xs
xsm
sm
md
lg

ภูมิใจห้อยแก้เกี้ยว อีสานขานรับโหวตโน พธม.คลองเตยไล่มาร์ค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - “ภูมิใจห้อย” แก้เกี้ยว แถลงไม่ร่วม“เพื่อไทย” ชี้แตกต่างกันสุดขั้ว เพื่อไทยอัดซ้ำถูก ภท.แอบอ้างตั้งรัฐบาลร่วม "มาร์ค" เย้ยรับออเดอร์ไม่เอา ภท. “เทือก” บอกทารุณเกินไป แม่ค้า พธม.คลองเตยตะโกนไล่ ปชป.ลั่น “ร้านนี้โหวตโน” เผยอีสานขานรับโหวตโน เสื้อแดงหนุนไม่แบ่งสีเสื้อ ผู้สมัคร ส.ส.199 ราย ขอ ตร.คุ้มกัน จับตานครสวรรค์ เชียงราย แข่งดุ!

ที่สนามกอล์ฟแรนโช ชาญวีร์ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา วานนี้ (3 มิ.ย.) นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อ่านแถลงการณ์ตอบโต้ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์จะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทย ว่า 1.พรรคยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข 2.พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคการเมืองที่ยึดอุดมการณ์ทางการเมืองที่ยึดสงบ สันติ สามัคคี 3.พรรคภูมิใจไทยมีนโยบาย สร้างรายได้ไม่สร้างหนี้ให้กับคนรากหญ้า อย่างไรก็ตามไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลพรรคภูมิใจไทยจะไม่ร่วมกับรัฐบาลก็พรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์แตกต่างกัน

นายบุญจง กล่าวว่า ในสภาวะที่บ้านเมืองต้องการความปรองดองอย่าคิดว่าพรรคเล็กจะจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เพราะหาก 2 ขั้ว คือพรรคเพื่อไทย และประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ ปัญหาบ้านเมืองก็ยังไม่จบโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย บัญชีรายชื่อก็มีแต่ นปช.ที่มีผู้ต้องหาที่เกี่ยวกับคดีเผาบ้าน เผาเมือง แต่ส่วนพรรคขนาดเล็กพรรคไหนจะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลและชูใครเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องหาหลังวันที่ 3 ก.ค.
ถามว่าแสดงว่าประกาศชัดเจนไม่ร่วมงานเพื่อไทย นายบุญจง กล่าวว่า วันนี้ร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่มีทางที่จะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยแน่นอน ส่วนการจะร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้นเราไม่ต้องการให้เกิดความแตกแยกในบ้านเมือง สร้างความผาสุก

ส่วนจะพร้อมเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ นายบุญจง กล่าวว่า เราเคารพการตัดสินใจของประชาชน ย้ำว่าหากเป็นรัฐบาล เราก็ผลักดันนโยบาย หากเป็นฝ่ายค้าน ก็จะปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลกระทบเพื่อไทยออกแถลง ทำให้ผู้สมัครหาเสียงของภูมิใจไทยหรือไม่ นายบุญจง กล่าวว่า การแถลงเพื่อไทย ไม่กระทบสนามเลือกตั้ง ผู้สมัครขยันลงพื้นที่ การแสดงของเพื่อไทยก็คือเพื่อไทย เรายืนยันทำงานให้รากหญ้า เราประกาศชัดกับเกษตรกร โดยเฉพาะชาวนา อยากได้การประกันรายได้ ให้เลือกภูมิใจไทย หากอยากได้จำนำเพื่อไทย ที่ทำให้เป็นหนี้มาตลอด หากพรรคชาติไทยพัฒนาจะไปร่วมก็ต้องหารือกันอีกครั้ง ทั้งนี้พรรคชาติไทยฯชูเรื่องปรองดอง ซึ่งชาติไทยชูเรื่องดังกล่าว

นายศุภชัย กล่าวยืนยันว่า เราจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยแน่นอน ส่วนตัวว่าไม่อยากให้มีการพูดก่อน เพราะวันที่ 3 ก.ค. เจ้าของอำนาจแท้จริงจะไปตัดสิน และตนไม่คิดว่านายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีอำนาจแท้จริง ไม่ใช่ความหมายว่าโฆษกพรรคลนลาน

