เพื่อไทยออกแถลงการณ์ตอบรับ องค์กรสื่อและภาคธุรกิจยื่นเงื่อนไข ให้ทุกพรรคการเมืองทำสัญญาประชาคม เรื่องการยอมรับผลเลือกตั้ง เพื่อลดความขัดแย้ง และการสร้างความปรองดอง เตรียมยื่น กกต.สอบบัตรเลือกตั้งต่างแดนเอื้อทุจริต
วันนี้ (20 มิ.ย.) พรรคเพื่อไทยออกแถงการณ์ตอบโต้กรณีเครือข่ายองค์กรสื่อ ประกอบด้วยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย, สมาคมนักข่าววิทยุโทรทัศน์ ร่วมกัน 7 องค์กรด้านธุรกิจ ได้แก่ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย, สมาคมธนาคารไทย, สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย, สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยออกแถลงการณ์ เรื่องก้าวข้ามความรุนแรงสู่สังคมปรองดอง พร้อมเสนอ 3 ข้อเรียกร้องไปยังพรรคการเมืองและนักการเมือง ได้แก่ 1.ขอเรียกร้องให้ทุกพรรคและทุกกลุ่มการเมืองยอมรับผลเลือกตั้ง หลีกเลี่ยงการนำประเทศไปสู่ความรุนแรงทุกรูปแบบ 2.ทุกพรรคต้องแสดงเจตจำนงชัดเจนต่อกระบวนการลดขัดแย้ง โดยถือเป็นสัญญาประชาคมว่าหลังการเลือกตั้งต้องเร่งแก้ไขโดยเร่งด่วน และ 3.กระบวนการสร้างปรองดองต้องทำโดยองค์กรที่เป็นอิสระและไม่ใช่คู่ขัดแย้งนั้น
พรรคเพื่อไทยขอแถลงว่า พรรคขอขอบคุณเครือข่ายที่ได้ออกแถลงการณ์ดังกล่าว และตอบรับและเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องดังกล่าวทุกข้อ เพราะข้อเรียกร้องของเครือข่ายเป็นข้อเรียกร้องที่สร้างสรรค์และสอดคล้องกับจุดยืน และนโยบายของพรรคที่มีแนวทางก้าวข้ามความขัดแย้งและนำสันติสุขกลับสู่สังคมไทย โดยการปรองดอง พรรคเพื่อไทย ขอยืนยันว่า ถ้าพรรคได้รับความไว้วางใจหลังการเลือกตั้ง และเป็นรัฐบาล พรรคจะปฏิบัติตามแนวทางและเจตนารมณ์ดังกล่าว เพื่อสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในประเทศไทยโดยเร็ว
ด้าน นายประเกียรติ นาสิมมา ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เตรียมยื่นหนังสือร้องเรียนคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ในวันพรุ่งนี้ ภายหลังได้รับการร้องเรียนจากผู้มีใช้สิทธิ์เลือกตั้งในต่างประเทศว่า พบความผิดปกติในช่องลงคะแนนของพรรคเพื่อไทย
นายประเกียรติระบุว่า พรรคเพื่อไทยได้รับการร้องเรียนจากผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งจากต่างประเทศว่า พบความปกติในช่องลงคะแนนของพรรคเพื่อไทย กล่าวคือมีลักษณะเหมือนกับการเคลือบมันไว้ที่ช่องลงคะแนน ทำให้กากบาทครั้งเดียวไม่ติด จึงมีการขีดกากบาทซ้ำๆ หลายครั้ง จึงทำให้กลายเป็นบัตรเสีย
นายประเกียรติตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีการเคลือบมันไว้ในช่องลงคะแนนบางหมายเลขในบัตร เพราะมีการสอบถามไปยังโรงพิมพ์แล้วว่าสามารถทำได้ ซึ่ง กกต.ได้มอบหมายให้โรงพิมพ์ของกองสลาก และโรงพิมพ์ของโรงงานการปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นผู้จัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง จึงอาจมีโรงพิมพ์ใดโรงพิมพ์หนึ่ง ทำการเคลือบมันในช่องลงคะแนนของบางพรรคการเมืองได้
นายประเกียรติระบุว่า หากมีการพิสูจน์ได้จริงว่ามีการเคลือบมันไว้เฉพาะบางพรรคการเมือง กกต.จะตัดสินอย่างไร เพราะหากปล่อยให้มีการทุจริตเช่นนี้เกิดขึ้นอาจทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณมากกว่า จึงเรียกร้องให้ กกต.พิจารณาว่าควรจะมีการพิมพ์บัตรใหม่หรือไม่ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการทุจริตจริง
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้พรรคเพื่อไทยจะนำหนังสือร้องเรียนดังกล่าวไปยื่นต่อ กกต. พร้อมทั้งนำคณะสื่อมวลชนไปขอดูบัตรเลือกตั้งจริงด้วย