xs
xsm
sm
md
lg

“ยิ่งลักษณ์” วาดฝันเป็นสตรีเบอร์ 1 ขับเคลื่อนบทบาทผู้หญิงในวงการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ยิ่งลักษณ์” หาเสียงสภาสตรีฯ ชูนโยบายส่งเสริมและพัฒนาสตรี ลั่นนำโอทอปเข้าช่วยสร้างอาชีพ จะจัดงบจังหวัดละ 100 ล้านบาท ตั้งศูนย์ฝึกอาชีพ พร้อมยกระดับแม่บ้านให้มีวุฒิการศึกษา ชี้ เป็นผู้หญิงเข้าใจหัวอกผู้หญิงด้วยกัน ขอโอกาสเข้าทำหน้าที่ขับเคลื่อนบทบาทสตรี

วันนี้ (8 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่บ้านมนังคสิลา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับ 1 พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.หญิง กทม.พรรคเพื่อไทย เดินทางมาหารือกับ คุณหญิง ณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ มี นางเยาวเรศ ชินวัตร อดีตประธานสภาสตรีฯ และ คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ในฐานะที่ปรึกษาประธานสภาสตรีฯ และ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล เดินทางมาร่วมหารือในครั้งนี้ด้วย

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีนโยบายส่งเสริมสตรีในเรื่องของสิทธิ บทบาทความเท่าเทียมในสังคม และศักดิ์ศรี รวมทั้งจะมีการส่งเสริมในเรื่องของรายได้ และอาชีพเสริมให้กับสตรี ทั้งนี้ โอทอปถือเป็นการแสดงถึงความสามารถของสตรี ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจึงมีนโยบายที่จะส่งเสริมอาชีพให้กับผู้หญิง และเพื่อให้องค์กรสตรีสามารถขับเคลื่อนได้ มีความคล่องตัวในการตอบโจทย์ และวัตถุประสงค์ของสตรีอย่างแท้จริง พรรคเพื่อไทยจึงมีนโยบายที่จะตั้งกองทุนส่งเสริมบทบาทสตรี โดยจะตั้งงบเฉลี่ยจังหวัดละ 100 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาและเป็นศูนย์ฝึกอาชีพให้กับสตรี ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาลก็จะทำงานร่วมกับสภาสตรีฯ และกลุ่มแม่บ้านในแต่ละจังหวัดควบคู่กันไปด้วย

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกว่า จะให้กลุ่มแม่บ้านไม่ได้จบการศึกษาระดับ ม.6 แต่มีความรู้ความสามารถ ได้มีโอกาสเชื่อมหน่วยกิตที่เคยเรียนในอดีต เพื่อเป็นการยกระดับให้กับกลุ่มแม่บ้านภายใน 1 ปี เพื่อจะได้มีวุฒิการศึกษาไปใช่สมัครงานได้ รวมทั้งตั้งศูนย์ดูแล 24 ชั่วโมง และการประยุกต์กฎหมายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และยังเป็นการป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุแล้วค่อยมาป้องกัน

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย มีผู้สมัคร ส.ส.หญิงทั้งระบบเขตเลือกตั้ง และระบบบัญชีรายชื่อถึง 66 คน ซึ่งมีตนรวมอยู่ด้วย ดังนั้น ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของสตรีที่เข้ามามีบทบาททางการเมือง และหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ก็จะมีผู้หญิงเข้าไปทำงานทั้งในฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร อีกมาก ตนเป็นผู้หญิงย่อมเข้าใจหัวอกผู้หญิงด้วยกัน ขอเพียงสภาสตรีฯ ให้โอกาสผู้หญิงด้วยกัน เชื่อว่า จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดในการขับเคลื่อนบทบาทของสตรีบนเวทีต่างๆ อย่างสมศักดิ์ศรี








กำลังโหลดความคิดเห็น