“ความแตกต่างทางการเมือง มันต่างกันสุดขั้ว ท่าทีของพรรคเพื่อไทยพยายามแสดงว่าต้องการให้เกิดปรองดองในชาติ แต่อยากให้ประชาชนตัดสิน ว่าแถลงการณ์ที่ออกมาเป็นแนวทางปรองดองหรือไม่ การที่เราตัดสินใจไม่ร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทยเมื่อ 2 ปีก่อน เป็นท่าทีชัดเจนว่าไม่กับร่วมเพื่อไทย และการมาตั้งพรรคใหม่ก็แสดงว่า “ผมไม่เอาท่านอยู่แล้ว” ซึ่งแถลงการณ์ดังกล่าวไม่เคารพพรรคการเมืองด้วยกัน พรรคพร้อมทำงานกับทุกพรรคที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข จะเห็นว่าผู้สมัครระบบรายชื่อพรรคเพื่อไทย บางคนถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าเผาบ้านเผาเมือง และมีความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชาและโดนประกันตัวออกมา บุคลิกแบบเพื่อไทยไม่ใช่อุดมการณ์ที่เราจะร่วมแน่นอน”นายศุภชัยกล่าว และว่าตนตั้งข้อสังเกตว่าพรรคเพื่อไทยกระแสลดน้อยลง จึงมาพาดพิงภูมิใจไทย เพื่อเป็นผลประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น

เมื่อถามว่าหากพรรคชาติไทยพัฒนาจะไปร่วมรัฐบาลจะไปด้วยหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องพรรค และเป็นเหตุผลของท่าน เรายืนยันไม่ไปแน่นอน เมื่อถามย้ำว่าแต่พรรคมีสัญญาใจกับนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายศุภชัย กล่าวว่า ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และพรรคชาติไทยฯ ต้องดูว่าตัวเองชูเรื่องปรองดอง การอออกแถลงการณ์เพื่อไทย แถลงการณ์หรือไม่ เรามองว่าตรงนี้ขัดแย้งกับสิ่งที่พรรคชาติไทยพัฒนาทำอยู่

**ชวรัตน์ไม่น้อยใจถูกเปรียบ “ปู”

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสพรรคภูมิใจไทยสู้พรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ ว่า พรรคเราเกิดมาได้เพียง 2 ปี มีการทำงานให้ประชาชนมาแล้ว 2 ปี มีความสามารถในการบริหารงาน และสมาชิกพรรคก็มีวินัย ส่วนพรรคเพื่อไทยโดยเฉพาะน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ที่สื่อว่ากระแสดี ตรงนี้ต้องยอมรับว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์และไฟแรง และต้องย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ว่าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลมากี่ปี มีนักการเมืองมากี่รุ่น โดยเฉพาะตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถือว่ามีผลมาก

“ส่วนที่มีการนำผมไปเทียบกับเบอร์ 1 ของ 2 พรรคใหญ่ แล้วบอกว่าสู้เขาไม่ได้ ตรงนี้ผมไม่เคยน้อยใจ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าผมแพ้ แต่ผมเจียมตัว วันนี้ผมสมัครเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อเบอร์ 1 ก็ถือว่าจะได้เป็นส.ส.อยู่แล้ว ถือว่าศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน จะให้ไปเปรียบกับคนนั้นคนนี้คงไม่ เพราะเราเกิดมามีความได้เปรียบเสียเปรียบกันอยู่แล้ว ขอให้ไปดูที่ผลงานที่ทำมาจะดีกว่า”นายชวรัตน์กล่าว

**"เจ๊ปู" ยันไม่ได้เสียมารยาทแค่จุดยืน

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อลำดับที่หนึ่งของพรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันว่า ไม่เป็นการเสียมารยาทหรือดูถูกแต่อย่างใด เพราะถือเป็นมติของพรรคที่แสดงจุดยืนให้ชัดเจน โดยพรรคที่จะมาร่วมงานกันต้องมีอุดมการณ์เดียวกันทั้งนี้ยังปฎิเสธที่จะกล่าวถึงจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยที่เห็นว่าต่างกับพรรคเพื่อไทย โดยให้ยึดตามมติจากที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกของพรรค ขณะที่ยังยืนยันว่า แถลงการณ์ไม่ร่วมงานนั้น ไม่ได้มีคำสั่งจากพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด

ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย อ่านแถลงการณ์ของพรรค กล่าวถึงกรณีที่โฆษกพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า การที่ พรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ยืนยันไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทยเป็นเพราะมีคนบงการว่า ขอปฏิเสธเพราะการออกแถลงการณ์ฉบับดังกล่าวเป็นการออกของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ออกโดยมติของกรรมการบริหารพรรค เรื่องที่บอกว่ามีคนบงการนั้น เป็นการจินตนาการไปเอง โดยสาเหตุที่พรรคเพื่อไทย ต้องออกแถลงการณ์ เพราะเป็นไปเพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสน บางพื้นที่โดยเฉพาะภารคอีสานและเหนือ มีการแอบอ้างในลักษณะเหมือนว่า จะมีการร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งยืนยันว่านโยบายของพรรคเพื่อไทย กับพรรคภูมิใจไทยเหมือนเป็นปลาคนละน้ำ มีอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน

**อ้างฝ่ายความมั่นคงส่งข่าว"แผนใส่ร้าย"

นายพร้อมพงศ์แถลงว่า ศูนย์อำนวยการการเลือกตั้งของ พท.ได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงว่า ขณะนี้มีกลุ่มบุคคล และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในหน่วยงานด้านความมั่นคงบางคนได้เตรียมการวางแผนในการที่จะใส่ร้ายผู้สมัครของ พท. โดยการนำเงินติดกับบัตรแนะนำตัวผู้สมัครของพรรค มอบให้ผู้ที่แฝงตัวเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค หรือทีมงานที่แฝงตัวเข้ามาเพื่อช่วยหาเสียง แล้วนำเงินติดบัตรผู้สมัครในแต่ละเขต ไปแจกให้กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่จับกุม เป็นการจัดฉากซื้อเสียงเพื่อใส่ร้ายผู้สมัครของ พท.ว่าซื้อเสียงเลือกตั้ง อันจะทำให้ถูก กกต. แจกใบแดง หรือใบเหลือง เนื่องจากบุคคลกลุ่มนี้ได้ประเมินแล้วว่า พท.มีแนวโน้มที่จะชนะการเลือกตั้งจากทุกโพลสำรวจ โดยมีการตั้งเป้าไว้ว่าต้องทำให้ผู้สมัครของ พท.ได้ใบแดงประมาณ 30-40 เขต ในพื้นที่ภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง รวมถึง กทม. ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ แม้ชนะการเลือกตั้ง
 
"ขอให้ ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน สมาชิกพรรคและผู้สนับสนุน พท.ได้ระมัดระวังกลุ่มบุคคลดังกล่าวไว้ด้วย หากมีเบาะแสการกระทำดังกล่าว ขอให้แจ้งศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งในแต่ละเขตการเลือกตั้งหรือแจ้งให้พรรคทราบโดยตรง เพื่อดำเนินการกับบุคคลที่แอบอ้างทำให้ผู้สมัคร ส.ส. และพรรคเสียหาย"นายพร้อมพงศ์ กล่าว และว่า การที่ต้องออกมาพูดเรื่องนี้ ไม่ได้เป็นการออกข่าวเพื่อเรียกคะแนนสงสารแต่อย่างใด แต่เป็นการพูดถึงข้อเท็จจริงที่ได้รับแจ้งมาจากคนที่อยู่ในหน่วยงานความมั่นคง หลายๆ ท่านที่มีใจเป็นธรรม ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว

**มาร์คเย้ย พท.รับออเดอร์ไม่เอา ภท.

ที่ตลาดคลองเตย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า แต่ละพรรคมีสิทธิ์ในการ"กำหนดจุดยืนของตัวเอง ทั้งหมดอยู่ที่ตัวเลขที่ประชาชนจะให้ถ้าพรรคเพื่อไทยประกาศไม่จับมือกับคนนั้นคนนี้เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยระบุว่าพ.ต.ท.ทักษิณ สั่งมาไม่ให้จับมือกับพรรคภูมิใจไทยเพราะจะทำให้พรรคภูมิใจไทยโหนกระแสอาจแย่งคะแนนนิยมในภาคอีสานได้ นายอภิสิทธิ์ หัวเราะก่อนกล่าวว่า ตนไม่ทราบ คิดว่าพรรคการเมืองน่าจะมีความเป็นความของตัวเองในการกำหนดแนวทางต่าง ถ้าพรรคเพื่อไทยบอกว่าทุกอย่างอยู่ที่พ.ต.ท.ทักษิณสั่งก็เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องวินิจฉัย

