xs
xsm
sm
md
lg

“ชุมพล” รับ ชทพ.ในอีสานโคม่า โอดปาร์ตี้ลิสต์ยังแพ้ “เสี่ยอ่าง” ได้ 30 ส.ส.ก็บุญแล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (แฟ้มภาพ)
หัวหน้าชาติไทยพัฒนา เผยพบ “มาร์ค” แล้ว ไม่ได้เคลียร์อะไร รับพรรคกำลังแย่ในอีสานเสียงหดเพียบ ห่วงเสียพื้นที่เหตุเพื่อไทยมาแรง ส่อต้องลดเป้า โอดปาร์ตี้ลิสต์ยังแพ้ “เฮียชู” ได้ 30 เก้าอี้ก็บุญแล้ว ไม่ปรับยุทธศาสตร์แต่ขอลงพื้นที่เพิ่ม วอนชาวบ้านเลือกพรรคเล็กบ้าง

วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะเคลียร์ใจในการประชุม ครม.ว่า ได้พบกันแล้ว ก็ยิ้มแย้มแจ่มใสกันดี ไม่ได้เคลียร์อะไร โดยนายกฯ ได้ลุกจากหัวโต๊ะแล้วมานั่งข้างๆ ตน ก็ถามไถ่กันเรื่องอื่นก็ไม่มีอะไร โดยถามถึงสถานการณ์พรรคชาติไทยพัฒนา ตนเลยตอบไปว่าขอบคุณ ตอนนี้พรรคชาติไทยพัฒนากำลังแย่ โดยภาคอีสานเสียงลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ตัวเต็งที่หวังว่าจะได้ก็อาจจะเสียพื้นที่ไป เพราะพรรคเพื่อไทยเองก็แรง ส่วนพรรคภูมิใจไทยไม้เด็ดก็ยังไม่ออก ตนจึงเป็นห่วงผู้สมัครของพรรค

เมื่อถามว่า ต้องลดเป้า ส.ส.ที่ตั้งไว้ 30-35 ที่นั่งหรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า ก็ต้องลดแล้ว ตอนนี้สถานการณ์น่าจะลดลง 5-10% โดยเฉพาะระบบบัญชีรายชื่อตอนนี้ยังแพ้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรครักประเทศไทยเลย ถ้าเป็นสถานการณ์ตอนนี้ได้ 30 ที่นั่งก็บุญแล้ว ไม่รู้ว่ากระแสมันมาอย่างไร แปลกจริงๆ ขนาดศรีสะเกษตั้งเป้าไว้เต็มที่ก็ยังน่าเป็นห่วง สุรินทร์ก็น่าเป็นห่วง อีสานคงเหลือแค่นายตุ่น จิตตะเวช ผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี คนเดียว

ผู้สื่อข่าวถามว่า โพลที่ออกมาขณะนี้พรรคชาติไทยพัฒนาได้ ส.ส.ระบบบัญรายชื่อแค่ 2 คน นายชุมพลกล่าวว่า ใช่ เหลือแค่ตนกับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา

เมื่อถามว่าถึงกับต้องเรียกประชุมพรรคเพื่อปรับกระบวนยุทธ์ในการหาเสียงหรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า ไม่ต้อง แต่ต้องไปเพิ่มที่การปราศรัยและการพบปะให้มากขึ้น ตอนนี้ตนมีคิวเต็มเหยียด โดยจะเพิ่มการปราศรัยที่ จ.สุพรรณบุรีอีก 1 วัน ที่ อ.เดิมบางนางบวช และ อ.ด่านช้างในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ และยังต้องเพิ่มจุดหาเสียงใน กทม.ให้มากขึ้น แต่ของบางอย่างปรับเท่าไรก็ปรับไม่ได้ หืดขึ้นคอ

ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์พรรคเล็กขณะนี้ถือว่าลำบากหรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า พรรคเล็กก็ได้เปรียบตรงที่เขามีบัญชีรายชื่ออย่างน้อย 1-2 คนแน่นอน ส่วนเขตเขาคงไม่แน่ใจ ส่วนพรรคขนาดกลางก็มีทั้งเขตและบัญชีรายชื่อ แต่กระแสพรรคใหญ่มาแรง ส่วนแบ่งจึงอยู่ที่พรรคขนาดใหญ่ จึงอยากฝากประชาชนว่าตอนนี้พรรคใหญ่เขาได้มากแล้วเอามาให้พรรคขนาดกลางและพรรคเล็กบ้าง ประชาชนจะได้มีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น เพราะการมีส่วนร่วมของพรรคใหญ่ค่อนข้างมากจนออกจะโอเวอร์ไปนิด ถ้าแบ่งมาพรรคกลางและเล็กจะได้ช่วยกันกระตุกได้บ้าง
กำลังโหลดความคิดเห็น