xs
xsm
sm
md
lg

“ชุมพล” เฉ่ง “มาร์ค” ไม่ให้เกียรติพรรคร่วมฯ แฉไม่อยากร่วมงาน ปชป. แต่ถูกบีบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชุมพล ศิลปอาชา  (แฟ้มภาพ)
“ชุมพล” เฉ่ง “มาร์ค” ไม่ให้เกียรติพรรคร่วมฯ พูดได้ไงที่ดึงเข้าร่วมรัฐบาลเพราะไม่มีตัวเลือก ลั่น ชทพ.ก็ไม่อยากร่วมงานกับ ปชป. แต่ถูกบีบบังคับด้วยพลังที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แถมเมื่อร่วมทำงานกันแล้ว ยังออกกฎ 9 ข้อมาบังคับ ถามถ้าพรรคร่วมฯ ถอนตัวนายกฯ จะมีอำนาจไหม เตือนมีปัญหากับฝ่ายค้านแล้วอย่ามามีกับพรรคร่วมฯอีก มันจะไปกันใหญ่

นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กองทัพบกแจ้งความดำเนินคดีต่อนายไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 19 หนองจอก พรรคเพื่อไทย ที่ใช้ปืนข่มขู่เจ้าหน้าที่ทหารว่า ไม่เกี่ยวข้องอะไร เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ผู้สมัครมีตั้ง 500 กว่าคน เป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้เป็นธรรมชาติของการเลือกตั้ง ไม่ได้หมายความว่าเลือกตั้งเสร็จแล้วจะมีปัญหากัน อยากให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย เพื่อหลังเลือกตั้งเราจะได้ไปช่วยกันแก้ปัญหาต่างๆ ที่มีความขัดแย้งในสังคม เพื่อให้การเมืองและสังคมเดินหน้าต่อไปได้ การพัฒนาประชาธิปไตย และเศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งเรื่องที่เกิดระหว่าวเลือกตั้งไม่น่าจะมีสาระใหญ่โต ไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้อาจมีเรื่องอื่นเกิดขึ้นก็ได้

“อย่างเมื่อวานนี้ (วันที่ 8 มิ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลไม่สบายใจ ไปบอกได้อย่างไรว่าที่เลือกพรรคร่วมรัฐบาลเข้ามาเป็นเพราะว่าไม่มีตัวเลือก เหมือนกับว่าไม่ให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาลเลย ซึ่งนายกฯ ไม่น่าจะพูดอย่างนั้น พรรคชาติไทยพัฒนาก็น้อยใจตายสิ รวมถึงที่เขียนในเฟซบุ๊กด้วยก็ไม่ควรทำ ไม่ให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ใช่ว่าพรรคชาติไทยพัฒนาอยากจะร่วมรัฐบาล ถ้าไม่ถูกบีบบังคับก็ไม่ร่วมแน่ ซึ่งเราถูกบีบด้วยพลังที่เราไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้ ก็ต้องมาร่วม ผมรู้สึกไม่สบายใจ ขอสะกิดไว้สักหน่อย บรรยากาศการเลือกตั้งจะต้องนำความสงบไปสู่หลังการเลือกตั้ง มีปัญหากับฝ่ายค้านแล้วอย่าให้มีปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาลอีก มันจะไปกันใหญ่”

นายชุมพลกล่าวว่า เมื่อมาร่วมรัฐบาลก็ออกกฎ 9 ข้อ บังคับทุกพรรคร่วมรัฐบาลต้องปฏิบัติตาม ตนคิดว่าหากนายกรัฐมนตรีเข้าใจผิดในระบบรัฐสภาไทย แบบมีรัฐบาลผสม นายกรัฐมนตรีเป็นเพียงหัวโต๊ะ แต่ความเป็นเจ้าของ ครม.เป็นของทุกคน ถ้าหากพรรร่วมรัฐบาลถอนออกมานายกรัฐมนตรีจะมีอำนาจหรือไม่ นายกรัฐมนตรีคิดว่านั่งหัวโต๊ะแล้วจะมีอำนาจ สามารถบังคับทุกคนได้ มันไม่ใช่ ระบอบประชาธิปไตยจะต้องฟังกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าจะมีปัญหาไปถึงการร่วมรัฐบาลหน้าหรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า ยังเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรีตอบคำถามอาจจะไม่ทันคิดก็ได้ ตนอยากสะกิดไว้ วันหลังตอบคำถามอะไรขอให้คิดก่อนและให้เกียรติกันด้วย เมื่อถามว่าแสดงให้เห็นถึงวุฒิสภาวะของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า ไม่ทราบ รู้แต่ว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้จบรัฐศาสตร์ แต่จบเศรษฐศาสตร์มา ซึ่งตนเคยสอนหนังสือมาจึงเข้าใจเรื่องนี้ดี