**"เทพเทือก" รับไม่ได้ “ทารุณ” เกิน

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ต้องถือว่าทารุณไปหน่อยในทางการเมือง แต่ก็ดีเหมือนกัน ชัดเจนดี ซึ่งสมาชิกพรรคภูมิใจไทยก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก ก็คิดซะว่า “เราก็ชายหมายมาดว่าชาติเชื้อ ก็ต้องยืนหยัดบนขาตัวเอง” การเลือกตั้งก็เป็นอย่างนี้

ส่วนจะเป็นผลดีกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ที่มั่นใจได้ว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ไปอยู่กับพรรคเพื่อไทยแน่นอน นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ค่อยกังวลใจเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว เพราะประชาชนจะเป็นคนตัดสินในวันเลือกตั้ง 3 ก.ค. ถึงตอนนั้นก็จะรู้ว่าใครจะไปทางไหน ใครจะอยู่อย่างไร แต่ตอนนี้ก็เป็นลีลา เป็นเทคนิค เป็นวิธีการของพรรคเขาเท่านั้นเอง

ทั้งนี้ดูเหมือนพรรคภูมิใจไทยจะหมดทางเลือก เพราะมีแค่ 2 ขั้วใหญ่ ถ้าไม่ไปเพื่อไทย ก็ต้องมาพรรคประชาธิปัตย์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทำไมไม่คิดในแง่ที่ว่าถ้าพรรคภูมิใจไทยเขาได้สัก 150 เสียง เขาไปทำสัมพันธไมตรีไว้กับพรรคชาติไทยพัฒนา ที่อาจจะได้สัก 50-60 เสียงขึ้นมา เขาก็อาจจัดตั้งรัฐบาลเองก็ได้

“เราอย่าเพิ่งไปตัดสินว่าพรรคภูมิใจไทยเขาจะจนหนทางไปไหนไม่ได้แล้ว ผมให้ความนับถือพรรคการเมืองทุกพรรค และถือว่าแต่ละพรรคก็มีอิสระที่จะตัดสินใจ แต่ผมเชื่อว่าการตัดสินใจของแต่ละพรรคการเมือง ผู้นำพรรค ผู้บริหารพรรคต้องฟังเสียงประชาชนเป็นสำคัญ ในมุมมองของผม ผมคิดเหมือนกับคนไทยส่วนใหญ่ว่า วันนี้เพื่อให้บ้านเมืองอยู่ได้ ระบอบประชาธิปไตยอยู่ได้ ต้องเข้ามาร่วมมือกับพรรคประชาธิปัตย์และจัดตั้งรัฐบาลเพื่อแก้ไขและรักษาบ้านเมืองให้เดินหน้าต่อไป”

ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีที่กล้าแสดงความชัดเจนออกมาและควรที่จะแสดงจุดยืนเช่นนี้กับพรรคการเมืองอื่นๆด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและลบภาพที่นายใหญ่ได้ส่งคนไปล็อบบี้พรรคการเมืองขนาดกลางบางพรรคที่จะจับมือเตรียมการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว ถ้าพรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าจะได้เลือกส.ส.เข้ามากถึง 270 คน จริง ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องแบะท่าส่งเทียบจากนายใหญ่ไปล้อบบี้เช่นนี้

แต่คงประเมินแล้วว่า พรรคเพื่อไทยจะได้เสียงของส.ส.ไม่ถึง 200 เสียง จึงจำเป็นต้องเร่งหาพรรคการเมืองอะหลั่ยมาสำรองไว้ก่อน เพราะหากได้ส.ส.ไม่เกินครึ่งหนึ่งของสภา พรรคเพื่อไทยก็หมดสิทธิ์ที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ พรรคเพื่อไทยจึงต้องออกมาปั่นกระแสผ่านสื่อและสำนักโพลต่างๆตามแนวทางการตลาดนำการเมืองที่นายใหญ่ถนัด ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่รู้สึกหวั่นไหวต่อการปั่นกระแสสร้างภาพดังกล่าว เพราะเชื่อว่าพรรคจะได้รับการสนับสนุนจากประชนทั้งประเทศเกิน 200 เสียงแน่นอน พร้อมทั้งสามารถจับมือกับพรรคร่วมรัฐฐาลเดิมเพื่อจัดตั้งรัฐบาลเพื่อสานงานต่อไปทันที

