ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ไข่แม้ว ฉวยโอกาสรับข้อเสนอเครือข่ายองค์กรสื่อ-ภาคธุรกิจ ให้ทุกพรรคการเมืองปฏิบัติตามสัญญาประชาคม หลังรู้ผลเลือกตั้งเพื่อลดความขัดแย้ง ด้าน “ณัฐวุฒิ” ซัด ปชป.เปลี่ยนกลยุทธ์ใช้วิชามารใส่ร้ายการเมืองคู่แข่งทั้งงัดเรื่องขบวนการล้มเจ้า เผาบ้านเผาเมือง หวังเรียกคะแนนเสียงในช่วงสุดท้าย หลังล้มเหลวด้านนโยบาย
วันนี้ (20 มิ.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่เครือข่ายองค์กรสื่อร่วมกับ 7 องค์กรด้านธุรกิจออกแถลงการณ์พร้อมมี 3 ข้อเรียกร้องมายังทุกพรรคการเมืองว่า พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยและยินดีรับข้อเสนอทั้ง 3 ข้อ ทั้งนี้ ในส่วนของการยอมรับผลการเลือกตั้งไม่ว่าจะมีการแจกใบเหลืองใบแดงให้แก่ผู้สมัครของพรรค แต่ขอให้เป็นไปตามกติกาและความบริสุทธิ์ยุติธรรม อย่างไรก็ตาม จากหลักการเดิมพรรคที่ได้เสียงส่วนใหญ่ต้องได้จัดตั้งรัฐบาล และหากจัดตั้งไม่ได้ พรรคที่ได้คะแนนเป็นลำดับสองก็ได้จัดตั้งตามหลักการของรัฐสภา แต่ก็ยังเร็วเกินไปที่จะกล่าวถึงเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนในข้อเรียกร้องที่ระบุว่ากระบวนการสร้างความปรองดองต้องทำโดยองค์กรที่เป็นอิสระนั้น ก็ต้องมีการหารือทุกภาคส่วนในส่วนนี้ เพราะต้องการให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ส่วนที่ล่าสุดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผิดหวังที่ตนเองไม่สามารถหยุดกลุ่มคนเสื้อแดงได้นั้น ยังยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่สามารถสั่งการได้ แต่ก็ขอความร่วมมือให้การเรียกร้องของประชาชนเป็นไปตามกติกา
ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแกนนำ นปช.กล่าวว่า กรณีพรรคประชาธิปัตย์พยายามใช้สถานการณ์ที่มีประชาชนออกมาต่อต้าน ไม่ตอบรับการหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์แล้วมาทิ่มแทงพรรคเพื่อไทย พร้อมทั้งให้สั่งห้ามมวลชนเสื้อแดงนั้น พรรคเพื่อไทยอาสามารับใช้ประชาชนทุกคนทุกสีเสื้อ ไม่มีอำนาจไปสั่งการใคร สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเป้าประสงค์หรือไปดำเนินการจัดจ้างใครมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพควรกลับไปทบทวนตัวเองว่าได้ทำอะไรไว้ สิ่งที่ใช้ตลอดการหาเสียง คือการใช้ถ้อยคำที่เหมือนราดน้ำมันบนกองไฟไม่ว่าจะเป็นเผาบ้านเผาเมือง ล้มเจ้า ทำร้ายทำลายประเทศ
แม้ตนจะเคยร้องไปยัง กกต.ให้ระงับยับยั้งการหาเสียงที่ไม่สร้างสรรค์แนวนี้ แต่จนถึงตอนนี้กกต.ก็ยังไม่สรุป ความจริงถ้าเรารณรงค์หาเสียงด้วยวิธีสร้างสรรค์ เรื่องเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น แต่พรรคประชาธิปัตย์พยายามทำสวนทางตลอดเวลาพร้อมทั้งโยนมายังพรรคเพื่อไทยว่าเป็นตัวการ แต่เราก็จะกัดฟันอดทนและตอบโต้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น อย่างไรก็ดีขอฝากทุกสีเสื้อช่วยกันทำให้บรรยากาศเป็นประชาธิปไตยด้วย
“วันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็เจอมาทั้งมือตบ โหวตโน ภาพตัดต่อ รวมทั้งขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวผ่านโลกไซเบอร์ เมื่อรู้ว่าทำไม่ได้ก็มาใช้ช่องทางทางกฎหมาย ให้นายแก้วสรร นพ.ตุลย์ ออกมาขุดคุ้ยเรื่องหุ้น ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ได้แสดงความเป็นลูกผู้หญิง อดทนและยิ้มสู้ทุกสถานการณ์ แต่คนในพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังใช้ความเป็นลูกผู้ชาย คอยใส่ร้ายป้ายสีเป็นที่น่าสังเกตว่า ช่วงโค้งสุดท้าย พรรคประชาธิปัตย์เลิกพูดเรื่องนโยบายแล้ว หันมาใช้วิชาสุดยอดที่ทำมาเป็นประเพณีกว่า 60 ปี คือการทำลายล้างทางการเมือง พอนโยบายสู้ไม่ได้ก็หยิบฉวยสถานการณ์มาโจมตี จึงอยากขอให้ประชาชนรอมอบบทเรียนให้พรรคประชาธิปัตย์ เป็นฉันทามติของประชาชน ด้วยการลงคะแนนเสียงให้พรรคเพื่อไทยชนะอย่างถล่มทลาย” นายณัฐวุฒิกล่าว
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์เตรียมเปิดเวทีปราศรัยแยกราชประสงค์ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ส่วนตัวและคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็จะอดทนแม้จะเจ็บปวด แต่ก็ถือเป็นการเดิมเกมเสี่ยงของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะไม่มีอะไรจะเสียแล้วในสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะตกเป็นรองพรรคเพื่อไทย ดังนั้นจึงมีความต้องการทำอะไรแบบนี้เพื่อให้คนออกมาต่อต้านมาขัดขวาง ถือเป็นความต้องการของพรรคประชาธิปัตย์และเมื่อจับสัญญาณท่าทีของฝ่ายต่างๆ แล้วก็ยังไม่น่าไว้วางใจ ยังมีคนบางกลุ่มซุ่มรอเข้าฮอสอยู่ แต่สิ่งที่จะขจัดเรื่องเหล่านี้และทำให้เราชนะคือเสียงของประชาชน
