“ประพันธ์” เผยถ้า “แม้ว” กลับมา เชิญ ปชป.สู้เอาเอง พ้อ พธม.เคยช่วยกลับถูกเหยียบหัวส่ง

“ประพันธ์” เผยถ้า “แม้ว” กลับมา จะปล่อยให้พวกประชาธิปัตย์สู้เอาเองก่อน อยากดูว่าจะมีความสามารถมากแค่ไหน ส่วนพันธมิตรฯ จะทำอย่างไรขอรอดูสถานการณ์ก่อน พ้อเคยช่วยแล้วแต่กลับถูกเหยียบหัวส่ง แต่พอ “แม้ว” กลับมาก็มาเรียกหา ถามหรือชีวิตพันธมิตรฯมีหน้าที่เป็นทาสรับใช้พวกคุณหรือ ชี้จะไม่ยอมให้ใครมาหลอกใช้เป็นเครื่องมือแน่นอน พร้อมบอกเสียใจ “จอมขวัญ” ไม่เหมือนเดิม หลังไปร่วมรายการแต่ถูกพิธีกรรายนี้พูดขัดแบบเสียมารยาท

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี” 

วันนี้ (10 มิ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ปราศรัยบนเวที “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ว่า นายประพันธ์กล่าวว่า วันนี้ตนให้สัมภาษณ์กับโพสต์ทูเดย์ นักข่าวถามว่า ถ้าเกิดพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งและนายทักษิณกลับมา จะทำอย่างไร ตนตอบเลยว่าก็ไปเที่ยวสิ ปล่อยให้หมอตุลย์ พวกนายแก้วสรร พวกนายอภิสิทธิ์ต่อสู้เอาเอง ตนก็ตอบแบบสะใจหน่อย ทำไม บ้านเมืองนี้ไม่จำเป็นต้องมีพันธมิตรฯ นี่ เพราะพอเราไปสู้แล้ว มันมาเหยียบหัวเราส่งแล้ว มันขึ้นมีอำนาจมันก็เนรคุณ เราจะไปสู้เพื่อมันทำไม รอให้มันสู้กันก่อน ตนก็พูดประชดชีวิตไป

นายประพันธ์กล่าวว่า ทำไมเวลานายทักษิณมา จะมาเรียกร้องหาพวกเรา เวลามันยังไม่มา ประชาธิปัตย์มีอำนาจ ทำไมไม่เตะสกัดนายทักษิณซะตั้งแต่ตอนนี้ ปล่อยให้เขามาทำไม เป็นนายกฯ มีกองทัพ มีตำรวจ ทหาร ไม่มีปัญญาสู้กับเขาก็ไปผูกคอตายได้แล้วใช่หรือไม่ หรือชีวิตพันธมิตรฯมีหน้าที่เป็นไพร่ ทาส รับใช้คนอย่างพวกคุณหรือ เมินซะเถอะ

เพราะฉะนั้นเราจะสู้อย่างไร หรือไม่สู้อย่างไร ตนก็ตอบว่าจะดูตามสถานการณ์ แต่อย่างน้อยที่สุด จะไม่ยอมให้ใครมาหลอกใช้เป็นเครื่องมืออย่างแน่นอน เราจะออกไปหรือไม่ออกไป จะทำอะไรหรือไม่ทำอะไร ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของชาติบ้านเมือง แต่อย่างน้อยที่สุด อยากให้พวกแม่ยกที่ประจบสอพลอกับไอ้คนอย่างนั้น ไปสู้กับเขาเอาเองเสียก่อน จะได้รู้ว่าปัญญาความรู้ ความสามารถ จิตใจกล้าหาญ กล้าต่อสู้ กล้าเสียสละ ไม่กลัวเจ็บกลัวตายมีหรือเปล่า ถ้ามีสู้เลย

เพราะฉะนั้นพวกเรามีสมอง มีปัญญา และคิดเป็น ก็รู้ว่าควรทำอะไร แต่ว่าวันนี้ถ้าไม่อยากให้เขามา มันเป็นหน้าที่ของคุณ ต้องไปสู้กับเขาเอง แต่อย่ายืมมือพี่น้องประชาชน เราจะไม่พายเรือให้โจรนั่งโดยเด็ดขาด ไม่ว่าโจรหน้าเหลี่ยม หรือหน้าหล่อ

นายประพันธ์ยังกล่าวต่ออีกว่า เมื่อวานนี้ ตนไปออกรายการช่องทีวีเนชั่น เพื่อร่วมรายการพูดถึงประเด็น “โหวตโน หรือโหวตเยส”  เมื่อไปแล้วก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เพียงแต่ว่า ช่วงเวลาของรายการเสียใจนิดนึงเพราะว่า คุณจอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ (ผู้ดำเนินรายการ)  ไม่เป็นคนเดิมเหมือนที่ตนเคยรู้จักเท่านั้นเอง

ความจริงตนไม่มีปัญหาขัดแย้งส่วนตัวกับนายสมบัติ บุญงามอนงค์ ซึ่งเป็นกลุ่มโหวตเยส จะเคลื่อนไหวอะไรตนเคารพ อาจารย์นักวิชาการเขาจะมีความเห็นเชิงนักวิชาการรัฐศาสตร์ ในมุมมองของเขาอย่างไรก็เคารพ เพียงแต่ว่าในรายการ นายสมบัติ ไม่พยายามเสนอแนวทางของตัวเองว่า โหวตเยสเพราะอะไร มีผลดีผลเสียอย่างไร จะเป็นประโยชน์กับบ้านเมืองอย่างไร มีที่มาที่ไปอย่างไร แล้วจะมุ่งไปสู่อะไร เขาไม่ได้พูด

แต่พยายามจะพูดในลักษณะพาดพิงมาถึงพวกโหวตโน เหมือนกับว่าพวกโหวตโน ไปเชิญชวนให้มีการปฏิวัติรัฐประหาร และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนอกระบบ ทำไมไม่พูดในเรื่องของตัวเอง แต่มาพูดเหมือนกับว่าโหวตโนเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนอกระบบ การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ไม่พึงปรารถนา แบบนี้ต้องให้เวลาตนชี้แจง เวลาเขาพูดตนไม่เกี่ยวข้อง แต่เวลาตนพูดทำไมคุณจอมขวัญชอบมาขัด มาตั้งคำถาม เท่านี้เอง ซึ่งไม่มีมารยาท ตนเห็นว่าไม่เหมาะสม ที่สำคัญเรากำลังพูดเรื่องโหวตโน โหวตเยส ว่าเป็นอย่างไร ทะลึ่งถามเรื่องพรรคการเมืองใหม่ นอกเรื่อง

เมื่อเป็นอย่างนี้ต้องขออภัย เมื่อคืนที่ตนต้องพูดแบบตรงไปตรงมากับทุกคน และอะไรที่เป็นความจริงเราต้องพูด เพราะจะยอมให้มาด่าเรา กล่าวหาเราผ่านจอไม่ได้ โดยตรรกะ โดยเหตุผล เป็นเรื่องเลอะเทอะ เรื่องเก่า เรื่องไร้สาระ ที่จะมากล่าวหาคนโหวตโนว่าเป็นต้นตอของการนำไปสู่รัฐประหาร

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า การรัฐประหาร เกิดจากการเมืองโดยระบอบทักษิณ และการเผาบ้านเผาเมือง ความเลวความชั่วของนักการเมือง นี่คือต้นเหตุ ตนยังไม่พูดเลยในตอนแรกถ้าไม่มาพาดพิงเรา แต่เมื่อมาพาดพิง ก็ต้องบอกว่านายสมบัติ บุญงามอนงค์ ควรจะหันกลับไปมองดูว่าพวกตัวเองต่างหากที่เป็นคนกวักมือเรียกให้เขามาปฏิวัติ

แล้วการโหวตเยส โหวตโน มันเป็นสิทธิ จะโหวตเลือกใครหรือไม่เลือกใคร ทีนี้บรรดานักรัฐศาสตร์บางคนอาจจะมาถามว่า โหวตโนต้องเสนอแนวคิดด้วย ว่าต่อไปจะทำอะไร จะมีการปฏิรูปอย่างไร ตนก็ถามว่าตกลงถ้าตนจะโหวตโนนี่ต้องพกแผนปฏิรูปใส่กระเป๋าเข้าไปในคูหาด้วยใช่หรือไม่ อันนี้มันเพ้อเจ้อ แล้วเวลาคนไปโหวตเยส เสนอแผนอะไรล่ะ ก็ไม่มีแผน นักวิชาการที่ร่วมรายการพูดอีกว่า โหวตโนก็ได้แต่ต้องระมัดระวัง ซึ่งตนก็ถามกลับไปว่าทำไมต้องระวัง คนที่มีสติต่างหากถึงโหวตโน