ก่อนหน้านี้ นายชุมพลได้ลงพื้นที่ จ.นครปฐม ช่วย พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา หาเสียง เมื่อเดินทางไปมาถึงได้กราบสักการะพระร่วงโรจนฤทธิ์ ที่องค์พระปฐมเจดีย์ โดยนายชุมพลกล่าวอธิษฐานในขณะปิดทองที่องค์พระว่า ขอปิดทองที่องค์พระบริเวณหัวใจของพระพุทธรูป ปิดที่หัวใจบริสุทธิ์ มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาประเทศชาติ เพื่อความปรองดอง ยามนี้บ้านเมืองตกระกำลำบาก อยากให้เกิดการจับมือและประสานกันเพื่อประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาตินำพาประเทศไปสู่การพัฒนาที่ดียิ่งขึ้นไป ไม่ให้ความขัดแย้งมาเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ พัฒนาประชาธิปไตย การพัฒนาความสุขของชาวนครปฐม และประชาชนทั่วทั้งประเทศ และขอให้ทุกฝ่ายร่วมเดินไปบนถนนของความปรองดอง คิดดี ทำดี พูดดี อยู่ในแนวความคิดปรองดองเพื่อนำประชาชนคนไทย ประชาชนจังหวัดนครปฐมไปสู่ความร่มเย็นเป็นสุข ขอให้พระรัตนตรัยช่วยให้เกิดความอยู่เย็นเป็นสุข

จากนั้นนายชุมพลได้ถีบสามล้อรับจ้างโดยมี พ.ท.สินธพนั่ง โดยก่อนถีบสามล้อนายชุมพลยังกล่าวติดตลกว่าถ้าหากหลังเลือกตั้งตนตกงานก็จะมารับจ้างถีบสามล้อ โดยได้ถีบสามล้อจากหน้าองค์พระปฐมเจดีย์ไปหน้าตลาดเป็นระยะทาง 100 เมตร ก่อนจะนำคณะเดินหาเสียงในตลาดบน-ล่าง เทศบาลนครปฐม ที่อยู่หน้าองค์พระปฐมเจดีย์ และนายชุมพลยังได้ลงมือโชว์ลีลาใช้อีโต้ผ่ากระบอกข้าวหลามด้วยตัวเองด้วย

นายชุมพลให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่นครปฐมว่า การตอบรับพรรคชาติไทยพัฒนาดีพอสมควร และช่วงโต้งสุดท้ายของการเสียงวันที่ 1 ก.ค.จะมาปิดท้ายปราศรัยใหญ่ที่องค์พระปฐมเจดีย์ เพราะถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่พรรคชาติไทยพัฒนา จึงขอบารดีของท่านคุ้มครองและดูแลพวกเราด้วย ให้เราสามารถได้ทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนด้วย

ส่วนที่มีการโหมกระแสให้เลือก 2 พรรคใหญ่ ทำให้ผู้สมัครพรรคชาติไทยพัฒนาเข้าไปได้อย่างไร นายชุมพลกล่าวว่า เบอร์ไหนก็ตามหากเลือกเข้าไปแล้วทะเลาะกันก็อย่าไปเลือก ให้เลือกเบอร์ 21 ก็แล้วกันเพราะไม่ไปทะเลาะกับใคร เมื่อถามถึงกรณีที่ กกต.ออกมาระบุว่าอาจจะมีใบแดงในที่พื้นที่ จ.สุรินทร์ และศรีสะเกษ ซึ่งได้ส่งผู้สมัคร ส.ส.ลงด้วย นายชุมพลกล่าวว่า ผู้สมัครของพรรคชาติไทยพัฒนารายงานว่าเรียบร้อยดีไม่มีปัญหาอะไร ทุกคนทำตามกติกา และให้ทุกคนปฏิญานตนต่อหน้าที่ประชุมใหญ่แล้ว และตนก็ลงนามเซ็นสัญญากับ กกต.เรียบร้อยหมดแล้ว ดังนั้นที่มีปัญหาคงไม่ใช่พรรคของเรา

นายชุมพลยังได้กล่าวถึงวิธีการดูแลสุขภาพในช่วงหาเสียงเลือกตั้งว่า ตอนเดินหาเสียงมีความสุข ทำให้เสริมพลังในร่างกาย เจอหน้าประชาชนยิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งถือเป็นเจ้านายเราทั้งหมด ทำให้เป็นการเพิ่มกำลังให้เราเดินต่อไปอีก เท้าไม่เคยเมื่อย เพราะเมื่อยเมื่อไหร่ก็จะไปหาปาริชาติ ศิลปอาชา หลานสาวที่เปิดโรงเรียนโยคะนวดให้ ไม่ต้องรับประทานอะไรพิเศษ ให้จิตใจซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ทำงานอย่างมีความสุข รักประชาชนให้มาก แล้วเราจะมีกำลังใจภายในตัวเอง เพราะถ้าหากร่างกายไม่แข็งแรงก็จะดูแลพรรคไม่ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น