xs
xsm
sm
md
lg

“เจ๊สด” ชี้ กกต.ไม่ใช่ผู้ผลิตนักการเมือง แต่ต้องมีคุณสมบัติ ทำงานเพื่อประเทศชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สดศรี สัตยธรรม (แฟ้มภาพ)
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จัดเสวนามีสิทธิ…ทำไมไม่ใช้สิทธิ “รสนา” แนะ กกต.ทำโปรไฟล์ประวัติการทำงานของนักการเมืองในสภา ให้ ปชช.ร่วมตรวจสอบ ด้าน “สดศรี” ชี้ กกต.ไม่ใช่ผู้ผลิตนักการเมือง แต่จะทำอย่างไรให้ประชาชนไม่เบื่อหน่ายการเลือกตั้ง และจะทำอย่างไรให้นักการเมืองเป็นมนุษย์พันธุ์พิเศษทำงานเพื่อประเทศชาติจริงๆ

วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) คณะอนุกรรมการสื่อสารสาธารณะเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้จัดสัมมนา เรื่อง “มีสิทธิ…ทำไมไม่ใช้สิทธิ” ซึ่งมีนางรสนา โตสิตระกูล สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง และ นายวุฒิสาร ตันไชย รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า เข้าร่วมบรรยาย โดย นางรสนา กล่าวใจความตอนหนึ่ง ว่า การเมืองถือว่าเป็นการลงทุนที่ดีที่สุดในบรรดาการลงทุนทุกประเภท เพราะเป็นเรื่องของอำนาจเงิน ทำให้เป็นที่สนใจของนักการเมือง ทั้งนี้ การเมืองไทยอยู่ในช่วงพัฒนาที่อาจจะต้องมีการเลือกตั้งบ่อย แต่จะทำอย่างไรให้ความสัมพันธ์เชิงอำนาจควบคู่ไปกับการตรวจสอบ อีกทั้งเราต้องช่วยกันว่าจะทำอย่างไรให้นักการเมืองได้ยินความต้องการของประชาชน รวมถึงตนต้องการให้กกต.ช่วยผลักดันการทำโปรไฟล์ประวัติการทำงานของนักการเมือง เพื่อตรวจสอบการทำงานของนักการเมืองในสภา เช่น การเข้าประชุม การโหวตกฎหมายต่างๆ การอภิปรายต่างๆ นั้น มีส่วนร่วมมากน้อยแค่ไหนอย่างไร รวมทั้งมีการขึ้นเงินเดือนและหักเงินเดือนตามคุณภาพของงาน โดยเผยแพร่ทางโซเซียลมีเดียให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะถือว่าเราจ้างนักการเมืองมาทำงาน และเป็นสิทธิของประชาชนที่สามารถตรวจสอบการทำงานของนักการเมืองได้

ด้าน นางสดศรี กล่าวว่า กกต.ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งตามกรอบรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง สำหรับสาเหตุที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนั้น หากตรวจสอบจากข้อมูลที่ กกต.จัดทำไว้ พบว่า ประชาชนยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกตั้งในระบบต่างๆ ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 50 ได้กำหนดว่าการเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของประชาชน แต่ประชาชนก็ยังไม่เข้าใจสิทธิและหน้าที่ แม้จะมีการโหมโฆษณาประชาสัมพันธ์จูงใจในสิทธิที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งพึงมีแล้ว ประชาชนก็ยังเกิดความเบื่อหน่าย เพราะในประเทศไทย มีทั้งการเลือกตั้งระดับชาติ และระดับท้องถิ่นอีก ทำให้ประชาชนคิดว่าการเลือกตั้งบ่อยนนั้นเสียทั้งเงินและเสียเวลา

“กกต.ไม่ใช่ผู้ผลิตนักการเมือง แต่จะทำอย่างไรให้ประชาชนไม่เบื่อหน่ายการเลือกตั้ง และจะทำอย่างไรให้นักการเมืองเป็นมนุษย์พันธุ์พิเศษทำงานเพื่อประเทศชาติจริงๆ รวมทั้งต้องปลูกฝั่งเยาวชนที่เป็นเด็กเล็กๆ ให้รักประเทศ หากสามารถเพาะพันธุ์เด็กเล็กๆ เหล่านั้นได้ก็อาจจะทำให้การไม่มาใช้สิทธิอาจจะน้อยลง” นางสดศรี กล่าว

นางสดศรี กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ การเมืองบ้านเราในขณะนี้ ต้องยอมรับว่า เป็นระบบอุปถัมป์ระหว่างญาติพี่น้องที่กลายเป็นมรดกตกทอดทางการเมือง เหมือนกรณีห้างร้านบริษัทต่างๆ ที่ไม่ไว้ใจคนอื่นบริหารงานเท่ากับญาติพี่น้องของตนเอง ซึ่งจะเห็นได้จากนอมินีที่ลงแข่งขันการเลือกตั้ง ก็คือ ญาติพี่น้องที่ไว้ใจได้ หากโชคดีได้เป็นรัฐมนตรีนั้น พี่น้องจะสั่งการได้ง่ายกว่าคนอื่น อย่างไรก็ตาม ในภายภาคหน้าเราจะมีกฎหมายห้าม หรือไม่ว่าการเป็นนักการเมืองนั้นต้องไม่ให้ผู้สืบสันดานเจ็ดชั่วโคตรลงเลือกตั้ง เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้การเมืองกลายเป็นระบบครอบครัว

ขณะที่ นายวุฒิสาร กล่าวว่า การเลือกตั้งที่มีคุณภาพอยู่บนพื้นฐานการสำรวจติดตามนโยบายของแต่ละพรรคการเมือง และตัวบุคคลที่มีพฤติกรรม คุณสมบัติ ความรู้ความสามารถมากน้อยแค่ไหน หากประชาชนใช้ดุลพินิจเลือก ก็จะทำให้การใช้สิทธิเลือกตั้งมีคุณภาพมากขึ้น รวมทั้งต้องมีการเฝ้าติดตามพรรคการเมืองว่าทำงานด้วยความสุจริตหรือไม่ ทั้งนี้ เมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้วประชาชนต้องยอมรับผลการเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยก วันนี้สังคมไทยยิ่งเลือกตั้งยิ่งแตกแยก อย่างไรก็ตามการมีสิทธิไม่ใช่เฉพาะสิทธิเลือกตั้ง แต่ต้องเป็นสิทธิในการตรวจสอบการกระทำของผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งด้วย โดยเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ระบบการเมืองที่ดีขึ้นไม่ใช่เพราะนักการเมืองหรือพรรคการเมือง แต่เพราะสังคมพัฒนาขึ้น มีการเรียนรู้ทางการเมืองมากขึ้น และมีกลุ่มองค์กรที่ทำหน้าที่ตรวจสอบมากขึ้น ทำให้มีการควบคุมทางสังคมที่มีคุณภาพ
กำลังโหลดความคิดเห็น