“เฮ้ยระวังทำไมวะ จะไปโหวตโนทำไมต้องระวังล่ะ ต้องโหวตโนอย่างมีสติ แล้วเวลาโหวตเยสล่ะ มีสติมั้ย ทำไมโหวตโนมันต้องมีสติ ลื้อหาว่าพวกเราบ้าไปแล้วหรือไง เห็นมั้ย พูดแบบนี้ไม่ได้ ก็เพราะเขามีสติน่ะสิเขาถึงโหวตโน แสดงว่าถ้าจะมีสติก็คือนักการเมืองชั่วยังไง นักการเมืองโกงยังไง นักการเมืองเผาบ้านเผาเมือง ขายชาติขายบ้านเมืองยังไง ก็ไปโหวตให้มันตะบี้ตะบัน อย่างนี้หรือถึงเรียกว่ามีสติ ใช่มั้ย นี่สิมีสติ มีปัญญา ถึงไม่ไปเลือกคนชั่วคนเลวคนโกงคนขายชาติขายแผ่นดินไง” นายประพันธ์กล่าว

นายประพันธ์กล่าวต่อว่า นักวิชาการในรายการบอกอีกโหวตโนจะต้องเสนอแผนปฏิรูป แผนปฏิรูปถ้าอยากให้ตนเสนอ ให้ตนเป็นนายกฯสิ จะเสนอให้ดู

คนที่ควรจะเสนอแผนว่าจะปฏิรูป เปลี่ยนแปลงบ้านเมืองอย่างไร มันควรเป็นพรรคการเมืองที่เสนอตัวมาเลือกตั้ง แล้วอยากจะเป็นรัฐบาล อยากจะเป็นนายกฯ พวกนี้ต่างหากที่ควรจะเสนอแผนว่าจะพาชาติบ้านเมืองไปอย่างไร ไม่ใช่มาถามตน ไปถามทำไมประชาชน เพราะเขาไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เขามีหน้าที่กาว่าจะลงคะแนนให้ใคร หรือไม่เลือกใคร

ถ้าหากมาถามแบบนี้ ตกลงประชาชนไทยทุกคน ต้องกาเลือกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่ถ้าจะกาโหวตโน ต้องถามก่อน มีแผนปฏิรูปหรือไม่ หรือต้องถามก่อนว่าโหวตโนแล้วจะเอาคะแนนโหวตโนไปทำอะไร ถามทำไม ไม่เกี่ยวเลย โหวตโนก็เพราะอัปปรีย์ไปจัญไรมา ฟังไม่รู้เรื่องหรือ เวลาคนอื่นเขาไปเลือกคนเลว คนโกง คนชั่ว ทำไมไม่ไปถามเขา หรือเลือกพรรคเผาบ้านเผาเมืองเพราะอะไร นี่คือวิธีคิดของคนพวกนี้ พยายามจะมาต่อต้านเรา

พูดไปพูดมานักรัฐศาสตร์คนนั้น บอกว่าโหวตโนจะเป็นผลเสียหายต่อประเทศชาติระยะยาวจะได้นักการเมือง นักเลง อันธพาล เจ้าพ่อ มาเฟีย อย่างนั้นอย่างนี้ นี่หรือปัญญานักรัฐศาสตร์ มันไม่มีโหวตโน ก็ได้โจรครองเมืองอยู่แล้ว โหวตโนไม่ได้เป็นการทำให้ได้คนชั่ว โหวตโนเป็นการบอยคอตคนชั่ว มีแต่จะทำให้นักการเมืองต้องปรับปรุงตัวเอง กลายเป็นบอกโหวตโนจะได้คนเลวเข้าสภา ไปโน่นเลยงงมาก

เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากได้คนชั่ว คนเลว อันธพาล มาเป็นผู้แทนฯ นักรัฐศาสตร์ต้องช่วยประชาชนคิด ว่า จะคิดระบอบกลไกการเมือง การปกครอง การเลือกตั้ง แบบไหน ที่มันสามารถมีประสิทธิภาพในการป้องกันคนชั่ว ไม่ให้มีอำนาจปกครองบ้านเมือง มันต้องอย่างนั้น ซึ่งคุณก็ยังคิดไม่ได้ แต่เราคิดได้ และ ณ สถานการณ์นี้ โหวตโนดีที่สุด ที่จะเป็นมาตรการหนึ่งที่ สกัดกั้นคนเลวไม่ให้ได้อำนาจ แม้ได้อำนาจปกครองบ้านเมือง ก็ไร้ซึ่งความชอบธรรม

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า ในโลกนี้เรื่องการปกครองชาติบ้านเมือง เรื่องใหญ่ที่สุดคือ ความชอบธรรม ทักษิณ อยู่ไม่ได้ ปกครองประเทศบ้านเมืองไม่ได้ แม้จะมีเสียง 370 กว่าเสียง มีตำรวจทหารค้ำจุนบัลลังก์ มีอำนาจเงินมหาศาล มีสื่อมวลชนในมือ แทรกแซงครอบงำองค์กรอิสระทุกองค์กร ยังไม่สามารถปกครองบ้านเมืองได้เลย เพราะเขามีอำนาจ แต่เขาไม่มีความชอบธรรมที่จะปกครองบ้านเมือง เพราะเขาโกง เพราะเขาใช้อำนาจไม่ชอบ สังหาร ปราบปรามประชาชนอย่างป่าเถื่อน ปราบปรามยาเสพติดใช้ศาลเตี้ยยิงประชาชนทิ้ง ทำร้ายทำลายพี่น้องประชาชนในภาคใต้ โกงทุจริตมหาศาล ขายหุ้นหลีกเลี่ยงภาษี ความไม่ชอบธรรมของเขาทำให้เขาไม่สามารถปกครองประเทศ นี่เป็นบทเรียนสอนให้รู้แล้ว

อย่าง พล.อ.สุจินดา คราประยูร ปฏิวัติ แก้รัฐธรรมนูญเสร็จ ตั้งพรรคการเมืองสามัคคีธรรม เลือกตั้งบอกจะไม่เป็นนายกฯ ตระบัดสัตย์กลับมาเป็นนายกฯ ความชอบธรรมไม่มี แม้จะมีกองทัพ ปืนใหญ่ รถถัง มีแสนยานุภาพมหาศาล ต้านทานพลังมือเปล่าของประชาชนได้หรือไม่ ความชอบธรรมเป็นอันดับ 1

“วันนี้ก็เหมือนกัน นักการเมืองที่หาเสียงเลือกตั้ง ทั้งสวยทั้งหล่ออยากเป็นนายกฯ แต่ไม่มีความชอบธรรม ถ้าประชาชนโหวตโนเยอะๆ แล้ว 2 คือตัวเองไม่สามารถสร้างศรัทธาให้ประชาชนเชื่อถือได้ ไม่สามารถสร้างอนาคตและความหวังให้กับประชาชนได้ นโยบายเป็นนโยบายจอมปลอม สุกเอาเผากิน คอร์รัปชัน เรื่องใหญ่ๆ ของบ้านเมืองไม่สนใจ แต่อยากเป็นนายกฯ ก็เท่ากับเป็นการปล้นอำนาจประชาชน ประชาชนจะไม่ยอมรับแม้ชนะเลือกตั้งก็ปกครองไม่ได้ เพราะการเลือกตั้งเป็นเพียงวิธีการเข้าสู่อำนาจ แต่วิธีการชนะเลือกตั้งมาแล้วจะรักษาอำนาจได้หรือไม่ อยู่ที่คุณทำคุณงามความดีกับประเทศชาติ” นายประพันธ์กล่าว

คำต่อคำ

สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่าน และกราบสวัสดีพี่น้องทางบ้านและที่รับชมอยู่ในต่างประเทศทุกท่าน ก็คงไม่ต้องรายงานตัวแล้วใช่มั้ยครับว่าที่หายไปเมื่อวานนี้ไปไหน พี่น้องทุกคนก็คงจะทราบแล้วว่าไปทำหน้าที่อะไร เดี๋ยวสักพักมีเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ก็จะมาเล่าสู่กันฟัง ส่วนวันนี้ที่ไม่ได้ไปรณรงค์กับพี่น้องก็เพราะว่าเช้าก็ไปให้สัมภาษณ์พิเศษหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ เขาก็คงจะตีพิมพ์ในฉบับวันจันทร์หรือวันอังคาร เป็นสัมภาษณ์พิเศษว่าด้วยเรื่องการรณรงค์โหวตโนของพวกเรา รวมทั้งแนวทางของพี่น้องประชาชนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยด้วยว่า จุดยืนและแนวทางของพวกเราต่อแต่นี้ไป หลังจากการเลือกตั้ง ถ้ามีเสร็จสิ้นแล้ว เรามีแนวทางและจุดยืนที่จะยืนอย่างไร สถานการณ์ ณ ขณะนี้ เรามองอย่างไร ตอบทุกคำถามที่เขาอยากรู้เกี่ยวกับพี่น้องพันธมิตรครับ ทำหน้าที่เพื่อแสดงจุดยืนของพี่น้องประชาชนที่มาสู้ร่วมกันในวันนี้ ให้สื่อและให้สังคม ได้รับรู้ว่า พวกเราคือพลเมืองไทยผู้มีคุณภาพที่สุดครับ พี่น้องครับ

