“เทพมนตรี” แย้มแผนเขมรจ้องปะทะอีกรอบ หวังบีบศาลโลกคุ้มครองชั่วคราว จวก “พวงทอง” นักวิชาการ 7.1 ล้าน ตีคำปราศรัย ดร.วีรชัย ผิด ชี้ เจตนารมณ์พูดถึง “ขอบเขต” ไม่ใช่ “เขตแดน” ระบุ หากศึกษารอบด้าน ไม่มีทางคิดได้เลยว่ายกพื้นที่รอบปราสาทเขาวิหารให้เขมร
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการประวัติศาสตร์ กล่าวว่า สายลับของตนรายงานไม่เคยพลาดฝากข่าวมาบอก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ว่า ก่อนประชุมมรดกโลกอาจมีการปะทะกันอีกรอบ แถวบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย แล้วขยายลุกลามไปใกล้ปราสาทเขาพระวิหาร เพื่อให้ศาลโลกเห็น หากไม่มีการคุ้มครองชั่วคราวตัวปราสาทเขาพระวิหารจะได้รับความเสียหาย หากเรื่องนี้เป็นจริงให้จับตาดู ผบ.ทบ.จะโต้ตอบเขมรแบบพอเป็นพิธีเหมือนครั้งที่แล้วหรือไม่ ถ้าเหมือนเดิมแสดงว่าท่านสมรู้ร่วมคิดกับเขมร แต่หากรักชาติรักแผ่นดินจริง ต้องยึดพื้นที่กลับคืนทั้งหมดรวมถึงตัวเขาวิหารด้วย
นอกจากนี้ สายลับยังรายงานต่อ เกมนี้เขมรมั่นใจมาก ว่า ศาลโลกจะหันหลังกลับมาใช้มาตรการคุ้มครองชั่วคราวอย่างรวดเร็ว ก่อนผ่านแผนบริหารจัดการมรดกโลก อีกทั้งกัมพูชายังมีแผนจะขอ 1.ขอให้คณะกรรมการมรดกโลกอนุมัติเงิน 1 ล้านเหรียญ เพื่อซ่อมปราสาทเขาวิหาร หรือ 2.ขอให้บูรณะปราสาทเขาวิหาร และพื้นที่โดยรอบตามแผนไปก่อน แล้วก็เลื่อนแผนบริหารจัดการออกไปอีก 1 ปี และ 3.ขอให้ยูเสนโกเห็นพร้องกับศาลโลก ขอให้ออกมาตรการคุ้มครองปราสาทเขาพระวิหารชั่วคราว
นายเทพมนตรี กล่าวถึง ผศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า เข้าใจคำแปลคำปราศรัยของ ดร.วีรชัย พลาศรัย ผิด เพราะ ดร.วีรชัย ให้คำปราศรัยต่อศาลโลกที่เขียนเป็นภาษาฝรั่งเศษ ว่า ขอบเขตปราสาทเขาพระวิหารเป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรี 2505 ตรงนี้ขอย้ำว่าใช้คำว่า “ขอบเขต” แต่พอเสมียนศาลแปลเป็นภาษาอังกฤษ ดันใช้คำที่แปลเป็นภาษาไทย ว่า “เขตแดน” ในการนี้ นายปานเทพ ได้ให้ข้อสังเกต ว่า จากที่อ่านในหลายๆ บทความที่ ดร.พวงทอง เขียน มีพื้นฐานโน้มเอียงเข้าข้างเขมรอยู่แล้ว แถมยังเป็นหนึ่งในคนเขียนเอกสาร 7.1 ล้านด้วย
ปัญหาของนักวิชาการของไทย มักไม่อ่านเอกสารรอบด้าน เลยทำให้เกิดความคลาดเคลื่อน ปัญหาเขาพระวิหารไม่ได้มีแค่คำพิพากษาศาลโลก หรือมติคณะรัฐมนตรีปี 2505 แต่ยังมีการตีความคำวินิจฉัยของศาล โดย ศ.อังรี โรแลง มีคำวินิจฉัยของ ดร.ถนัด คอมันตร์ มีเอกสารของกรมแผนที่ทหาร ที่ไปกันอาณาบริเวณไว้ ตรงนี้ตนก็บอกไปหลายครั้ง ที่กั้นรั้วรอบปราสาทเขาวิหาร พร้อมปักป้ายเป็นภาษา ฝรั่งเศส อังกฤษ และ เขมร ไม่ได้หมายความว่ายกยินแดนภายในรั้วให้เขมร แต่กันเอาไว้ไม่ให้เกิดการปะทะกัน เพราะเราเองก็ไม่ยอมรับกับคำวินิจฉัยของศาล
นายเทพมนตรี กล่าวว่า น่าเสียดาย จอมพลถนอม กิตติขจร, จอมพลประภาส จารุเสถียร และจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อยู่ไม่ถึงยุคนี้ ไม่อย่างงั้นคงได้ใช้คำปราศรัยของท่านมาลากไส้นักวิชาการปัจจุบัน ที่มีพฤติกรรมบิดเบือนคำพิพากษาศาลโลก รวมถึงนักวิชาการ 7.1 ล้าน ที่ไปบิดเบือนคำพูดของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงการต่างประเทศ ด้วยความโง่เขาเบาปัญญา อ่านภาษาฝรั่งเศสไม่เข้าใจแล้วไม่ถามคนอื่น จนทำให้ อ.วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ตอกกลับไป มีนักข่าวเวลานั้นถามจอมพลประภาส ว่า ให้เขตแดนเขมรอย่างไร ซึ่งท่านก็ไล่นักข่าวให้ไปอ่านคำพิพากษาศาลโลก สำหรับตัวท่านอ่านแล้วไม่เห็นศาลบอกให้เขตแดนอย่างไร เมื่อนักข่าวถามจอมพลถนอม ท่านก็บอกบอกเราคืนให้เฉพาะตัวปราสาทส่วนเขมรจะมาทางไหนก็เป็นเรื่องของเขมร ส่วนจอมพลสฤษดิ์ บอกว่าเหมือนเจดีย์กลางน้ำพื้นที่รองรับตัวปราสาทเท่านั้นที่เราให้เขมร
“หวังว่า ดร.พวงทอง จะเข้าใจเสียที อย่าเอาความเป็นอาจารย์จุฬา มาปู้ยี้ปู้ยำ ทำให้คนเข้าใจผิด จนทำให้เเกียรติยศของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเสื่อมเสีย” นายเทพมนตรี กล่าว