**ชทพ.ชี้ แค่แทคติคการเมือง

นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาตไทยพัฒนา กล่าวว่า พรรคจะมีการพูดจากันในการประชุมกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 6 มิ.ย. แต่เท่าที่ดูขณะนี้มีแนวคิดแตกต่างกันระหว่างน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่ออันดับหนึ่งยังไม่ฟันธงจะตัดสินใจหลังวันที่ 3 ก.ค. ดังนั้นคิดว่าเป็นแทคติคของพรรคการเมืองที่พยายามสร้างขึ้นเพื่อให้ตัวเองได้เปรียบทางการเมือง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานที่พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจเป็นคู่แข่งโดยตรง จึงพยายามผลักอีกฝ่ายไปอยู่ตรงข้าม หรือตีให้ตาย แต่คิดว่าขณะนี้ยังไม่มีอะไรแน่นอน อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น อย่างไรก็ตามพรรคยังไม่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้

“ผู้ใหญ่ของพรรคจะเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องนี้หลังวันที่ 3 ก.ค. แต่ขณะยังไม่มีใครรู้ว่าใครจะได้จำนวนส.ส.เท่าไหร่ แต่อยากฝากไปถึงนายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่าพรรคเล็กไม่มีสิทธิ์เสนอความเห็นในการจัดตั้งรัฐบาล ผมคิดว่าน่าจะเป็นความเข้าใจผิดไม่รู้ซึ้งถึงเรื่องการเมือง ผลการเลือกตั้งยังไม่ออกมาก็ไม่มีใครรู้ว่าใครจะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ถือเป็นการพูดเร็วเกินไป อย่าใช้อำนาจข้ามพรรคสั่งให้ใครมาปิดปาก”นายวัชระกล่าว

**ชพน.กั๊กยังไม่รับการติดต่อจากใคร

นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงกระแสจับขั้วตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้ง ว่า พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินยังไม่ได้รับการติดต่อทาบทามจากพรรคเพื่อไทยให้ร่วมจัดตั้งรัฐบาล ตามกระแสข่าวที่เกิดขึ้น แต่พรรคมีนโยบายหลักเข้ากับทุกพรรคเป็นมิตรกับทุกคน และหลังการเลือกตั้งแล้วพรรคจึงจะแสดงท่าทีว่าจะร่วมรัฐบาลกับพรรคใด โดยจะคำนึงถึงเสียงของประชาชน ว่าไว้วางใจใคร

"ผมยังไม่ได้รับการติดต่อจากท่านใด แต่ในฐานะที่อยู่ในแวดวงการเมือง 31 ปี มีเพื่อนพ้องน้องพี่กันทั้งนั้น แต่วันนี้ยังไม่ได้คุยกันในเรื่องจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอหลังการเลือกตั้งก่อน ที่ผ่านมาเราเคยสนับสนุนรัฐบาลท่านสมัครเคยถูกฝ่ายเหลืองขับไล่ พอร่วมกับประชาธิปัตย์ ก็มีฝ่ายสีแดงขับไล่ แต่เราก็เป็นมิตรกับทุกคนยังไม่เคยถูกพรรคใดขับไล่หรือขวางมีแต่เป็นมิตรเป็นญาติกัน"นายชาญชัย

**แม่ค้า พธม.ไล่มาร์คลั่น "ร้านนี้โหวตโน"

ขณะที่การหาเสียงของแต่ละพรรค เวลา 06.45 น. นายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยแกนนำพรรคได้เดินทางไปยังศาลเจ้าเพ็กเล็กเก็งมังกรเขียว ตลาดคลองเตย เพื่อหาเสียงช่วยผู้สมัครส.ส.เขต 4 คลองเตย-วัฒนา ระหว่างที่เดินไปได้ระยะหนึ่งปรากฏว่ามีร้านค้า 3-4 ร้าน อาทิ ร้านก๋วยเตี๋ยว ข้าวขาหมู ร้านน้ำพริก ได้แขวนป้ายโหวตโนไว้ที่หน้าร้านมีเสื้อโหวตโนสีต่างๆหลายตัววางขาย พร้อมเอกสารวางประกอบ นายอภิสิทธิ์ได้ยกไหว้สวัสดีแต่พอมองเห็นป้ายโหวตโน และแม่ค้าเจ้าของร้านยืนยิ้มรอบอกว่า ร้านนี้โหวตโนนายอภิสิทธิ์ ได้แต่ยิ้มและรีบเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้แม่ค้าร้านก๋วยเตี๋ยวตะโกนไล่หลังเสียงดังว่า"ร้านนี้โหวตโนค่ะ ไม่อยากให้ไทยเสียดินแดน"