ก่อนจะมาขึ้นเวที แวะไปงานสังสรรค์ของเพื่อนร่วมรุ่น นักศึกษาสถาบันพระปกเกล้า หลักสูตรการเมืองการปกครองสำหรับผู้บริหารชั้นสูง หรือ ปปร. รุ่น 11 ไปก็ดีเหมือนกันครับ ยังมีคุณคำนูณ สมาชิกวุฒิสภา เป็นเพื่อนร่วมรุ่น มี ส.ว.ปัจจุบันหลายท่านที่เรียนรุ่นเดียวกัน ไปร่วมงาน ทำให้ได้รู้ว่า กระแสโหวตโนของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างไร เพราะวันนี้ไปในงานผมติดสติ๊กเกอร์ที่พี่น้องไปรณรงค์ในวันนี้ ไปแจกในงานด้วย เพื่อให้เพื่อนร่วมรุ่นได้ชมผลงาน เป็นที่สนอกสนใจ ไปเจอเพื่อนร่วมรุ่นที่เรียนด้วยกัน เสื้อดำสุภาพสตรีทางซ้าย ท่านคงจำได้ คุณสดศรี สัตยธรรม ท่านเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ กกต. ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ด้านขวาท่านเป็นผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา ท่านพรเพชร วิชิตชลชัยก็ไปเจอท่าน และเจอหลายท่านนะครับ แต่ผมไม่อยากรบกวน ไม่ต้องการเอาภาพขึ้นมาหมดทุกภาพ มีไปก็เกือบร้อย 50-60 ท่านในรุ่น ผมไปเจอท่าน ท่านก็ดีใจ ท่านสดศรี ผมบอกว่า ผมหางานให้ท่านทำแล้ว และก็เอาสติ๊กเกอร์ เดี๋ยวขึ้นภาพสติ๊กเกอร์ที่เรารณรงค์ ผมเอาภาพนี้ไปให้ท่านดู บอกเป็นเวอร์ชั่นใหม่ ภาพนี้แล้ว ก็มีอีกภาพที่เป็น และก็โอเคอีกภาพก็เป็นภาพตบโหลกนักการเมือง แต่พี่น้องรู้ไหมภาพไหนที่ทุกคนดูแล้วชอบที่สุด ภาพไหนครับ ภาพควายครับ เพราะเลือกลำบาก เพราะฉลาดทั้งคู่ ภาพนี้เป็นภาพที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน เพราะว่ามันไม่ต้องอธิบายอะไร มันให้ความหมายที่ชัดเจน มันสุภาพ ดูดี และมีศิลปะ มีความคิดสร้างสรรค์ ที่สำคัญคือคนที่เห็นภาพนี้จะด่าเราก็ไม่ได้ จะฟ้องเราก็ไม่ได้ ทำได้อย่างเดียวทันทีที่เห็นภาพนี้คือ ชักดิ้นชักงอแหง่กๆๆๆ ตาย เท่านั้นเองครับ

นี่คือความชาญฉลาดของครีเอทีฟของเรา นี่คือภูมิปัญญาของพี่น้องประชาชน และมันเกิดขึ้นท่ามกลางการต่อสู้ นี่คือปัญญาของประชาชนครับ ปรบมือให้กับครีเอทีฟของเราด้วยครับ

พี่น้องรู้มั้ยครับ ผมก็นานๆ ได้มีโอกาสเจอกัน สังสรรค์ ก็เลยถามว่า ท่านคิดยังไงครับ เห็นภาพรณรงค์ของพี่น้องโหวตโนแล้ว บอก โอ้โฮ ชอบ เพราะว่ามันมีสีสันและก็ท่านเป็นคนรักสัตว์อยู่แล้ว คือท่านเป็นคนเลี้ยงสุนัข ชอบสัตว์ ชอบสุนัข ซึ่งมันน่ารักอยู่แล้ว และสัตว์โดยทั่วๆ ไปท่านก็มีความรู้สึกที่.. ไม่ได้มีความรู้สึกรังเกียจเดียดฉันท์ ที่สำคัญคือตัวท่านไม่ได้มีจิตใจที่ใกล้เคียงกับสัตว์แม้แต่น้อยเลย เหมือนนักการเมืองหรือเหมือนคนอื่น เพราะฉะนั้นเมื่อเห็นแล้วมันมีสีสัน มันมีความริเริ่มสร้างสรรค์ มันให้ความรู้ทางการเมืองที่ดูปั๊บ คนได้รับความรู้ได้รับการศึกษาเลย ซึ่งยากมากที่คนจะสามารถ ครีเอทีฟคิดเรื่องอย่างนี้ออกมาโดยสื่อเพียงไม่กี่ชิ้นในเวลาอันจำกัด ด้วยต้นทุนอันน้อยนิด แต่ให้ปัญญาคนมากมายมหาศาลเลยครับ นี่คือสิ่งที่เราได้เห็นนะครับ อย่างน้อยก็รู้ว่าทัศนคติของท่านกว้างครับ และก็มองเห็นว่าเป็นสีสันของการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องน่ารังเกียจ หรือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายเลย นี่คือทัศนะที่แลกเปลี่ยนกัน ก็ต้องขอบคุณและเคารพในความคิดเห็นของท่านนะครับพี่น้องครับ จะว่าไปแล้ว ท่านกับผมมีบิดาบุญธรรมคนเดียวกัน แต่ท่านเป็นลูกสาว ผมเป็นลูกชาย แต่บิดาบุญธรรมผมลำเอียง รักลูกสาวมากกว่า ยกมรดกให้หมด ผมยังไม่ได้อะไรเลย ไม่รู้จะได้อะไร แต่ไม่เอ่ยชื่อแล้วกันนะครับ เดี๋ยวจะพาดพิงถึงผู้ใหญ่ที่ท่านก็นับถือเหมือนพ่อ ผมก็นับถือเหมือนพ่อ สองคนนี้เลยมีพ่อคนเดียวกันคือ คนหนึ่งเป็นลูกสาว คนหนึ่งเป็นลูกชาย เวลาลูกชายจะพูดพาดพิงถึงลูกสาว พ่อก็ชักจะเอ็ด ระมัดระวังหน่อยอย่าพูดจาให้กระทบลูกสาว ก็แซวกันแบบนี้

