หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โวกระแสพรรคดีวันดีขึ้น เชื่อได้ที่นั่งสูงกว่า 80 ไม่รวมปาร์ตี้ลิสต์ ยันข้าราชการมหาดไทยวางตัวเป็นกลาง ไม่ได้ช่วยลูกพรรค เชื่อ ถูกโยงเพราะพรรคได้เป็น รมต.รับ “ยิ่งลักษณ์” ไฟแรง บอกเจียมตัวถูกสื่อเมิน ไม่น้อยใจ แต่ได้เป็น ส.ส.ก็ศักดิ์ศรีเท่ากัน ขอดูสุขภาพก่อนพิจารณาตัวเอง รับสมัยหน้าก็อยากนั่งมหาดไทยเหมือนเดิม
วันนี้ (3 มิ.ย.) ที่สนามกอล์ฟแนโช ชาญวีร์ โคราช นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความเคลื่อนไหวในการหาเสียง ว่า ขณะนี้กระแสตอบรับของพรรคถือว่าดีวันดีคืนขอให้ไปดูหลังการเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.ขณะนี้ยอด ส.ส.สูงขึ้นจากที่ตั้งเป้าไว้อยู่ระหว่าง 70-80 โดยไม่รวม ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ และภาคอีสานจะได้ประมาณ 40-50 ที่นั่ง ส่วนที่ขณะนี้มีผู้สมัคร ส.ส.ระบุว่า ข้าราชการกระทรวงมหาดไทยไม่เป็นกลางในการเลือกตั้ง โดยมีการไปช่วยผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยนั้น ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองแต่ละคน แต่การเลือกตั้งข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลางอยู่แล้ว และยืนยันว่า ข่าวที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริง ไม่มี และพรรคไม่จำเป็นต้องให้ข้าราชการมาช่วย เพราะเราขายตัวเอง สาเหตุที่เขาโยงเพราะรัฐมนตรีมาจากพรรคภูมิใจไทย ถ้ารัฐมนตรีไม่ได้มาจากพรรคภูมิใจไทย ข่าวก็คงไม่โยงเรื่องดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสพรรคภูมิใจไทยสู้พรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคเราเกิดมาได้เพียง 2 ปี มีการทำงานให้ประชาชนมาแล้ว 2 ปี มีความสามารถในการบริหารงาน และสมาชิกพรรคก็มีวินัย ส่วนพรรคเพื่อไทยโดยเฉพาะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่สื่อว่ากระแสดี ตรงนี้ต้องยอมรับว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ และไฟแรง และต้องย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ ว่า พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลมากี่ปี มีนักการเมืองมากี่รุ่น โดยเฉพาะตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้าย ถือว่ามีผลมาก
“ส่วนที่มีการนำผมไปเทียบกับเบอร์ 1 ของ 2 พรรคใหญ่ แล้วบอกว่าสู้เขาไม่ได้ ตรงนี้ผมไม่เคยน้อยใจ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าผมแพ้ แต่ผมเจียมตัว วันนี้ผมสมัครเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อเบอร์ 1 ก็ถือว่าจะได้เป็น ส.ส.อยู่แล้ว ถือว่าศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน จะให้ไปเปรียบกับคนนั้นคนนี้คงไม่ เพราะเราเกิดมามีความได้เปรียบเสียเปรียบกันอยู่แล้ว ขอให้ไปดูที่ผลงานที่ทำมาจะดีกว่า” นายชวรัตน์ กล่าว
เมื่อถามว่า หากได้ ส.ส.ไม่ตามเป้า จะพิจารณาตัวเองหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนพิจารณาตัวเองได้เมื่อถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม ตอนนี้ยังทำงานไหวอยู่ ซึ่งขอดูสุขภาพเป็นหลัก
ผู้สื่อข่าวถามทีเล่นที่จริงว่า หากในอนาคตได้กลับมาเป็นรัฐบาลอยากจะทำงานในกระทรวงไหน นายชวรัตน์ กล่าวติดตลกว่า ทำงานที่ไหนก็ได้ ถ้าให้เลือกก็อยากอยู่กระทรวงมหาดไทยเหมือนเดิม ซึ่งตนเคยรักษาการนายกรัฐมนตรีมาแล้ว แต่เข้าทำเนียบไม่ได้ เพราะเสื้อเหลืองล้อมอยู่ อย่างไรก็ตาม เรื่องตำแหน่งคงไกลเกินไปที่จะพูดในเวลานี้ แต่สิ่งสำคัญที่อยากเห็นมากที่สุด คือ อยากเห็นความปรองดองเพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าได้