตเพื่อไทย สารภาพรับค่าจ้างวันละ 500 บาท หนึ่งในเกมนั้นครับ” พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบกลับว่า “วันนี้ สน.บุปผาราม มีการจับรถบรรทุกแผ่นCD ตัดต่อเสียงผมและหนังสือพิมพ์ที่มีการทำขึ้นเพื่อกล่าวหาผมล้มเจ้า จำนวน 3 คันรถ ผู้ต้องหา 6 คน..เฮ้อ”
ต่อมาได้มีผู้ใช้ชื่อ @sogooddddd_aey (AEY AEY) ส่งข้อความถามว่า “เล่นเองรึป่าวคะเนี้ย ?” พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบว่า “ใช่ครับ ผมยังจำคุณได้เลย”
จากนั้นผู้ใช้ชื่อว่า @popor13 ส่งข้อความมาว่า “คุณครับคุณนั่นหละตัวเผาบ้าน หน้าด้านจัง” ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โต้กลับทันทีว่า “อย่าเชื่อง่ายนะครับ คนจะเจริญได้ต้องคิดเป็น ศึกษาข้อมูลโดยรอบแล้วค่อยตัดสินใจ ลองไปศึกษากาลามสูตรฯ 10 ของพระพุทธเจ้าดูจะได้เข้าใจครับ”
หลังจากนั้น ผู้ใช้ชื่อว่า @3P_iPeee619 (PesKuKps) ส่งข้อความว่า “ผมเกรงว่าแทนที่พรรคที่ใส่ร้ายเพื่อไทยจะถูกยุบพรรค แต่เป็นเพื่อไทยโดนยุบแทน โดนมาแล้ว 2 ครั้ง คงไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้วละครับ” โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบกลับว่า ถ้าเราไม่ยึดหลักนิติธรรมสากล หรือกระบวนการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม สังคมก็ไม่สงบสุข ความน่าเชื่อถือก็แย่ จึงมีผลต่อเศรษฐกิจ”
โดยก่อนหน้านี้ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุโทรทัศน์ ร่วมกัน 5 องค์กรด้านธุรกิจ ได้แก่ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย สมาคมธนาคารไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ เรื่อง ก้าวข้ามความรุนแรงสู่สังคมปรองดอง และเสนอ 3 ข้อเรียกร้องไปยังพรรค และนักการเมืองหลังจากร่วมประเมินสถานการณ์เลือกตั้งของประเทศไทยแล้วพบว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดความขัดแย้งรุนแรงหลังการเลือกตั้ง เหมือนช่วงเหตุการณ์ขัดแย้งรอบ 5-6 ปีที่ผ่านมา
โดยข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ได้แก่ 1.ขอเรียกร้องให้ทุกพรรคและทุกกลุ่มการเมืองยอมรับผลเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.นี้ และหลีกเลี่ยงการนำประเทศไปสู่ความรุนแรงทุกรูปแบบ 2.ทุกพรรคต้องแสดงเจตจำนงชัดเจนต่อกระบวนการลดขัดแย้ง โดยถือเป็นสัญญาประชาคมว่าหลังการเลือกตั้งต้องเร่งแก้ไดโดยเร่งด่วน และ 3.กระบวนการสร้างปรองดองต้องทำโดยองค์กรที่เป็นอิสระและไม่ใช่คู่ขัดแย้ง