นี่คือบรรยากาศ แต่ที่น่าสนใจอีกอันหนึ่งคือว่า มีเพื่อนที่เรียนร่วมรุ่นด้วยกัน เขาอยู่ศิลปากร เขาบอกว่า เขาเห็นไอเดีย เห็นภาพโฆษณารณรงค์ของพี่น้องพันธมิตรฯ แล้ว เขาเป็นอาจารย์อยู่มหาลัยศิลปากร เขาบอกเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก เขาจะเอาเรื่องนี้ไปให้นักศึกษาคณะศิลปกรรมออกแบบ ของมหาวิทยาลัยศิลปากร ไปคือ ไม่ให้ความเห็นโดยตรงนะ จะทำตั้งเป็นโจทย์ว่า ให้พวกเธอออกไปสำรวจ และดูป้ายรณรงค์หาเสียงของแต่ละพรรค ที่รวมทั้งป้ายรณรงค์ทุกพรรคที่ปรากฏอยู่ในขณะนี้ ให้ดูว่า 1 ของใครมีไอเดียสร้างสรรค์ ของใครมีงานเชิงศิลปะ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ครีเอทีฟดี ของใครที่ดูแล้วมีพลังและให้ความรู้ให้สาระ ของใครดูโดดเด่นเป็นที่น่าสนใจ สร้างแรงบันดาลใจ หรือกระตุ้นให้คนหันมาสนใจเรื่องการเมืองมากที่สุด ก็จะตั้งโจทย์ 1 2 3 4 5 แล้วปล่อยนักศึกษาออกไปสำรวจดูจะได้ความรู้กลับเข้ามาว่า คุณมองป้ายรณรงค์หาเสียงของแต่ละคนแต่ละฝ่าย ว่า ใครเป็นอย่างไร เป็นกิจกรรมอย่างหนึ่ง ผมเลยถามอาจารย์ แล้วตัวของอาจารย์ล่ะเห็นเป็นอย่างไร อาจารย์บอกตรงๆ นะ ดูมาหมดแล้วสู้ป้ายโหวตโนไม่ได้สักป้ายเลย ไม่มีป้ายไหนที่มีพลังทางการเมือง และกระตุ้นความรู้สึกของคน เรียกร้องความสนใจ ให้ความรู้ มีไอเดียสร้างสรรค์ งานเชิงศิลปะ มีความสวยงาม มีความโดดเด่น เห็นสะดุดตา จดจำง่าย ทุกประการรวมอยู่ในนี้ เรียกว่า สุดยอด งานของพวกเราที่ออกสู่สายตาของพี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้นอาจารย์ยังบอกว่า ถ้าจะเล่นแบบสนุก ควาย 2 ตัว ควายที่ดูมีสง่าราศีกว่านักการเมืองตัวจริง ท่านบอกว่า ให้ปิดรูปควายใส่เสื้อไว้ก่อน ให้ปรากฏเฉพาะข้อความว่า "เลือกลำบากเพราะฉลาดทั้งคู่" แล้วค่อยให้เห็น อย่างนี้รู้สึกมีสีสันยิ่งขึ้น ไม่ใช่เฉพาะอาจารย์ศิลปากร บรรดาผู้หลักผู้ใหญ่หลายท่านเห็นภาพนี้ รวมทั้งกรรมการ ป.ป.ช. ที่เรียนรุ่นเดียวกัน มีท่านวิชา มหาคุณ นั่งอยู่ด้วย บอกว่าดูแล้วสุดยอดจริงๆ ผมก็บอกว่า ในรุ่นนี้ที่เรียนด้วยกัน คงมีผมที่สร้างงานให้พวกท่านได้ทำ ไม่ว่า ป.ป.ช. และ กกต. แล้วยังมีศาลรัฐธรรมนูญ ยังมีหลายองค์กรครับ

อันนี้ก็เป็นบรรยากาศของการเมืองนะครับ บรรยากาศของงานเลี้ยงงานสังสรรค์ คุณคำนูณยังอยู่ในงาน ผมก็เลยต้อง เขาบอกว่าจะไม่มาขึ้นเวทีเหรอวันนี้ บอก ไม่มาได้ยังไง ผมต้องมา เพราะวันนี้ไม่มีเหตุผลจะบอกกับพี่น้อง ถ้าบอกว่ามางานเลี้ยงแล้วไม่มาขึ้นเวทีผมก็แย่ ผมก็โดนพี่น้องเล่นงานแย่นะครับ

แล้วก็ดีใจแทนพี่น้องทุกคนว่า สิ่งที่พี่น้องออกไปเคลื่อนไหว ออกไปรณรงค์อยู่ในขณะนี้ คนส่วนใหญ่เห็นและก็ชอบ และก็ถือว่าเป็นทางเลือก ทางออกที่สร้างสรรค์ และเป็นพลัง และเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนที่มืดมนและมองไม่เห็นว่าไม่รู้จะเลือกใคร เขาเห็นทางออกแล้วครับ นี่คือเรื่องจริง แล้วก็มีเพื่อนคนหนึ่งบอกว่า อู้หู เดี๋ยวนี้คุณประพันธ์ โหวตโนของคุณนี่มันกระแสสูงมากเลยรู้มั้ย วัยรุ่นน่ะ คือเธอสัมผัสอยู่กับวัยรุ่นนะ วัยรุ่นเนี่ยมันจะโหวตโนทั้งนั้นเลย เพราะว่าเขาไม่ชอบนักการเมือง พรรคการเมือง ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ จึงสอดคล้องกับโพลที่เขาสำรวจเด็กและคนรุ่นใหม่ ว่า อาชีพที่เขารังเกียจที่สุด คืออาชีพนักการเมืองครับ โตขึ้นเขาก็ไม่อยากเป็นนักการเมือง เพราะถ้านักการเมืองเป็นแบบนี้ แล้วเวอร์ชั่นที่วัยรุ่นชอบที่สุดคืออะไรครับ ไม่ใช่ควายนะ เป็นเวอร์ชั่นอีกอันหนึ่งที่เรียกว่าตบโหลกๆๆ เดี๋ยวขึ้นเวอร์ชั่นตบโหลกหน่อยสิครับ

ไอ้เวอร์ชั่นตบโหลกเนี่ย โดนใจวัยรุ่นมาก ปรากฏว่าเอาไปเนี่ยนะ ขอกัน แจกกัน หมด ตอนนี้หมดเลยครับ ผมจะถือขึ้นมาบนเวทีโชว์ให้พี่น้องดูบอกไม่มีแล้ว ต้องพรุ่งนี้ ขายดีมาก สติ๊กเกอร์ของพวกเราครับ ตบโหลกนี่วัยรุ่นชอบมาก เพราะเป็นศัพท์วัยรุ่นครับ เป็นวันที่ตบโหลกนักการเมือง โหวตโน จะได้ตบโหลกนักการเมือง โอ้โห โคตรเท่เลยใช่ไหมครับพี่น้องครับ เท่จริงๆ เพราะฉะนั้น วันนี้ สติ๊กเกอร์ หรือแผ่นพับ หรือเอกสารสื่อสิ่งพิมพ์ของเรา ที่เราใช้ในการรณรงค์ได้รับการขานรับต้อนรับจากพี่น้องประชาชนอย่างยิ่ง และกลายเป็นกระแสที่เรียกว่า เป็นกระแสที่อยู่เหนือกว่ากระแสการรณรงค์หาเสียงของนักการเมือง และพรรคการเมืองอื่นๆ เรื่องพรรคการเมืองคนไหนส่งใคร มีนโยบายอย่างไร คนเขาไม่อยากฟัง เพราะเขาเบื่อคนมาตอแหล ครับพี่น้องครับ นี่คือเรื่องจริง เวลารายการทีวี จัดรายการดีเบตนโยบายเรื่องนู้น เรื่องนี้ คนปิดหนีเลยเพราะขี้เกียจฟัง แต่เวลาถ้ามีคนไปบอกถามนโยบายเหรอ เขารู้แล้ว พรรคนี้เหรอ 30 บาท รักษาพยาบาลฟรี อ๋อ พรรคนี้เหรอ ศึกษาฟรีตลอดชีวิต และอีกพรรคหนึ่ง 30 บาทอาบน้ำฟรีตลอดชีวิตครับ

เขาบอกนี่ มันแข่งกันแจกฟรีทั้งนั้นเลย มันไม่มีอะไร เขาบอก ไอ้นี่รักษาพยาบาลฟรี ไอ้นี่ศึกษาฟรี ไอ้นี่แจกเงินคนแก่ฟรี บอกแล้วไอ้พรรคนี้หล่ะ 30 บาท อาบน้ำฟรีตลอดชีวิตครับ นี่คือนโยยายพรรคการเมืองประเทศไทยครับ ไร้สาระ ภูมิปัญญาต่ำกว่าประชาชน ไม่มีไอเดียสร้างสรรค์ ไม่มีความริเริ่มที่ดีกว่าประชาชน นึกว่าประชาชนกินแกลบ แต่ความจริง ประชาชนฉลาดกว่านักการเมืองหลายร้อยเท่า พี่น้องครับ

คนพวกนี้ยังหากินกับมุขเก่าๆ บางคน เลือกคนนี้ดีกว่า เพราะหน้าเหลี่ยม เลือกคนนี้ดีกว่า หน้าหล่อ เพื่อนผมไปบรรยายให้ฝรั่งฟัง เขาบอกว่า อันนี้เป็นรัฐบาลแบบ Handsome Guy Government นี่เป็นรัฐบาล Pretty Woman Government คือรัฐบาลหนุ่มหล่อสาวสวย แต่ฝรั่งบอกว่า Good but talk ดีแต่พูด หลังจากฟังเพื่อนผมบรรยายเสร็จบอกว่า อ๋อหล่อนี่หรอ Good but talk คือ ดีแต่พูด นี่คือบรรยากาศของบ้านเมือง

คนที่หาเสียง คนไม่สนใจเลย เพราะนโยบายของพรรคการเมือง เป็นนโยบายที่ไม่มีสาระที่สุดในการเลือกตั้งคราวนี้ แต่เรื่องโหวตโนของเรากลับมีสาระน่าสนใจอยากจะรู้มากยิ่งกว่า