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เขาก็รณรงค์อยู่รู้สึกว่ามีเสื้อเอกสารอยู่ ตนว่ามันเป็นสิทธิ์ในการไม่ลงคะแนนให้กับใคร แต่ตนอยากย้ำว่าการตัดสินเช่นนั้นต้องตัดสินใจให้ดี เพราะในที่สุดแล้วถ้าเราต้องการให้นักการเมืองดีเข้าสู่สภาการไปเหมารวมว่านักการเมืองเลวทั้งหมดคงไม่สามารถทำให้การเมืองเดินไปข้างหน้าได้ อยากให้เลือกคนดี เพราะการไม่เลือกใครเลยยิ่งเป็นโอกาสให้คนไม่ดีเข้าสภาได้มากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า แม่ค้าตะโกนไล่หลังเพราะเข้าใจว่านายกฯทำให้เสียดินแดน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ยินแต่ว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่เข้ามาแก้ปัญหาไม่ให้เสียดินแดนแก้ปัญหาเรื่องมรดกโลกที่ค้างมา ถ้าเราทำให้เสียดินแดนจริงกัมพูชาคงไม่มาโวยวายนายกฯฮุนเซนคงไม่ด่าตนเป็นประจำหรอกถ้าตนยอมเสียดินแดนไปแล้ว

***พธม.เผยอีสานขานรับโหวตโน

วานนี้ (3 มิ.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกระแสโหวตโนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่า ขณะนี้พบว่าได้รับความสนใจจากคนเสื้อแดงบางส่วนที่รับไม่ได้กับการเผาบ้านเผาเมือง และการหมิ่นสถาบัน ขณะเดียวกันก็เชิญชวนคนเสื้อแดงที่เชื่อมั่นการปฏิรูปการเมืองให้ออกมาร่วมกันโหวตโน เพราะการปฏิรูปจะได้เป็นของคนทั้งประเทศไม่ใช่จากสีใดสีหนึ่ง และถือเป็นการปรองดองหนทางเดียวที่มีเหตุผล โดยสัปดาห์หน้าจะเริ่มดำเนินการติดป้ายคัทเอ้าท์ที่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการเมืองในปัจจุบัน และเชื่อว่าประชาชนจะให้ความสนใจ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยตั้งข้อสงสัยว่าเหตุระเบิดหลังเวทีรัฐบาลเป็นคนทำหรือไม่ว่า รัฐบาลจะไปทำเพื่ออะไร รัฐบาลมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลคามสงบเรียบร้อย และตนตัดสินใจยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งก็ต้องการให้การเลือกตั้งเดินหน้าไปได้ไม่ต้องการเห็นบ้านเมืองเดินออกนอกวิถีทางนี้ ดังนั้นตนยังต้องการเห็นการเลือกตั้งที่สงบเรียบร้อย ไม่มีเหตุผลเลย มีแต่คนที่ไม่อยากให้มีเลือกตั้งที่จะทำแบบนี้
เมื่อถามว่า ยุติการชุมนุมเพื่อเบนเข็มเพื่อรณรงค์โหวตโนแทนชุมนุม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่เขาทำได้ แต่ขอให้ประชาชนใช้ดุลยพินิจให้ดี นักการเมืองที่เลวชอบที่สุดคือคนที่ไม่ไปลงคะแนนหรือคนไม่ไปช่วยคนดี

นายอภิสิทธิ์ กล่าวย้ำถึงแนวคิดโหวตโนของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่าเป็นแนวคิดที่ไม่ดี ซึ่งกล่าวหาว่า นักการเมืองไม่ดีทั้งหมด

