หัวหน้าประชาธิปัตย์รับห่วงนโยบาย ศก.พรรคอื่นเป็นไปไม่ได้ ซัดเพื่อไทยจ่อสร้างหนี้มหาศาล ยันฟื้นจำนำข้าวสุดอันตราย แนะชาวบ้านรู้เท่าทัน ปัดคิดผิดยุบสภา วอนเลือกพรรคต้านพวกดิบ ถ่อย เถื่อน ซัดพวกล้างผิดให้ “นช.แม้ว” ทำ 2 มาตรฐานชัด ไม่ทำปรองดอง เชื่อ พท.โหมกระแสนำเล่นจิตวิทยาการเมือง ย้ำถ้าแพ้เลือกตั้งและเสียงน้อยกว่าเดิมก็พร้อมไขก๊อก ลั่นถ้าได้อันดับ 1 ม็อบต้องจบ
วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแสดงความเป็นห่วงในนโยบายด้านเศรษฐกิจที่ใช้หาเสียงของพรรคการเมืองว่า ยังความเป็นห่วงมาก เพราะนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า ก็เพิ่งไปดีเบตกับทางพรรคเพื่อไทย เห็นได้ชัดว่าตัวเลขที่คำนวณออกมาในที่สุดมันไม่มีคำตอบว่าเอาเงินมาจากไหน เช่นถามว่าจะสร้างเขื่อนถมทะเล บอกว่าจะเอาเงินมาจากภาคเอกชน โครงการลักษณนี้มันจะเป็นไปได้หรือ หรือบางทีก็ตอบไปเรื่อยว่าเอาเงินจากตลาดหลักทรัพย์บ้างซึ่งไม่ทราบว่ามีแผนจะแปรรูปอะไร แต่ว่าเงินที่ต้องการตามนโยบายที่พูดอย่างน้อยทำให้ขาดดุลประมาณ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นไปไม่ได้ และหากมีการนำเสนอนโยบายเพิ่มเติมอีกตนคิดว่าตรงนี้ก็เป็นประเด็นว่ากำลังพูดความจริงกับประชาชนหรือไม่
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พรรคการเมืองต่างๆ ควรจะได้แสดงตัวเลขให้เห็นว่าโครงการที่ตัวเองหาเสียงอยู่ในขณะนี้ใช้เงินเท่าไหร่ และจะเอาเงินมาจากไหน สามารถที่จะรักษาฐานะการเงิน การคลังได้หรือไม่ ตนก็แปลกใจ เพราะในขณะที่ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยก็ชอบมาต่อว่าประชาธิปัตย์ว่ากู้หนี้สาธารณะความจริงขณะนี้อยู่ในระดับที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และขณะเดียวกันโครงการที่หาเสียงอยู่ขณะนี้ จะเป็นการกู้แบบครั้งมหาศาล ทั้งๆ ที่ขณะนี้ไม่ได้มีวิกฤตเศรษฐกิจ
เมื่อถามว่า ยังเหลือรัฐวิสาหกิจอะไรให้แปรรูปอีก นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องถามพรรคเพื่อไทย ที่บอกว่าจะเอาเงินจากตลาดหลักทรัพย์จากอะไร การบินไทยหรือการไฟฟ้า ตนไม่ทราบ แต่ขอย้ำอีกครั้งว่านโยบายขณะนี้มีหลายเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก ตนยื่นยันสิ่งที่ไปคุยกับทางหอการค้าแห่งประเทศไทยมาเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะผู้ส่งออก ผู้ค้าข้าว เขาจะทราบดี แม้กระทั่งโรงสีที่ไม่ต้องการที่จะทำธุรกิจแบบต้องวิ่งเต้นกับรัฐ เขาก็จะบอกได้เลยว่าการเอาโครงการจำนำกลับมามีความอันตรายอย่างยิ่ง ไม่ใช่เฉพาะธุรกิจของเขา แต่ว่าอนาคตของข้าวไทยจะแข่งขันไม่ได้ คุณภาพต่ำลง และเราจะต้องสูญเสียเงินมหาศาลโดยที่ไม่สามารถป้องกันการลักลอบเอาพืชผลทางการเกษตรของประเทศเพื่อนบ้านมาจำนำด้วย ในขณะที่เกษตรกรที่ผ่านมามีจำนวนน้อยที่ได้ประโยชน์ และถ้าจะทำทุกรายต้องใช้เงิน 4 แสนกว่าล้านบาท
