พรรคเพื่อฟ้าดิน ยึดหลักมงคลธรรม 38 ประการ “ไม่คบคนพาล” เชิญชวนร่วมกัน “โหวตโน” ทำบุญให้ประเทศ เพื่อร่วมปฏิรูปสู่การเมืองใหม่ 3 ประการ ปฏิรูป กกต.คัดคนที่ดีมาให้ปชช.เลือก องค์กรอิสระให้อิสระจริง นักการเมืองต้องมีคุณธรรม
นางขวัญดิน สิงห์คำ หัวหน้าพรรคเพื่อฟ้าดิน กล่าวในรายการ “คมชัดลึก” ถึงนโยบายของพรรคที่รณงรงค์โหวตโน ให้มาใช้สิทธิเลือกตั้งกาช่องไม่ประสงค์จะเลือกใคร โดยกล่าวถึงป้ายรณรงค์ที่เป็นรูปสัตว์ว่า เป็นการใช้ศิลปะในการทำให้คนสนใจ ขณะนี้ประชาชน 50% ยังนอนหลับทับสิทธิอยู่ การมีนโยบายรณรงค์ให้มาใช้สิทธิ และการรณรงค์โหวตโนเป็นไปตามมงคลธรรม 38 ประการ ข้อที่หนึ่ง ไม่คบคนพาล การเมืองที่ผ่านมามีแต่ผู้ที่เห็นประโยชน์ส่วนตน เห็นแก่พวกพ้อง แต่การเมืองที่จริงจะต้องเสียสละ ต้องเห็นแก่ผู้อื่น สิ่งที่เรานำเสนอให้กระทบใจคน คนมีจิตใจแบบนี้จะรู้สึกเอง สำหรับป้ายที่เวทีสะพานมัฆวาน ไม่ใช่ของพรรค รูปเหมือนกัน แต่แตกต่างกันที่ขนาด ซึ่งป้ายของพรรคเราถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ
สำหรับความเกี่ยวข้องกันของพรรคเพื่อฟ้าดิน กับพันธมิตรนั้น มีความเกี่ยวโยงกัน คือ มีความคิดเหมือนกัน เห็นด้วยกับการโหวตโน เพราะที่ผ่านมาเราเคยเลือกตั้งมาหมดแล้ว แต่บ้านเมืองก็ยังมีปัญหา วันนี้จึงร่วมรณรงค์ไม่เลือกใคร ซึ่งทางพรรคก็ไม่ได้อยากได้คะแนน
จากสถิติที่ผ่านมาในปี 2550 มีผู้ไปเลือกตั้งใช้สิทธิไม่เลือกใคร 1.5 ล้านเสียงที่โหวตโน ถ้าการเลือกตั้งหนนี้ถ้ามีเสียงที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งก็อาจจะเกิดจากการรณรงค์ ส่วนหนึ่งเกิดจากการเบื่อการเมือง ส่วนหนึ่งเกิดจากการรณรงค์ เพราะเขาไม่อยากได้คนหน้าเดิมๆ เข้าสภา ซึ่งเสียงของคนเบื่อการเมืองจริงๆ มีอยู่
สำหรับ ส.ส.ของพรรคการเมืองอื่นๆที่ได้รับเลือกตั้งครั้งนี้ นางขวัญดินกล่าวว่า ถ้าเราเข้าไปตอนนี้ ก็เท่ากับไปสร้างความชอบธรรม ให้พรรคใหญ่ไปปู้ยี่ปู้ยำประเทศชาติ แต่ถ้าสมมติ เสียงโหวตโนได้มาก เราจะก้าวข้ามไปสู่การปฏิรูปการเมืองใหม่ ถ้าได้เสียงมาก ขั้นตอนต่อไป รับรองว่าพรรคการเมืองต่างๆต้องคิดแล้ว ต้องมาคิดกันใหม่ว่าที่ทำมาไม่ถูกต้อง
สำหรับการปฏิรูปการเมือง ประเด็นแรกจะต้องปฏิรูปสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ก่อน เพราะ กกต.เป็นด่านแรกที่คัดเลือกนักการเมืองเข้าสู่ระบบ จะต้องมีระบบการคัดเลือกที่ดี วันนี้ กกต ไม่สามารถ คัดเลือกนักการเมืองที่ดีมาให้ประชาชนเลือกได้ กกต.จะต้องฉลาดกว่าคืนหมาหอน จะต้องรู้ว่าเขาซื้อเสียงกันอย่างไร
ประการที่สอง องค์กรอิสระจะต้องปรับปรุงใหม่ ให้เป็นเสมือนราชสีห์ พอคำรามนักการเมืองจะต้องกลัว แต่วันนี้นักการเมืองไม่ได้กลัวองค์กรอิสระเลย เพราะไม่อิสระพอ ประการที่สาม นักการเมืองที่เข้าสู่การเมือง จะต้องขยันเหมือนผึ้ง ทำมาหากินด้วยตัวเอง ไม่ใช่ตั้งโต๊ะรีดไถ ไม่ใช่ทำในสิ่งไม่ถูกต้อง กฎหมายระบุไว้ว่าถ้าเขตใด ที่จำนวนเสียงโหวตโนชนะ จะต้องจัดเลือกตั้งใหม่ ดังนั้น การโหวตโนจะเป็นเหมือนทฤษฎีผีเสื้อกระพือปีก สิ่งนี้จะทำให้เกิดการกระเทือนในการเมืองไทย เพราะเสียงโหวตโนซื้อไม่ได้ ไม่มีใครซื้อได้ ตอนนี้อาจจะยังเห็นไม่ชัด แต่ถือว่าได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว การโหวตโนเป็นการทำบุญให้ประเทศ เราต่อสู้ด้วยวิธีการสันติ อหิงสา อโหสิ ไม่มีการฆ่าแกงกัน ไม่เหมือนระบบการเมืองตอนนี้ ซึ่งถ้านักการเมืองมีคุณธรรม มีจริยธรรม จะไม่เกิดปัญหาอยากปัจจุบัน ไม่มีปัญหาข้าวยากหมากแพงอย่างที่เป็นอยู่
สุดท้าย นางขวัญดินกล่าวว่า ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทั่วประเทศมาร่วมกันทำบุญให้ประเทศด้วยการเปลี่ยนแปลงไปสู่การเมืองใหม่ ด้วยการร่วมกันโหวตโน