วันนี้ผมไม่ได้ดูถ่ายทอดตอนพี่น้องไปเดินรณรงค์เพราะกำลังทำงาน มาดูเว็บไซต์ภายหลัง มาดูข่าวตอนเย็น ที่คุณเติมศักดิ์เอาภาพของพี่น้อง ปรากฏว่า สร้างผลสะเทือนอย่างใหญ่หลวง สิ่งที่นักการเมืองกลัวที่สุดวันนี้ ที่กลัวไข้โป้ง กลัวพอๆ กับโหวตโน แล้วกลัวว่าจะมีเลือกตั้งหรือเปล่า กลัวพอๆ กับโหวตโน นักการเมืองเห็นโหวตโน เหมือนปีศาจกลัวแสงตะวัน กลัวความสว่าง ยิ่งฟัง อ.ปานเทพ ชำแหละสิ่งที่นายหล่อเขียนในเฟสบุ๊ค ตอกตะปูปิดฝาโลงไปเลย ไม่ว่าจะพูดอะไรออกมา คนเราไม่มีความจริงกับตัวเองยิ่งพูดยิ่งเข้าเนื้อตัวเอง พยายามจะเขียนคุยโวโอ้อวดว่า ตัวเองไม่ได้ยอมตามพรรคร่วมรัฐบาล อย่างนั้นอย่างนี้ ตัวเองสู้กับการทุจริตคอร์รัปชั่น กฎเหล็ก ตัวเองยึดถืออย่างนั้นอย่างนี้ พอเจอ อ.ปานเทพ ชำแหละไปเมื่อเย็นนี้ ตอกตะปูปิดฝาโลง แต๊น แตน แต่น แต๊น ไฟไหม้พรรค .... คือคุณจะเป็นนักการเมืองนี่นะ ต่อไปนี้มันจะได้อบรมสั่งสอนนักการเมืองไทยว่า อย่าเอาวิชาตอแหลมาหาเสียงกับประชาชน เลิกซะทีสันดานตอแหล ใช่มั้ยครับ นักการเมืองทุกคนเลิกเสียทีสันดานตอแหล ใช่มั้ยครับ

จะมาใช้สำบัดสำนวน โวหาร ลีลา อย่างโน้นอย่างนี้ หลอกลวงตบตาประชาชนนั้น มันไม่ง่าย มันอาจจะหลอกลวงประชาชนได้เพียงบางครั้งบางคราว แต่คุณไม่สามารถที่จะมาหลอกลวงตบตาประชาชนได้ตลอดไป ใช่มั้ยครับ คุณอาจจะเคยตีกิน ฉวยโอกาส เอาประโยชน์จากการต่อสู้ของประชาชนได้ในบางครั้งบางคราว แต่คุณไม่สามารถจะฉวยประโยชน์ ตีกิน ฉกฉวย เอาประโยชน์จากการเสียสละชีวิตเลือดเนื้อในการต่อสู้ของประชาชนตลอดไป จำไว้ไอ้หนู

คุณมันยังเด็กละอ่อนมาก คุณไม่มีวันที่จะมาหลอกพวกเราตลอดไป นี่คือจุดยืนของพี่น้องพันธมิตรฯ ที่มีเกียรติและมีคุณค่าแก่การยกย่องอย่างยิ่งครับ เราจะไม่ยอมให้ใครมาหลอกใช้ ตีกิน ใช้พวกเราเป็นเครื่องมืออีกต่อไป เราจะเป็นประชาชนที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับการเมืองและระบอบการเมือง เพราะฉะนั้นคุณหาเสียงหาไป แต่ประชาชนเขามีตา มีหู มีจมูก มีวิจารณญาณ เขาดูได้ เพราะฉะนั้นจะมาแจกนี่ฟรีๆ อาบน้ำฟรี อย่างนี้เลิกเลยครับ มันไม่ได้

ควรจะมีความริเริ่มสร้างสรรค์ในการที่จะสร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติบ้านเมืองมากกว่าที่เป็นอยู่นี้

เพราะฉะนั้นวันนี้ผมได้มาดูบทบาทของพี่น้องประชาชนที่ออกไปรณรงค์หาเสียงในวันนี้ ออกไปรณรงค์ในการเชิญชวนพี่น้องประชาชนไปกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนั้น ผมดูไปด้วยความตื้นตันนะครับ ดูไปด้วยความชื่นชม และดูไปด้วยความประทับใจในความเสียสละของพี่น้องประชาชนอย่างยิ่ง และก็เป็นความงดงามของพี่น้องประชาชน เป็นความมีเกียรติ และเป็นความภาคภูมิใจของพวกเราครับ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในบ้านเมืองนี้ เราคือพลเมืองที่ไม่ยอมจำนนและไม่ยอมงอมืองอเท้ากับระบอบการเมืองนี้ครับ

ความมีเกียรติและความภาคภูมิใจของประชาชนอยู่ตรงนี้ครับ อยู่ตรงที่เรารู้ว่าคุณค่าของพวกเราอยู่ตรงไหน เพราะฉะนั้นวันนี้ผมก็เลยขออนุญาตว่า ผมก็ได้โพสต์ลงไปในเฟสบุ๊ค ก็มีพี่น้องแสดงความคิดเห็นเข้ามาเยอะแยะมากมาย ผมก็บอกว่า เห็นการแสดงพลังโหวตโนของพี่น้อง ด้วยความคึกคักพร้อมเพรียง ด้วยจิตใจเสียสละ มุ่งมั่นทำความดีเพื่อบ้านเมือง ผมตื้นตันใจและภาคภูมิใจต่อพลังอันบริสุทธิ์ของพี่น้องร่วมชาติ จงเดินหน้าต่อไปเถิดครับพี่น้องประชาชน จงเชื่อมั่นใจศรัทธา และเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนเองทำ ไม่มีพลังอันชั่วร้ายใดๆ ที่จะมาทานพลังของมวลมหาชนประชาชนอย่างพวกเราครับพี่น้องครับนี่คือประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของประเทศไทย ที่จะต้องจารึกบทบาทของประชาชนอย่างพวกเรา ไม่มีใครจะมองข้ามบทบาทของพี่น้องประชาชนพันธมิตรไปได้เลย และวันนี้เราแสดงให้เห็นแล้วว่า ประเทศไทยยังมีประชาชนไทยและพลเมืองไทยที่เป็นพลเมืองไทยที่แท้จริง ที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับความไม่ถูกต้อง ความไม่ดีงามอย่างพวกเราอยู่ครับ พี่น้องครับ