ต่อข้อถามว่า ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ควรที่จะเข้ามาตรวจสอบนโยบายในลักษณะที่เป็นไปไม่ได้ และเข้าข่ายหลอกลวงประชาชนหรือเปล่า นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนคิดว่าคงต้องดูเจตนารมณ์ของกฎหมาย แต่จะเป็นเรื่องที่อาจจะถือว่าพิสูจน์กันได้ยากก็ได้ตนไม่ทราบ สมมุติเขาบอกเอาเงินจากเอกชน อาจจะยังไม่ทราบว่าจะมาจากไหนอย่างไร แต่ตนคิดว่าคนที่รู้เรื่องเศรษฐกิจและคนที่ติดตามอยู่ ซึ่งความจริงก็มีหลายกลุ่ม รวมทั้งนักวิชาการด้วยที่ได้แสดงความห่วงใยมาจะมองออก สิ่งสำคัญตนคิดว่าอยู่ที่ประชาชนต้องรู้เท่าทันเอานโยบายของจริงมาพูดกัน
เมื่อถามว่า คิดว่าการตัดสินใจยุบสภาครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ผิดหรือไม่ เพราะโพลล์ออกมาพรรคประชาธิปัตย์ตามหลังพรรคคู่แข่งตลอด นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ เพราะตนไม่ได้บอกว่าจะยุบสภาเพื่อจะชนะหรือแพ้เลือกตั้ง ตนยุบสภาเพื่อที่จะให้ประเทศเดินไปข้างหน้าคลี่คลายบรรยากาศ และต้องเคารพการตัดสินของประชาชน ตนยังยืนยันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ในการเดินหน้า แต่จะเป็นประโยชน์มากแค่ไหนอยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการปราศรัยล่าสุดก็บอกว่าเจอกับพฤติกรรมดิบ เถื่อน ถ่อย มาตลอด แล้วจะก้าวข้ามพ้นตรงนี้ได้อย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนก็ขอแรงจากประชาชน คิดว่าในที่ 3 ก.ค.ถ้าประชาชนเลือกพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นการส่งสัญญาณว่าลักษณะของการเมืองที่ใช้การข่มขู่ การระรานคนอื่น และความรุนแรงไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการในการเมืองไทย การลงคะแนนตรงนี้จะมีความหมายมาก เพราะถ้าลงคะแนนมากๆ จะเป็นการส่งสัญญาณถึงชาวโลกด้วยด้วยว่าเราปฏิเสธการเมือง ด้วยการเอามวลชน เอาความรุนแรง เอาการข่มขู่คุกคามมาเป็นตัวตั้ง
ต่อข้อถามว่า คิดว่าถ้าประชาชนลงคะแนนชัดเจนในฝั่งใดฝั่งหนึ่งจะทำให้หยุดพ.ต.ท.ทักษิณ ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนยืนยันว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ได้แสดงจุดยืนชัดเจน ไม่มีเหตุผลอะไรที่รัฐบาลชุดใหม่ไปแก้ปัญหาให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ แทนที่จะแก้ปัญหาให้กับประชาชน และถ้าแก้ปัญหาให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยการล้างความผิด นี่คือสองมาตรฐานอย่างแท้จริง เพราะประชาชนโดยทั่วไปทำผิดมีกี่คนที่จะมีโอกาสได้รับการล้างผิด เอาง่ายๆ เฉพาะพี่น้องประชาชนที่มีปัญหาถูกจับเรื่องที่ทำกิน คนเหล่านี้ยากจนและมีความจำเป็นเข้าไปทำกินยังต้องถูกดำเนินคดี การจะแก้ปัญหาแม้ว่าจะมีช่องทางก็ทำได้ยากมาก แต่เรากำลังพูดถึงความคิดที่จะไปล้างผิดคนอาจจะต้องไปเสียเงินงบประมาณคืนทรัพย์สิน 4 หมื่นกว่าล้านบาท ให้กับคนคนเดียว ในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชัน ตนคิดว่าตรงนี้เป็นสองมาตรฐานโดยแท้ถ้าเดินหน้าอย่างนั้นก็ไม่ใช่การปรองดอง