**แขวะสั่งเสื้อแดงไม่ได้ยังคิดเป็นนายกฯ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ตั้งข้อสงสัยว่าคนเสื้อแดงที่ไปขัดขวางการหาเสียงของนายกฯและนายชวน อาจจะไม่ใช่คนเสื้อแดงเป็นแดงเทียม ว่า ตนว่าคำว่าแดงเทียมได้ยินกันมาบ่อยแล้ว ทุกครั้งพิสูจน์กันมาทุกครั้ง มันไม่มีหรอกเรื่องเทียม ตนจะไปทำทำไมแต่ละวันมันก็เป็นกลยุทธ์ที่ทำกันมาตั้งแต่ตนมาเป็นนายกฯขัดขวางพยายามไม่ให้ตนสื่อสารกับประชาชนโดยตรง แย่งพื้นที่ข่าวทำอย่างนี้มีเจตนาชัดเจน ตนจะไปทำอย่างนั้นทำไม ตนอยากสอบถามกลับไปมากกว่าว่าตกลงพรรคเพื่อไทยกับกลุ่มคนเสื้อแดงความสัมพันธ์คืออะไร เพราะขณะนี้กลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวลักษณะที่ช่วยพรรคเพื่อไทยอย่างชัดเจน แต่ตนไม่ทราบว่า ค่าใช้จ่ายต่างๆต้องนับหรือไม่ ถ้าทำผิดกฎหมายพรรคเพื่อไทยรับผิดชอบหรือไม่ ถ้าไม่รับผิดชอบต้องออมมาแสดงจุดยืนให้ชัดว่าไม่สนับสนุนคนเสื้อแดงให้ทำอะไรบ้าง แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยอะไรที่พอเคลื่อนไหวแล้วตัวเองได้ประโยชน์ก็เฉยๆแต่พออะไรไม่ได้ประโยชน์ก็เป็นแดงเทียม ตนว่าไม่ใช่ความรับผิดชอบของพรรคการเมืองที่ดี ควรจะโปร่งใสตอบประชาชนให้ชัดว่าตกลงเพื่อไทยกับเสื้อแดงความสัมพันธ์คืออะไร เห็นด้วยหรือไม่กับสิ่งที่เสื้อแดงทำทั้งในอดีตและปัจจุบัน

ส่วนที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้เหตุผลว่าเขาคนเดียวไม่สามารถจะสั่งห้ามใครได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำลังจะมาเป็นรัฐบาล ประกาศเป็นรัฐบาลถ้าหากว่าแม้แต่ผู้สนับสนุนของตนเองยังไม่สามารถที่จะพูดคุยกันได้และจะทำกันอย่างไรต่อไป ตนทราบว่าไม่ง่ายแต่อย่างน้อยต้องแสดงจุดยืนถ้าเห็นว่าสิ่งที่คนเสื้อแดงทำไม่เหมาะสมไม่ถูกต้องกล้าที่จะพูด ตนสมัยที่เป็นฝ่ายค้านคนมองว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยสมคบกันแต่เวลาที่คนของพันธมิตรฯไปขัดขวางการลงพื้นที่ตนเป็นคนให้สัมภาษณ์ว่าตนไม่เห็นด้วย อาจจะไม่สำเร็จแต่อย่างน้อยจุดยืนต้องแสดงเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าพรรคการเมืองจริงใจแค่ไหน

**ปัดงมงายวิ่งแก้เคล็ดภาคเหนือ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่ลงพื้นที่แล้วถูกพระวัดหนองเงือก จ.ลำพูน ทักดวงไม่ดีให้ไปแก้ดวงท้อหรือไม่ ว่า “ไม่เป็นไรครับ ดวงไม่ดีแต่ชนะเลือกตั้งไม่เป็นไรครับ”

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าเป็นการปล่อยข่าวบิดเบือนเรื่องไปแก้เคล็ด เพราะส่วนตัวนายอภิสิทธิ์ไม่ใช่เป็นคนงมงายกับเรื่องเหล่านี้

**หาเสียงสหฟาร์ม-ขายนโยบายมุสลิม

อีกด้านพรรคเพื่อไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ลงหาเสียงในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยเริ่มลงพื้นที่บริเวณสหฟาร์ม กิโลเมตรที่8 ก่อนไปที่บริเวณสุเหร่าบางกะปิ และปราศัยพื้นที่ในจ.นนทบุรีในช่วงค่ำ
ที่บริเวณสหฟาร์มซูเปอร์มาร์เก็ต น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้มอบเนื้อไก่สดหนึ่งถุงใหญ่ และได้ตรวจสอบราคาไข่ไก่ที่จำหน่ายเป็นแพ๊ค โดยมีนางสาวขัตติยา สวัสดิผล ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อของพรรคได้มาร่วมหาเสียงด้วย