เมื่อวานนี้ ผมไปออกรายการช่องทีวีเนชั่น ความจริงแล้วก่อนออกรายการ เรียนตามตรงครับ ผมก็ไม่อยากจะไปหรอก หลายช่องติดต่อมา ก็ต้องขออภัยนะครับ ไม่ใช่เพราะอะไร เพราะว่า มันมีภาระผูกพันกับพี่น้องประชาชนที่ผมต้องมาขึ้นเวทีพบปะท่านทุกวัน ไม่ได้มาพบพี่น้อง มันเหมือนผมบกพร่อง หรือหลงลืมไม่ได้ทำอะไรที่เป็นภารกิจสำคัญของตัวเอง แล้วส่วนใหญ่เวลาของรายการทีวี มักเป็นเวลา 2-3 ทุ่ม ส่วนใหญ่ ซึ่งถ้าเป็นกลางวัน ผมก็พอไปได้ หรือดึกไปมันไม่เหมาะสม แต่เนื่องจากรายการช่องเนชั่นเมื่อวานนี้ ต้องการพูดเรื่องโหวตโน กับโหวตเยสโดยตรง ก็เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพวกเรา และ 2 คือว่า ผมต้องการให้เกียรติกับช่องทีวีเนชั่น ในฐานะเป็นสื่อมวลชนที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี รวมทั้งซีอีโอของเครือเนชั่น เป็นเพื่อนเรียนร่วมรุ่นกับผมที่สถาบันพระปกเกล้า เมื่อเขาเชิญผมก็ไป แต่เมื่อวานนี้ไปด้วยความลำบาก เพราะว่าฝนตกหนัก กว่าจะขับรถไปถึงสถานีเนชั่นทีวี ที่บางนาตราด การจราจรติดขัด เมื่อไปแล้วเราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เพียงแต่ว่า ช่วงเวลาของรายการเสียใจนิดนึงเพราะว่า คุณจอมขวัญ ไม่เป็นคนเดิมเหมือนที่ผมเคยรู้จักเท่านั้นเอง ความจริงเราไม่มีปัญหาขัดแย้งส่วนตัวกับคุณสมบัติ กลุ่มโหวตเยส จะเคลื่อนไหวอะไรเราเคารพ อาจารย์นักวิชาการเขาจะมีความเห็นเชิงนักวิชาการรัฐศาสตร์ ในมุมมองของเขาอย่างไรเราเคารพ เราไม่มีปัญหาอะไร เพียงว่าในรายการ คุณสมบัติไม่พยายามเสนอแนวทางของตัวเองว่า ตัวเองโหวตเยสเพราะอะไร มีผลดีผลเสียอย่างไร จะเป็นประโยชน์กับบ้านเมืองอย่างไร มีที่มาที่ไปอย่างไร แล้วจะมุ่งไปสู่อะไร เขาไม่ได้พูด แต่พยายามจะพูดในลักษณะพาดพิงมาถึงพวกเรา โหวตโน เหมือนกับว่าพวกเราโหวตโน ไปเชิญชวนให้มีการปฏิวัติรัฐประหาร และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนอกระบบ ใครฟังก็รู้ และคนอย่างผมมันไวต่อปัญหา จับปุ๊บผมรู้แล้ว ทำไมคุณไม่พูดในเรื่องของคุณ ทำไมคุณมาพูดเหมือนกับว่า เราโหวตโนเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนอกระบบ การปฏิวัติรัฐประหาร การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ไม่พึงปรารถนา แบบนี้ต้องให้เวลาผมชี้แจง เวลาเขาพูดผมไม่เกี่ยวข้อง แต่เวลาผมพูดทำไมคุณจอมขวัญชอบมาขัด มาตั้งคำถาม เท่านี้เอง ซึ่งไม่มีมารยาท ผมเห็นว่าไม่เหมาะสม ที่สำคัญเรากำลังพูดเรื่องโหวตโน โหวตเยส ว่าเป็นอย่างไร ทะลึ่งถามเรื่องพรรคการเมืองใหม่ นอกเรื่องแล้ว เมื่อเป็นอย่างนี้ต้องขออภัย เมื่อคืนที่ผมต้องพูดแบบตรงไปตรงมากับ่ทุกคน และอะไรที่เป็นความจริงเราต้องพูดอย่างที่ท่านเห็น เพราะจะยอมให้มาด่าเรา กล่าวหาเราผ่านจอไม่ได้ โดยตรรกะ โดยเหตุผล เป็นเรื่องเลอะเทอะ เรื่องเก่า เรื่องไร้สาระ ที่จะมากล่าวหาคนโหวตโนว่าเป็นต้นตอของการนำไปสู่รัฐประหาร

การรัฐประหาร การเมืองเปลี่ยนแปลงนอกระบบ เกิดจากการเมืองโดยระบอบทักษิณ และการเผาบ้านเผาเมือง ความเลวความชั่วของนักการเมือง นี่คือต้นเหตุ ผมยังไม่พูดเลยในตอนแรกถ้าไม่มาพาดพิงเรา ใช่มั้ยครับ แต่เมื่อมาพาดพิงเรา เราต้องบอกว่าคุณควรจะหันกลับไปมองดูตัวคุณว่าพวกคุณต่างหากที่เป็นคนกวักมือเรียกให้เขามาปฏิวัติ

แล้วการโหวตเยส โหวตโน มันเป็นสิทธิ์ของผม ผมจะโหวตเลือกใคร ไม่เลือกใคร มันก็เป็นสิทธิ์ของผม ถูกมั้ยครับ ทีนี้บรรดานักรัฐศาสตร์บางคนอาจจะมาถามว่า โหวตโนต้องเสนอแนวคิดด้วย ต่อไปจะทำอะไร จะมีการปฏิรูปอย่างไร ต้องเสนอแนวทางด้วย ผมก็ถามว่า ตกลงถ้าผมจะโหวตโนนี่ผมต้องพกแผนปฏิรูปใส่กระเป๋าเข้าไปในคูหาด้วยใช่มั้ย กูถึงจะโหวตได้ นี่เพ้อเจ้อ ใช่มั้ยครับ แล้วเวลาคุณไปโหวตเยส คุณเสนอแผนอะไรล่ะ คุณก็ไม่มีแผนอะไรใช่มั้ยครับ แล้วผมจะโหวตโนทำไมผมจะต้องเอา .. โหวตโนก็ได้นะ แต่ต้องระมัดระวัง เฮ้ย ระวังทำไมวะ กูจะไปโหวตโนทำไมกูต้องระวังล่ะ ต้องโหวตโนอย่างมีสติ อ้าว แล้วเวลาลื้อโหวตเยสล่ะ ลื้อมีสติมั้ย ทำไมโหวตโนมันต้องมีสติ ลื้อหาว่าพวกกูบ้าไปแล้วหรือไง เห็นมั้ย พูดแบบนี้ไม่ได้ เสียหายใช่มั้ย ก็เพราะเขามีสติน่ะสิเขาถึงโหวตโน ใช่มั้ย

แสดงว่า ถ้าจะมีสติก็คือนักการเมืองชั่วยังไง นักการเมืองโกงยังไง นักการเมืองเผาบ้านเผาเมือง ขายชาติขายบ้านเมืองยังไง ก็ไปโหวตให้มันตะบี้ตะบัน อย่างนี้เหรอถึงเรียกว่ามีสติ ใช่มั้ย นี่สิมีสติ มีปัญญา ถึงไม่ไปเลือกคนชั่วคนเลวคนโกงคนขายชาติขายแผ่นดินไง

แล้วมาโหวตโนบอกจะต้องเสนอแผนปฏิรูป แผนปฏิรูปน่ะอยากให้เสนอมั้ย ให้กูเป็นนายกฯ สิ กูจะเสนอให้ดู

คนที่ควรจะเสนอแผนว่าจะปฏิรูป เปลี่ยนแปลงบ้านเมืองอย่างไร มันควรเป็นพรรคการเมืองที่เสนอตัวมาเลือกตั้ง แล้วอยากจะเป็นรัฐบาล อยากจะเป็นนายกฯ พวกนี้ต่างหากที่ควรจะเสนอแผนว่ามึงจะพาชาติบ้านเมืองไปอย่างไร ไม่ใช่มาถามผม ไปถามทำไมประชาชน เพราะเขาไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เขามีหน้าที่กาว่าจะลงคะแนนให้ใคร หรือไม่เลือกใคร ใช่มั้ยครับ

ถ้าหากคุณมาถามแบบนี้ ตกลงประชาชนไทยทุกคน เฮ้ย คุณจะไปกาอะไร ถ้ากาเลือกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งไปเลย ถ้าจะมากาโหวตโน ต้องถามก่อน มีแผนปฏิรูปมั้ย หรือมึงต้องมาถามก่อนว่า โหวตโนแล้วมึงจะเอาคะแนนโหวตโนไปทำอะไร อ้าว ถามทำไม ไม่เกี่ยวเลย โหวตโน ก็เพราะอัปปรีย์ไปจัญไรมา มึงฟังไม่รู้เรื่องเหรอ โหวตโนเพราะหนีเสือปะจรเข้ ไอ้นี่ก็เลวทั้งนั้น โหวตโนเพราะมันฉลาดทั้งคู่ กูเลือกไม่ถูกไง ฟังไม่รู้เรื่องเหรอ แล้วจะมาถามอะไรอีก เวลาคนอื่นเขาไปเลือกคนเลว คนโกง คนชั่ว เจ้าพ่อ นักเลว อันธพาล ทำไมลื้อไม่ไปถามเขา ลื้อเลือกพรรคเผาบ้านเผาเมืองเพราะอะไร ใช่ไหม นี่คือวิธีคิดของคนพวกนี้ พยายามจะมาเค้าเตอร์เรา นึกว่าประพันธ์เป็นหมู ต่อให้มา 500 คนยังไม่กลัวเลย ไอ้นี่แค่ 3 ละอ่อน ภูมิปัญญามันก็รู้อยู้แล้ว พูดไปพูดมานักรัฐศาสตร์อาจารย์ โหวตโนจะเป็นผลเสียหายต่อประเทศชาติระยะยาวอย่างนั้นอย่างนี้ ถามระยะยาวเสียหายยังไง เราจะได้นักการเมือง นักเลง อันธพาล เจ้าพ่อ มาเฟีย อย่างนั้นอย่างนี้ นี่เหรอ ปัญญานักรัฐศาสตร์ มันไม่มีโหวตโน ก็ได้โจรครองเมืองอยู่แล้ว มึงจะเอายังไงอีก งง ผมถึงบอกว่า อ้าว โหวตโนไม่ได้เป็นการทำให้ได้คนชั่ว โหวตโน เป็นการบอยคอตคนชั่ว ทำไมคิดได้อย่างนั้น เราโหวตโนเพราะเราไม่เอา เพราะมันเลว มันชั่ว มีแต่จะทำให้นักการเมืองมันต้องปรับปรุงตัวเอง กลายเป็นบอก โหวตโนจะได้คนเลวเข้าสภา ไปนู้นเลย งงมาก เพราะฉะนั้น ถ้าคุณไม่อยากได้คนชั่ว คนเลว เจ้าพ่อ มาเฟีย อันธพาล คุณเป็นนักรัฐศาสตร์ต้องช่วยประชาชนคิด ว่า จะคิดระบอบกลไกการเมือง การปกครอง การเลือกตั้ง แบบไหน ที่มันสามารถมีประสิทธิภาพในการป้องกันคนชั่ว ไม่ให้มีอำนาจปกครองบ้านเมือง ใช่ไหมครับพี่น้อง มันต้องอย่างนั้น คุณก็ยังคิดไม่ได้ แต่เราคิดได้ และ ณ สถานการณ์นี้ คือ โหวตโนนั่นแหละดีที่สุด ที่จะเป็นมาตรการหนึ่ง สกัดกั้นคนเลวไม่ให้ได้อำนาจ แม้ได้อำนาจปกครองบ้านเมือง ก็ไร้ซึ่งความชอบธรรมครับพี่น้องครับ

