“สดศรี” แจงไม่แจกใบแดง ส.ส.ศรีสะเกษ พบพิรุธส่อเป็นเกมกลั่นแกล้ง โชว์เก๋าลั่นอย่ามายืมมือ กกต.เล่นแบบนี้ ตีกลับหลักฐาน ตร. เสนอใบแดง ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 5 ซื้อเสียง ชี้ทำข้ามขั้นตอน ส่งให้ ศอส.ไปดำเนินการก่อนชงเข้า กกต.ใหม่
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้งด้านกิจการพรรคการเมือง เปิดเผยก่อนเดินทางไปประเทศเดนมาร์ก ถึงกรณีที่ตนเองเป็นเสียงข้างมากเห็นว่ายังไม่สามารถแจกใบแดงให้ผู้สมัคร จ.ศรีสะเกษ ว่า กรณีที่ทางฝ่ายสืบสวนสอบสวนเสนอมานั้น ตนเห็นว่ายังไม่มีความชัดเจนเพียงพอ โดยในช่วงเช้าทางเจ้าหน้าได้นำวิดีโอมาฉายภาพ มองไม่ชัดว่าเป็นโบชัวร์แนะนำตัวของผู้สมัคร หรือเป็นแบงค์ร้อย ซึ่งทางนายสมชัยเองก็ยังได้พูดในที่ประชุมเช่นกันว่าภาพมันยังไม่ชัดดูเบลอๆ และตนก็ยังเห็นว่ามีพิรุธหลายอย่างจึงต้องให้กลับไปสอบเพิ่มเติมใหม่ เพราะเกรงว่าจะเป็นเรื่องของการกลั่นแกล้งกัน อีกอย่างเมื่อดูตัวผู้ร้องและผู้ถูกร้องแล้ว เมื่อได้สอบถามก็พบว่า คนที่ร้องก่อนหน้านี้ก็เป็นทนายของผู้สมัครที่ถูกร้อง อยู่ด้วยกันมาก่อนแต่ขณะนี้มีการแยกตัวออกมาเป็นคู่ต้อสู้กัน ฉะนั้นตนเห็นว่าควรต้องตรวจสอบให้ดี เพราะก่อนหน้านี้คนที่ถูกร้องคะแนนเสียงเขาดีมาก หากเปรียบก็มีคนบอกว่า เอาเสาไฟฟ้าไปลง ตัวเองไม่ลงก็ยังได้เลย ถึงขนาดนั้น เมื่อเทียบกับพื้นที่ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ หากนายสุเทพไม่ลงส่งคนขับรถลงก็สามารถเข้ามาได้เช่นกัน เท่าที่ทราบผู้สมัครคนนี้นั้นในพื้นที่ฐานคะแนนเสียงก็ดี ตอนแรกก็อยู่พรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่งแต่ก็ออกมาอยู่กับพรรคเล็กแยกทางกัน แต่คะแนนเสียงดี จึงเห็นว่าน่าจะกำจัดให้พ้นทาง ตอนนี้วิธีการแข่งขันรุนแรงมาก ใช้เงินไม่ได้ บางที่ก็ใช้กระสุนปืน เดี๋ยวนี้เขาใช้กันแบบนี้
“เรื่องของศรีสะเกษนี้มันแปลกมาก คือตอนเช้าได้นำภาพถ่ายของวิดีโอมาให้ กกต.ดู แต่ไม่พูดอธิบายอะไร ต่อมาตอนบ่ายนำกลับมาฉายให้ กกต.ดูใหม่พร้อมกับอธิบายในลักษณะชี้นำให้เห็นเป็นแบงก์ร้อย มีลายน้ำ นอกจากนี้ยังมีสัญลักษณ์ที่มีลักษณะมีรูปพระอาทิตย์ แต่ตาคนแก่อย่างเราคงมองไม่เห็น” นางสดศรีกล่าว และว่านอกจากนี้ยังเห็นว่ายังไม่มีการสืบพยานคนที่รวมอยู่ในรูปภาพเลย จึงเห็นว่าควรที่จะต้องนำกลับไปทำให้ถูกต้องก่อน เพราะไม่เช่นนั้นหากมีการฟ้องร้องกันขึ้นมาว่า กกต.ไปกลั่นแกล้งเขาพยายามรวดรัดเกินไปกกต.ก็จะแย่
เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่ กกต.ถูกเขาข่มขู่ซึ่งตอนแรกก็เสนอให้เงินก่อน เมื่อไม่รับก็หมายเอาชีวิตเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวนที่ทำหน้าที่ของเรา นางสดศรีกล่าวว่า กรณีนี้เท่าที่ทราบคนของเราก็ไปข่มขูพยานของเขาด้วย ให้ไปปรักปรำเขา และขอให้สอบพยานใหม่และขอเข้าร่วมฟังด้วยทางเจ้าหน้าที่ของเราก็ไม่ให้เขาเข้าร่วม และเรื่องนี้ดูสำนวนแล้วมันอีรุงตุงนังกันอยู่ และผู้ที่ถูกร้องเห็นว่าเขาก็ได้มีการฟ้องกลับเจ้าหน้าที่เราเช่นกัน ดังนั้นเรื่องนี้จึงมีมติออกมาเป็น 4 ต่อ 1 อย่างที่เห็น
“เรื่องนี้ยังเห็นว่าพิรุธอยู่หลายอย่าง ดังนั้นเราต้องระมัดระวังตัว อย่ามายืมมือ กกต.เล่นแบบนี้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นจะต้องสืบให้ได้ความจริงก่อน เพราะหากเราให้ใบแดงแล้วมีหลักฐานเพียงเท่านี้ แล้วเราให้ใบแดงเพราะมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าเป็นการกระทำความผิด ซึ่งต้องส่งสำนวนไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาด้วย หากว่าหลักฐานยังไม่พอที่จะควรเชื่อได้ว่า แล้วเราจะไม่โดนฟ้องกลับหรือ” นางสดศรีกล่าว และว่า ทำไมถึงอยากให้ กกต.แจกกันนัก อยากรู้เหมือนกันว่าทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ไปเอาภาพวิดีโอจากไหนมาเผยแพร่แล้วไปเอามาได้อย่างไร ซึ่งทราบมาว่าเขากำลังไปแจ้งความดำเนินคดีอยู่ เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อพรรค
นางสดศรียังเปิดเผยด้วยว่า เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ได้นำสำนวนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปรวบรวมเหตุการณ์ที่การกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้งของผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีลักษณะเข้าข่ายการกระทำความผิดมาตรา 53 (2) พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. โดยแจกเงินซื้อเสียงกันที่โรงสีแห่งหนึ่งในอำเภอแห่งหนึ่ง จ.บุรีรัมย์ โดยมีการเสนอให้ กกต.พิจารณาให้ใบแดงทั้งๆที่ยังไม่ผ่านกระบวนการขั้นตอนของคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวน ของกกต.จังหวัดมาก่อนเลย ซึ่งนายอภิชาตระบุเลยว่ากรณีนี้ดูสำนวนแล้วสามารถให้ใบแดงได้เลย แต่เมื่อ กกต.อีก 4 คนพิจารณาแล้วเห็นว่า การดำเนินการดังกล่าวยังไม่เป็นไปตามระบบขั้นตอนของ กกต. แต่เมือความปรากฏต่อ กกต.ก็ต้องส่งใหกับศูนย์อำนวยการสืบสวนสอบสวนการเลือกตั้ง ส.ส. (ศอส.) ไปดำเนินการต่อ