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังแสดงความมั่นใจว่าจะได้กลับประเทศ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เขาก็ต้องพูดอย่างนั้น เพราะต้องการที่จะโหมกระแส เขาอ้างมาตลอดว่าจะได้ 270 เสียง 300 เสียงก็เพื่อ 1.จะให้เกิดความฮึกเหิม อย่างที่เราเห็นภาพว่าเขาจะพยายามแสดงออกถึงความหึกเหิมอย่างเดียว 2.ถ้าไม่เป็นไปตามนั้นก็จะพยายามกล่าวหารัฐบาลว่ามีการโกงเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่โพลล์ไม่ได้สอดรับอย่างนั้น และ 3.มีผลต่อข้าราชการ เป็นเรื่องของการเล่นเกมทางจิตวิทยา
“ส่วนที่ผมพูดตัวเลขของผมเพื่อไม่ให้เข้าใจผิดว่ากลับไปกลับมาหรือเปล่า ออกไม่ออก เมื่อวานนี้ (15 มิ.ย.) มาถามผมว่า 170 เสียงลาออกหรือไม่ ผมก็บอกว่าสมมุติน้อยกว่า 170 ถ้าเกิดผมมาที่ 1 ผมจะไปออกได้อย่างไร แต่ถ้าพรรคถดถอยกว่าเดิมทุกคนเข้าใจดีอยู่แล้ว ผมต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว ผมไม่สามารถที่จะนำพาพรรคไปได้ ถ้าในสถานการณ์ทำให้พรรคถดถอยลงจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว และนายสุเทพก็พร้อม แต่คงต้องดูผลการเลือกตั้งในภาพรวมด้วย อย่างที่บอก สมมติว่าได้ 160 เสียงแล้วมาที่ 1 มันก็ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะไปลาออก แต่ถ้าแพ้การเลือกตั้งแล้วได้น้อยกว่าเดิมมันก็ชัด” นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณมักจะอ้างมวลชนว่าให้การสนับสนุนมาโดยตลอด นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า วันนี้ที่ตนยุบสภาก็เพราะอยากจะบอกว่า ประชาชนคนไทยจำนวนมากไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวในท้องถนนในลักษณะของมวลชนการเมือง เสียงของเขาต้องมีความสำคัญไม่น้อยกว่าเสียงของคนที่มาเดินในท้องถนน และวันนี้เสียงข้างมากตรงนี้อาจจะตอบก็ได้ว่า เราพอแล้วกับการที่ใช้มวลชนมาเพื่อรองรับความต้องการของนักการเมือง ตนคิดว่าการเมืองภาคประชาชนที่เรียกร้องประเด็นเพื่อประชาชนตรงนี้ไม่มีปัญหา แต่ว่ามวลชนที่มาตอบสนองความต้องการ และขณะนี้ก็ชัดเจนว่าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพรรคการเมืองไปแล้ว มันไม่ใช่การเมืองที่ระบอบประชาธิปไตยต้องการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายถึงนายกฯ มั่นใจว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้งโดยมาเป็นอันดับ 1 จะสามารถหลุดความวุ่นวายหลังการเลือกตั้งได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็จะไม่มีความชอบธรมใดๆ ที่จะมาเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ และเราก็ต้องรักษากฎหมาย