พี่น้อง ครับ ในโลกนี้เรื่องการปกครองชาติบ้านเมือง เรื่องใหญ่ที่สุดคือ ความชอบธรรมครับ ทักษิณ อยู่ไม่ได้ ปกครองประเทศบ้านเมืองไม่ได้ แม้จะมีเสียง 370 กว่าเสียง มีตำรวจทหารค้ำจุนบัลลังก์ มีอำนาจเงินมหาศาล มีสื่อมวลชนในมือ แทรกแซงครอบงำองค์กรอิสระทุกองค์กร ยังไม่สามารถปกครองบ้านเมืองได้เลย เพราะเขามีอำนาจ แต่เขาไม่มีความชอบธรรมที่จะปกครองบ้านเมือง เพราะเขาโกง เพราะเขาใช้อำนาจไม่ชอบ สังหาร ปราบปรามประชาชนอย่างป่าเถื่อน ปราบปรามยาเสพติดใช้ศาลเตี้ยยิงประชาชนทิ้ง ทำร้ายทำลายพี่น้องประชาชนในภาคใต้ โกงทุจริตมหาศาล ขายหุ้นหลีกเลี่ยงภาษี ความไม่ชอบธรรมของเขาทำให้เขาไม่สามารถปกครองประเทศ นี่เป็นบทเรียนสอนให้รู้แล้ว

พล.อ.สุจินดา คราประยูร ปฏิวัติ รสช.ยึดอำนาจ แก้รัฐธรรมนูญเสร็จ ตั้งพรรคการเมืองสามัคคีธรรม เลือกตั้งบอกจะไม่เป็นนายกฯ ตระบัดสัตย์กลับมาเป็นนายกฯ แล้วตั้งพรรคการเมือง ยึดทรัพย์นักการเมือง จูบปาก ซูเอี๋ยนักการเมือง ปล่อยให้เขาหลุดไป ความชอบธรรมไม่มี แม้จะมีกองทัพ ปืนใหญ่ รถถัง มีแสนยานุภาพมหาศาล ต้านทานพลังมือเปล่าของประชาชนได้ไหม ความชอบธรรมอันดับ 1

วันนี้ก็เหมือนกัน นักการเมืองที่หาเสียงเลือกตั้ง ทั้งสวยทั้งหล่ออยากเป็นนายกฯ แต่ไม่มีความชอบธรรม ถ้าประชาชนโหวตโนเยอะๆ แล้ว 2 คือตัวเองไม่สามารถสร้างศรัทธาให้ประชาชนเชื่อถือได้ ไม่สามารถสร้างอนาคตและความหวังให้กับประชาชนได้ นโยบายเป็นนโยบายจอมปลอม สุกเอาเผากิน มักง่าย คำนึงถึงแต่ประโยชน์เฉพาะหน้า แต่ผลเสียหายต่อชาติระยะยาวไม่รับผิดชอบ ประชาชนเผชิญชะตากรรมเอาเอง ปัญเรื่องแผ่นดิน เรื่องคอร์รัปชั่น เรื่องใหญ่ๆ ของบ้านเมืองไม่สนใจ แต่อยากเป็นนายกฯ อยากจะมีอำนาจ เท่ากับเป็นการปล้นอำนาจประชาชน และข่มขืนใจพี่น้องประชาชน เพราะประชาชนจะไม่ยอมรับคนชั่ว คนโกง คนที่ไม่รับผิดชอบต่อชาติบ้านเมืองให้มีอำนาจปกครองบ้านเมืองอย่างแน่นอน แม้ชนะเลือกตั้งก็ปกครองไม่ได้ เพราะการเลือกตั้งเป็นเพียงวิธีการเข้าสู่อำนาจ แต่วิธีการชนะเลือกตั้งมาแล้วจะรักษาอำนาจได้ จะปกครองอำนาจได้หรือไม่ อยู่ที่คุณทำคุณงามความดีกับประเทศชาติ ประชาชน และมีความชอบธรรมในการบริหารชาติบ้านเมือง ในความเป็นจริงหรือไม่ ไม่ใช่มาเพียงรูปแบบที่ชนะการเลือกตั้งที่โกงและซื้อเสียงมา นี่คือปัญหาสำคัญของบ้านเมืองเรา

เมื่อวานนี้ที่ไปออกรายการต้องยอมรับว่าได้ประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และพี่น้องพอสมควร อย่างน้อยที่สุดคือ เราได้บอกให้คนรู้ว่า คนอย่างพวกเรา ที่จะมากล่าวหาว่าพวกเราต้องการดึงระบอบนั้น ดึงระบอบนี้มา พวกเราไปรับเงินทักษิณมา สนธิไปรับเงินมาทำงาน โธ่ คนอย่างพวกเรานี้เหรอ ไม่ใฝ่ต่ำเหมือนพวกคุณหรอกครับ พี่น้องครับ ถ้าพวกเราเป็นอย่างนั้น เราไม่ยืนอยู่ตรงนี้ใช่ไหมครับพี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้น ถ้าหากรัฐบาลมีหลักฐาน เอามาซิ ว่า คนพวกเราใครบ้างเป็นทาสน้ำเงินของนักการเมืองชั่ว นักการเมืองเลว เรามาอยู่ตรงนี้ เราไม่เลือกทั้ง 2 ฝ่าย และเราไม่สนับสนุนระบอบทักษิณให้กลับมาปกครองบ้านเมือง โดยคิดจะมาโกงบ้านกินเมือง และฟอกความผิดให้ตัวเองเหมือนอย่างเดิมด้วยใช่ไหมครับพี่น้อง

แต่วันนี้ มีนักข่าวมาถามผมเหมือนกันว่า ตอนสัมภาษณ์โพสต์ทูเดย์ว่า ถ้าเกิดเขาชนะเลือกตั้งและทักษิณกลับมา จะทำยังไง ผมตอบยังไงรู้ไหม ผมบอก ผมก็ไปเที่ยวดิ บอกงี้ ผมก็ไปนอนพักผ่อนอาบแดดสบายๆ ก็ปล่อยให้หมอตุลย์ พวกแก้วสรร พวกไอ้หน้าหล่อต่อสู้เอาเอง ผมก็ตอบแบบสะใจหน่อย ทำไม บ้านเมืองนี้ไม่จำเป็นต้องมีพันธมิตรนี่ ใช่ไหมครับ เพราะมีแล้ว พอเราไปสู้แล้ว มันมาเหยียบหัวเราส่งแล้ว มันขึ้นมีอำนาจมันก็เนรคุณไง เราจะไปสู้เพื่อมันทำไม รอให้มันสู้กันก่อน ผมก็พูดประชดชีวิตไป ว่าทำไม ทำไมเวลาทักษิณมาจะมาเรียกร้องหาพวกเรา เวลามันยังไม่มา มึงมีอำนาจ ทำไมมึงไม่เตะสกัดมันซะตั้งแต่ตอนนี้ ปล่อยให้เขามาทำไม ไหนว่าเก่งไง เก่งแล้วอยู่ในอำนาจรัฐ เป็นนายกฯ มีกองทัพ มีตำรวจทหาร ไม่มีปัญญาสู้กับเขาก็ไปผูกคอตายได้แล้วใช่ไหม จะมาเรียกร้องอะไรพวกเรา เวลาที่คุณอยู่ในอำนาจ เวลาที่คุณมีกลไกอำนาจรัฐ เวลาที่คุณมีอำนาจตามกฎหมาย คุณไม่เห็นจัดการกับเขา เวลาเขาฟื้นกลับมาเวลาเขาคืนมีอำนาจกลับมาแล้ว คุณจะมาเรียกร้องหาพระแสงอะไรครับพี่น้องครับ หรือชีวิตพวกผมมีหน้าที่เป็นไพร่ ทาส รับใช้คนอย่างพวกคุณเหรอ เมินซะเถอะ ครับพี่น้องครับ

