ลำปาง - สนามการเมืองลำปางเริ่มขยับ ปชป.วางตัว 4 ผู้สมัครแล้ว “มัธยม” หนีฐานเสียง “ป๋าโรจน์” หันลงเขต 2 ชน “วาสิต พยัคบุตร” พร้อมส่งน้องสาวลงสนามเขต 1 แทน ขณะที่เขต 3-4 ปล่อยพื้นที่ให้ “นิคม-ชาญยุทธ” 2 พ่อลูกตระกูล “เชาว์กิตติโสภณ” ลงสู้
หลังจาก กกต.ประกาศวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ที่จะถึงนี้ทำให้สนามการเมืองลำปาง เริ่มขยับโดยจะเห็นได้จากป้ายประชาสัมพันธ์แนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ที่เริ่มติดให้เห็นตามถนนสายหลักและสายรองต่างๆ แม้บางพรรคจะไม่เน้นตัวผู้สมัครก็ตาม
โดยในเขตเลือกตั้งที่ 1 ของลำปาง ถือว่าเป็นพื้นที่ผูกขาดของนายไพโรจน์ โล่สุนทร อดีต ส.ส.หลายสมัย สมาชิกบ้านเลขที่ 111 และได้ส่งเด็กในสังกัดลงสมัครก็ชนะทุกครั้ง แม้ครั้งล่าสุดจะได้คะแนนที่นำคู่แข่งอย่างนายมัธยม นิภาเกษม ไม่มากนักก็ตาม แต่ก็ถือว่าในพื้นที่ยังคงมีคะแนนหนุนอยู่ไม่ใช่น้อย และการเลือกตั้งครั้งนี้ที่ กกต.ได้ปรับพื้นที่ฐานเสียงใหม่ ทำให้คู่แข่งอย่างนายมัธยม ซึ่งเดิมได้คะแนนนำในเขตเทศบาลนครลำปาง เทศบาลเมืองเขลางค์นคร ถูกหั่นพื้นที่ฐานเสียงไปอยู่คนละเขต จนต้องไปลงสู้ในเขตเลือกตั้งที่ 2 แทน ชนกับนายวาสิต พยัคบุตร ที่ครองเก้าอี้ ส.ส.เขตนี้มายาวนานแทน
และได้ส่งน้องสาวคือ นางขนิษฐา นิภาเกษม ประธานสภาสตรีลำปาง ลงสู้และรักษาฐานคะแนนในเขต 1 (อ.เมืองลำปาง เฉพาะเขตเทศบาลนคร ต.บ้านค่า,ต.บ้านเอื้อม, ต.บ้านเป้า, ต.บ่อแฮ้ว, ต.นิคมพัฒนา, ต.ทุ่งฝาย, ต.ต้นธงชัย, ต.บุนนาคพัฒนา และ อ.ห้างฉัตร ของตนเองแทน
สำหรับนางขนิษฐา นิภาเกษม แม้ไม่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งในระดับชาติมาก่อน แต่ก็เคยลงสมัครสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง และทำงานคลุกคลีอยู่ในวงการเมืองมา ตั้งแต่ปี 2547 เคยเป็นผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งให้กับพี่ชาย คือมัธยม นิภาเกษม ลงสมัคร ส.ส. เขต 1 ในนามพรรคมหาชน สมัยแรกปี พ.ศ. 2548 ได้คะแนน 28,040 คะแนน และต่อมาได้ลงสมัคร ส.ส.อีกถึง 3 ครั้ง คะแนนที่ได้รับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนครั้งสุดท้ายลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเดิม เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2552 ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ได้คะแนนถึง 130,783 คะแนน
ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาจะมีขนิษฐาเดินเคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่ชาย สร้างฐานคะแนนและแนวร่วมเครือข่าย จนเป็นที่รู้จักของชาวบ้านและแกนนำเป็นอย่างดี และอาจจะมากกว่าผู้สมัครบางคนด้วยซ้ำ
นางขนิษฐา หรือที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า “คุณเล็ก” บอกว่า เมื่อได้รับความไว้วางใจจากพรรคแล้วก็ต้องเต็มร้อยและไม่เคยคิดว่าเป็นเพียงตัวแทนของพี่ชายเท่านั้น และไม่เคยกลัวเจ้าของพื้นที่เดิม เพราะการทำงานเราทำงานด้วยความจริงใจกับชาวบ้านและต้องการเข้ามาทำงานให้ชาวลำปางจริงๆ ไม่เคยใส่ร้ายป้ายสีใคร ซึ่งการตัดสินใจอยู่ที่พี่น้องชาวลำปาง ตนเชื่อว่าคนลำปางในเวลานี้ ต้องการเปลี่ยนแปลงตนจึงอยากให้พี่น้องชาวลำปางให้โอกาสผู้หญิง เข้าไปทำงานการเมืองในระดับชาติบ้าง
ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 3 และ 4 เที่ยวนี้พรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผม วางตัวนายนิคม เชาว์กิติโสภณ ลงสมัครเขต 3 และนายชาญยุทธ เชาว์กิติโสภณ บุตรชายของนายนิคม ลงสมัครเขต 4