ปชป.เฉ่ง “เจ๊ปู-แก๊งแดง” ปากว่าตาขยิบ บอกปรองดองแต่ปล่อยสมุนป่วน

ปชป.ห่วงท้าที “เจ๊ปู” แกนนำแก๊งแดง ปากปรองดองแต่ปล่อยสาวกป่วน แถม “นช.แม้ว” ให้สัมภาษณ์สื่อเยอรมนีสร้างความเข้าใจผิดต่อสถาบัน และกล่าวเท็จหารัฐบาลไทยขโมยเงินไปกว่า 4 หมื่นล้าน ซัด “ไอ้เต้น” ข่มขู่ไม่ได้เป็นรัฐบาลประเทศวุ่น เย้ยนโยบาย พท.ขึ้นค่าแรงลักไก่ ขายฝัน

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า พรรคเป็นห่วงท่าทีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญขีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดงที่เป็นผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่สนับสนุนกลุ่มคนที่ขัดขวางการหาเสียง โดยอ้างว่าไม่ใช่เป็นการกระทำของคนเสื้อแดง และเป็นเรื่องที่สามารถแสดงออกได้ เท่ากับว่า คนที่อาสามาเป็นผู้ปรองดองไม่มีพฤติกรรมห้ามปราม การเคลื่อนไหวที่เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการปรองดอง นอกจากนี้ยังมีการเคลื่อนไหวในต่างประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ให้สัมภาษณ์สื่อออนไลน์ในประเทศเยอรมนีชื่อ Spiegel online เผยแพร่เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า โดยมีถ้อยคำทำนองว่า ไม่ประสงค์ที่จะปรองดอง และเงินจำนวนกว่า 4 หมื่นล้าน ถูกรัฐบาลขโมยไป ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะคดีดังกล่าว ศาลได้พิพากษาจนคดีสิ้นสุดไปแล้ว

นพ.บุรณัชย์ กล่วว่า การเคลื่อนไหวเหล่านี้ ถือเป็นการเพิ่มความวุ่นวายในบ้านเมือง มีบางถ้อยคำในการให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสถาบันที่อยู่นอกเหนือการเมือง สอดรับกับการทำงานของ นายโรเบิร์ต อัมเตอร์ดัม ทนายความของกลุ่มคนเสื้อแดงและ นายใจ อึ๊งภากรณ์ ผู้ต้องหาในคดีหมิ่นสถาบันที่กำลังหลบหนีคดีอยู่ สิ่งเหล่านี้ชี้ชัดว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบัญชีรายชื่อ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีความตั้งใจจริงในการปรองดอง โดยวาระที่แท้จริงคือ ต้องการเอาเงินคืน และล้างความผิดให้ตัวเอง

นายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบัญชีรายชื่อและแกนนำคนเสื้อแดง ระบุ หากพรรคเพื่อไทย ได้รับการเลือกตั้งอันดับ 1 แล้วไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล จะได้รู้ว่าไผเป็นไผ นั้น ถือเป็นการแสดงพฤติกรรมข่มขู่ การใช้คำว่า ไผเป็นไผ หรือจะเป็น เผาเป็นเผากันแน่ ซึ่งจะเหมือนกับการกระทำในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย เคยเสนอชื่อ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ในขณะนั้น ขึ้นชิงตำแหน่งนายกฯ ในสภา ทั้งที่พรรคเพื่อแผ่นดิน ไม่ได้เป็นพรรคที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นพรรคอันดับ 1 ก็เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยเคยทำมาแล้ว ส่วนที่มีการพูดถึง พรรคการเมืองที่โกงเลือกตั้ง ที่ผ่านมาพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชนเคยถูกศาลสั่งยุบพรรคมาแล้ว ในข้อหาโกงการเลือกตั้ง

ด้าน นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ โฆษกคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นโยบายด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยมีการลักไก่ ขายฝันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท ด้วยการออกกฎหมาย ไม่ได้ผ่านคณะกรรมการไตรภาคีพิจารณาขึ้นค่าแรง ซึ่งนโยบายนี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมาก เพราะขณะนี้ค่าแรงขั้นต่ำภาคเหนืออยู่ที่ 166 บาท ภาคอีสาน 167 บาท การเพิ่มเป็น 300 บาท ต้องเพิ่มอีกเกือบเท่าตัว จะเป็นปัญหาต่อภาคธุรกิจ และทำให้แรงงานภาคเหนือและอีสานต้องถูกเลิกจ้าง ทั้งนี้ เรื่องนี้เป็นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไม่ถูกจุด ที่ยิ่งแก้จะยิ่งกลายเป็นวัวพันหลัก สร้างปัญหาให้กับประเทศไทย ทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยก็มีแต่หน้าเดิมๆ เป็นอดีตรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งหวังจะใช้เครดิตจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็คงใช้ไม่ได้ เพราะตั้งแต่ปี 2544-2549 ที่เป็นรัฐบาล ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเพียงแค่ 3.70 บาท เทียบกับรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 2 ปี ขึ้นค่าแรงไปแล้ว 6 บาท แสดงให้เห็นว่าทำได้จริง รวมทั้งนโยบายขึ้นค่าแรง 2 ปี 25% ที่เป็นไปได้และได้การตอบรับจากตัวแทนไตรภาคีที่จะเพิ่มขึ้นค่าแรงขั้นต่ำรอบแรกในช่วงกลางปีนี้

นายอรรถวิชช์ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนนโยบายรับจำนำข้าวของพรรคเพื่อไทยนั้น 1 ปี จะมีผลผลิต 30 ล้านตัน การที่ตั้งราคารับจำนำ 1.5 หมื่นบาท จะต้องใช้งบ 4 แสนล้านบาท จากงบประมาณประจำปี 2 ล้านล้านบาท แล้วจะนำเงินมาจากไหน โครงการนี้จึงเป็นโครงการขายฝัน ลักไก่ หาเสียง จึงขอเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยหยุดลักไก่ขายฝัน