เพราะฉะนั้น เราจะสู้อย่างไร หรือไม่สู้อย่างไร ผมก็ตอบว่าผมจะดูตามสถานการณ์ แต่อย่างน้อยที่สุด จะไม่ยอมให้ใครมาหลอกใช้เราเป็นเครื่องมืออย่างแน่นอนครับ เราจะออกไปหรือไม่ออกไป จะทำอะไรหรือไม่ทำอะไร ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของชาติบ้านเมือง แต่อย่างน้อยที่สุด เราอยากให้พวกแม่ยกที่ประจบสอพลอกับไอ้คนอย่างนั้น ลื้อไปสู้กับเขาเอาเองซะก่อน จะได้รู้ว่า ปัญญาความรู้ ความสามารถ จิตใจกล้าหาญ กล้าต่อสู้ กล้าเสียสละ ไม่กลัวเจ็บกลัวตายมีหรือเปล่า ถ้ามีคุณสู้เลย ใช่ไหมครับ เพราะฉะนั้น พวกเรามีสมอง มีปัญญา และคิดเป็น ก็รู้ว่า ควรทำอะไร แต่ว่าวันนี้ คุณไม่อยากให้เขามา มันหน้าที่ของคุณ คุณต้องทำให้มัน คุณต้องไปสู้กับเขาเอง ใช่ไหมครับ แต่อย่ายืมมือพวกเราพี่น้องประชาชน เราจะไม่พายเรือให้โจรนั่งโดยเด็ดขาด ไม่ว่าโจรหน้าเหลี่ยม หน้าหล่อ

ช่วยผมได้ดีมาจดหมายเล็กๆ ทำให้ผมเซฟเสียงไว้พูดอีกหลายวัน พี่น้องครับ ความจริงมีจดหมาย บทกลอน บทกวีเยอะแยะ ตั้งใจจะมาอ่านให้พี่น้องฟัง แต่เวลาไม่มาก อยากคุยกับพี่น้องพอสมควร เอาฉบับนี้แล้วกัน เป็นของพระ ท่านทำมาเป็นตัวอย่างการรณรงค์โหวตโน ท่านทำเป็นซองจดหมาย แล้วมีตราประทับหน้าซอง เวลาท่านจะเขียนจดหมายถึงใคร หรือตั้งใจจะส่งไปถึงญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ช่วยรณรงค์โหวตโน หน้าซองจะมีคำว่า เพื่อรณรงค์ให้ไปเลือกตั้งแล้วกาโหวตโนไม่เลือกพวกล้มเจ้า เผาเมือง ขายชาติขายแผ่นดิน โกงกินงบประมาณ ผลาญเงินภาษีประชาชน สุดทนอย่าเลือกสัตว์โลกไร้ศีลธรรมเข้าสภา แล้วจ่าหน้าซองส่งถึงใคร โหวตโนคือการไปใช้สิทธิ์ในคูหาเลือกตั้ง วันเลือกตั้ง 3 ก.ค.54 กาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน ท่านทำตรายางประทับไว้เลย

ท่านเขียนจดหมายมาดีมาก บอกว่า ต้องสงวนนามท่านเป็นพระสงฆ์ มีหลักไม่ให้ยุ่งการเมือง แต่ก่อนจะอุปสมบทในเดือนมิ.ย.49 ปี 47, 48 ยังเป็นฆราวาสอยู่กรุงเทพฯ ติดตามรายการทีวี เมืองไทยรายสัปดาห์ ที่คุณสนธิ และคุณแอ้ม เป็นผู้ดำเนินรายการ ทุกสัปดาห์ จนกระทั่งถูกปิดรายการ ยังไปฟังรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรที่ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ สวนลุมพินี จนกระทั่งพนักงานจากกรมป่าไม้มาก่อกวนที่สวนลุมพินี จนไปบวชที่เพชรบุรีแล้วยังได้ฟังข่าว และติดตามฟังวิทยุชุมชนคลื่นหนึ่ง ถ่ายทอดตลอด ตั้งแต่ 06.00-24.00 น.ทุกวัน มาจนวันนี้ 5 ปีแล้ว จึงอยากจะขอบอกว่า พันธมิตรฯ ที่เกิดจากใจ ยังเป็นอยู่อย่างเหนียวแน่น แต่ในรูปของพระสงฆ์มหานิกาย ทำให้ไม่สามารถไปร่วมนั่งฟังหน้าเวทีได้ แต่ได้ถ่ายทอดความรู้ เหตุการณ์ และความรู้ที่ถูกต้องของพันธมิตรฯ เผยแพร่ให้ลูกหลาน ญาติโยมทั้งหลายฟัง ขณะนี้อาตมาอายุ 65 ปี พรรษา 5 แล้ว แม้พระระดับเจ้าอาวาส ตำแหน่งเจ้าคณะตำบล ในเขต อ.เมือง ท่านหนึ่ง เวลาเทศนายังกล่าวเทศนาแสดงธรรม ขยายความรู้จากเวทีพันธมิตรฯ ให้ญาติธรรมด้วย นับว่าได้ผลมาก สำหรับเรื่องโหวตโน อาตมายังออกแบบพิมพ์ซองจดหมาย และสั่งทำตรายาง ท่านส่งมาเป็นตัวอย่าง เพื่อเผยแพร่ต่อไป ขอบคุณท่าน ไม่เปิดเผยชื่อ อย่างน้อยท่านห่วงใยบ้านเมืองและทำตามหน้าที่ และอยู่ในบทบาทที่ไม่ผิดต่อกฎหมายและพระราชบัญญัติสงฆ์ ท่านก็ทำ เพื่อให้สติกับญาติโยม อันนี้ก็ต้องขอกราบคารวะนะครับ

พี่น้องครับ มีเรื่องราวต่างๆ มากมายหลายเรื่อง เดี๋ยวเอาไว้วันพรุ่งนี้เราก็มาคุยกันอีกได้นะครับ แต่วันพรุ่งนี้ วันเสาร์นะครับ ตอนเช้าก็ไปศาล พี่น้องที่จะไปรณรงค์ ผมก็อยากจะไปด้วย แต่เสร็จจากศาลตอนบ่ายจะตามไป เพราะว่าไปศาลในคดี กับพี่สุวัตร ในคดีที่ผมฟ้องนายศิริโชค โสภา ศาลทำงานวันเสาร์นะครับ ศาลนัดไต่สวน เพราะฉะนั้นวันพรุ่งนี้ก็อาจจะไม่ได้ไป แต่วันที่ 12 ผมก็ไปช่วยพี่น้องรณรงค์โหวตโนที่ขอนแก่นครับ ไปรณรงค์โหวตโนที่ขอนแก่น ไปเช้า เย็นกลับ ประมาณนี้นะครับ ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องเที่ยวบิน

ทีนี้ วันนี้ก็ไปไหนทุกคนบอกว่า ถ้าขึ้นพูด ไม่ร้องเพลงศรัทธา ไม่ได้ เขาบอก พี่น้องรู้มั้ย ไปงานเลี้ยงเพื่อนก็บอกว่า เดี๋ยวต้องขึ้นร้องเพลงศรัทธาให้ได้นะ ในเฟสบุ๊คก็มีพี่น้องพันธมิตรฯ และพี่น้องที่เป็นเพื่อนในเฟสบุ๊ค ที่เป็นวัยรุ่น บอกชอบเพลงนี้มาก และก็ เมื่อก่อนก็ชอบ แต่ว่าพี่ประพันธ์เอามาร้องเนี่ย ทำให้ได้อารมณ์และความรู้สึกที่สอดคล้องกับสถานการณ์ และทำให้ความชอบในเพลงนี้มีความชอบมากยิ่งขึ้นโดยลำดับครับ ขอร้องว่า ขอให้ร้องเป็นเพลงประจำตัว ถ้าไม่ร้องโกรธนะ จุ๊ๆ ก็เลย เอาล่ะปิดท้ายวันนี้ก็ร้องซะเลยนะครับ ขอมอบเพลงนี้ให้คุณจอมขวัญด้วยนะครับ

(เพลง : ศรัทธา)