“เทพเทือก” ยังยืนยันหัวชนฝา อย่างไรประชาธิปัตย์ก็ชนะเพื่อไทย โดยจะได้มากกว่า 5-6 เสียง หรือไม่เกิน 10 ส่วนผลโพลทุกสำนักที่ออกมาว่า ปชป.แพ้แค่การปั่นกระแส ปัดพัลวันตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร อ้างนอน ร.1 รอ. และ ร.11 รอ.เพราะต้องหนีพวกแก๊งเสื้อแดงตามฆ่า
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการหาสียงเลือกตั้งภายหลังผ่านโค้งแรกไปแล้วว่า หลังจากที่พรรคตระเวนปราศรัยชี้แจงต่อประชาชน พบว่ากระแสตอบรับเป็นบวกกับพรรคมากขึ้น การตัดสินใจของประชาชนเป็นบวกมากขึ้นสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะประชาชนชัดเจนในเรื่องทิศทางการเมือง และนโยบายของแต่ละพรรค ตนเชื่อว่าคนกรุงเทพฯ จะไม่ลืมภาพเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่เป็นการกระทำของแกนนำคนเสื้อแดงและกองกำลังติดอาวุธที่มีความสัมพันธ์ผูกพันชัดเจนกับพรรคคเพื่อไทย จึงเชื่อว่าคนกรุงเทพฯ ไม่เลือกพรรคเพื่อไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่มีคนถืออาวุธออกมาทำร้ายประชาชน นายสุเทพย้อนทันทีว่า “คนถืออาวุธเป็นพวกเสื้อดำที่มีไม่กี่คน” เมื่อถามต่อว่า แล้วที่ออกมาเป็นกองร้อยเป็นพวกไหน นายสุเทพกล่าวว่า “พวกเสื้อดำ ออกมายิงคน แต่พวกที่ออกมาเป็นกองร้อยไม่ได้ไปยิงเขา”
นายสุเทพกล่าวว่าโพลต่างๆ จะชี้ผลมาว่าอย่างไร ตนขอให้แปะติดข้างฝาเอาไว้คอยดูกัน แต่ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ยังมั่นใจว่าจะชนะการเลือกครั้งนี้แน่นอน โดยประชาธิปัตย์จะชนะเพื่อไทย 5-6 เสียง แต่ไม่เกิน 10 เสียง ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ 210 เสียง พรรคเพื่อไทยก็ได้ 190 หรือ 200 เสียง คนที่เป็นผู้ชนะจะต้องได้เกิน 200 เสียง ส่วน ส.ส.ระบบัญชีรายชื่อ 125 เสียงนั้นพรรคเล็กๆ คงจะได้ประมาณ 25-26 เสียง ส่วนที่เหลือคงจะเป็นของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย ใครได้เกิน 50 เสียงก็ชนะไป
สำหรับ ส.ส.เขตจะมีเขตที่ช่วงชิงกันจริงๆ ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย ประมาณ 300 เขต ใครทำได้เกิน 150 เสียงก็ชนะ ซึ่งในพื้นที่ภาคเหนือที่ส่วนใหญ่คงจะเป็นคะแนนของพรรคเพื่อไทย เพราะได้ทำงานติดต่อและจัดตั้งกันดี แต่คะแนนระบบบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์จะได้ใกล้เคียงกับพรรคเพื่อไทย ขณะที่ภาคอีสานพรรคเพื่อไทยก็คงจะได้มาก แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็มีเสียงในภาคใต้ ก็มั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์จะชนะยกภาคในภาคใต้ทั้งหมด 53 เก้าอี้ ส่วนพื้นที่ กทม.ก็คะแนนสูสี สำหรับภาคกลางพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยคงจะได้ส.ส.ไม่แตกต่างกันมากนัก เพราะมีหลายพรรค
ผู้สื่อข่าวแย้งว่า ทำไมในการสำรวจทุกครั้งของสำนักโพลต่างๆ จึงออกมาว่าพรรคประชาธิปัตย์แพ้พรรคเพื่อไทยทุกสำนัก นายสุเทพกล่าวว่า ตนได้บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าอย่าไปตื่นเต้นกับโพลล์ เพราะโพลก็มีทั้งโพลแท้ และโพลเทียมที่อาจเป็นการสร้างขึ้นเพื่อปั่นกระแส และบางครั้งโพลออกมาก็ธรรมดา แต่คนที่ได้รับคำสั่งให้วิพากษ์วิจารณ์ปั่นกระแสทำให้เห็นว่าพรรคใดพรรคหนึ่งชนะการเลือกตั้ง ตนจึงไม่กังวลใจกับเรื่องโพล เพราะทั้งหมดนี้อยู่ในใจของประชาชนแล้ว ผลจะออกมาอย่างไรก็คอยดูผลการเลือกตั้งก็แล้วกัน
ส่วนโพลของตำรวจสันติบาลที่ค่อนข้างมีความแม่นยำและจัดทำทุกปี ก็ระบุตรงกันว่าพรรคเพื่อไทยมีชัยชนะเหนือพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าสันติบาลจะมีความเชี่ยวชาญในการทำโพล และเจ้าหน้าที่คงไม่ได้ออกไปสำรวจความคิดเห็นของประชาชนหรือไม่ได้กำหนดว่าต้องออกไปถามความคิดเห็นกี่คน การทำโพลมีวิชาการและวิธีการในการทำ จึงเชื่อว่าตำรวจสันติบาลไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ แต่จะทำหรือไม่ทำนั้นตนไม่ทราบ
“ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็มีทำโพลบ้างในบางพื้นที่ เช่น เขตดอนเมือง ที่พรรคส่งนายแทนคุณ จิตต์อิสระ แข่งกับนายการุณ โหสกุล ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ที่น่าสนใจเพราะคนที่ดูดีทุกอย่าง ไม่มีอิทธิพล ไปแข่งกับคนที่น่ากลัว เพราะในพื้นที่นั้นประชาชนในพื้นที่ทราบดีว่าใครมีอิทธิพลหรือไม่มีอิทธิพล ซึ่งตอนแรกนายแทนคุณมีคะแนนสนับสนุนเพียง 17-18% เท่านั้นแต่พอทำโพลรอบสองพบว่าคะแนนขึ้นมาเกือบ 40% ดังนั้น เวลาที่เหลืออีก 15 วันนายแทนคุณก็มีโอกาสที่จะได้รับชัยชนะ ถ้าประชาชนออกมาเลือกตั้งกันมากๆ โดยเฉพาะคนที่โพลล์เข้าไม่ถึง”
ส่วนที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่พอใจการที่นายอภสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แสดงความคิดเห็นผ่านทางเฟซบุ๊กในทำนองตำหนิพรรคร่วมรัฐบาลนั้น นายสุเทพกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้ตำหนิติติงหรือว่ากล่าวใคร แต่ได้อธิบายข้อเท็จจริงที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงเท่านั้น ตนเชื่อว่าจะไม่เป็นปัญหากับการทำงานร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง แต่ละคนจะพูดปราศรัยประชาสัมพันธ์อย่างไร เราก็อย่าไปเก็บมาเป็นอารมณ์มากนัก คนพูดทุกวันมันก็มีถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้างเป็นเรื่องปกติ ซึ่งจนถึงขณะนี้ตนก็ยังไม่มีการต่อสายหารือเป็นการภายในกับนายบรรหาร ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคอื่นๆ เอาไว้หลังเลือกตั้งค่อยมาหารือกัน ผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไรถึงจะทำให้เห็นว่าการพูดคุยมีน้ำหนักและมีข้อเท็จจริง
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยพยายามชูประเด็นว่าได้จับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินแล้วนั้น รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยพูดเพื่อสร้างภาพให้บรรดาลิ่วล้อ สมุนบริวารเกิดความฮึกเหิมและมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะได้เป็นรัฐบาลแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าการตั้งรัฐบาลครั้งนี้จะเกิดขึ้นในค่ายทหารอีกหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ยืนยันว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้ตั้งในค่ายทหาร เขาตั้งกันในสภา ใครที่พูดจาว่าตั้งรัฐบาลในค่ายทหารก็เป็นเครื่องมือของระบอบทักษิณ สื่อมวลชนคงจะจำได้ว่าเขาโหวตกันในสภาแข่งกันระหว่าง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก กับนายอภิสิทธิ์ พอนายอภิสิทธิ์ชนะกลับบอกว่าไม่ยุติธรรม แต่พอนายอภิสิทธิ์แข่งกับนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แล้วนายอภิสิทธิ์แพ้กลับบอกว่ายุติธรรม นิสัยเขาเป็นอย่างนี้
ผู้สื่อข่าวแย้งว่า แต่ก็มีข่าวว่าท่านในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเข้าไปในนอนในกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) ถนนวิภาวดีรังสิต ในช่วงตั้งรัฐบาล นายสุเทพกล่าวว่า “ที่ไปนอนใน ร.1 นอนในราบ 11 เพราะพวกเสื้อแดงมันไล่จะฆ่าผม จะตายอยู่แล้ว มันจะเผาบ้านอยู่ทุกวัน มาดักอยู่ทุกวัน จะให้ผมมายืนแอ่นพุงให้มันยิงหรืออย่างไร ผมก็ต้องเข้าที่ปลอดภัยก่อนเท่านั้นเอง ผมไม่ไว้ใจไอ้พวกก่อการร้ายเหล่านั้นอยู่แล้ว วันนี้ยังต้องนั่งรถกันกระสุนอยู่เลย ผมไม่ได้ไปคิดฆ่าเขา แต่เขาคิดฆ่าเราทุกวัน” เมื่อถามว่า เมื่อไหร่การเมืองถึงจะเข้าที่เข้าทาง นายสุเทพกล่าวว่า ก็ต่อเมื่อพวกนี้แพ้หมดเรียบร้อย