ส่วนที่สุเหร่าหัวหมากน้อย เขตบางกะปิ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ได้รับผ้า “ฮิญาบ” สีชมพู มาคลุมหัว เพื่อเป็นการต้อนรับ ก่อนปราศัยว่า ปัญหาของคนมุสลิมคือปัญหาเรื่องการประกอบพิธีฮัจญ์ และพรรคเพื่อไทยจะให้ความสำคัญโดยยกให้เป็นปัญหาของประเทศ โดยการแก้ไขปัญหาเราจะเพิ่มโควตาในการประกอบพิธี และจะจัดหาที่พัก มีราคาพิเศษเรื่องสายการบินและให้ทุนการศึกษา รวมทั้งจะส่งเสริมให้มีการเปิดศูนย์อาหารฮาลาล นอกจากนั้นยังระบุว่า พ.ต..ทักษิณ มีความผูกพันกับพี่น้องมุสลิม ในฐานะที่ตนเป็น น้องสาวคนเล็กก็ผูกพันเช่นเดียวกัน

**ปัด ปชป.ลอบบี้โพลปั่นกระแส

อีกเรื่องนายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่เอแบคโพลแถลงว่ามีฝ่ายการเมืองหลายฝ่ายพยายามติดต่อไปยังสำนักโพล ต่างๆให้ปั่นกระแสให้กับพรรคการเมืองของตนเองว่า ตนไม่ทราบ ส่วนใหญ่ที่ตนให้คนติดต่อไปก็มีแต่ขอรายละเอียดเท่านั้นเอง เพราะเวลามีการแถลงมาจากโพลต่างๆตนจะขอตัวเลขและไม่ไปยุ่งเกี่ยวก้าวก่ายหรอกเพราะแต่ละสำนักมีเสรีภาพในการทำโพล แต่ต้องระมัดระวังเพราะบางครั้งการนำเสนอหรือการแถลงข่าวไม่อธิบายให้ชัดก็มีการนำตัวเลขไปวิเคราระห์วิจารณ์พูดกันไขว้เขวได้ อย่างไรก็ตาม ตนว่ากฎหมายเลือกตั้งป้องกันใช่วงท้ายของการหาเสียงอยู่แล้ว ถ้ามีบางพรรคการเมืองทำอย่างนั้นจริงก็ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม ต้องปล่อยให้เป็นการสำรวจตามหลักวิชาการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า เท่าที่ดูจากผลสำรวจที่ออกมาคิดว่ามีการปั่นกระแสหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเพียงแต่มองว่าผลการสำรวจมีหลายสำนักที่ตัวเลขของคนที่ไม่ตัดสินใจสูงจนโดยหลักแล้วคือแทบจะให้คำตอบอะไรไม่ได้ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่ต้องรออีกระยะหนึ่งถึงจะมีความชัดเจน แต่ที่ตนได้ตั้งข้อสังเกตบางครั้งในการสรุปตัวเลขการแถลงข่าวอาจจะให้ความเข้าใจที่ไม่ค่อยตรงกับสิ่งที่ตัวเลขบ่งบอกเท่าไร

นายสุเทพ กล่าวถึงกรณีที่สถาบันจัดทำโพลล์ออกมายอมรับว่ามีนักการเมืองมาขอให้ช่วยทำโพลล์ให้พรรคตัวเองมีคะแนนดี ๆ เพื่อหวังผลในการเลือกตั้งในแง่ของจิตวิทยา ถือว่าเป็นการผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ว่า คงไม่ผิด เราคงเอาพยานหลักฐานอะไรมามัดเขายาก แต่ตนไม่แปลกใจเพราะตนเคยพูดแล้วว่า ตนเคยได้รับรายงานข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เน้นใช้วิชาการตลาดในการหาเสียงเคราวนี้ พยายามสร้างภาพให้คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ และขณะเดียวกันก็พยายามใช้สมุน บริวารทั้งหลายที่แฝงตัวอยู่ในสื่อประเภทต่าง ๆ ให้โหมเชียร์ว่ากระแสของพรรคเพื่อไทยดี

“ผมค่อนข้างมั่นใจและเชื่อมั่นในเสียงของประชาชนว่าสามารถแยกแยะได้ ผมคิดว่าโพลล์ไม่สามารถมาชี้นำประชาชนได้ และโพลล์ก็ผิดบ่อย ๆ ซึ่งก็จะเป็นความอับอายขายหน้าของผู้ทำโพลล์เองที่ผิดบ่อย ๆ” เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

เมื่อถามว่ามองว่าโพลล์ที่ผ่านมา น่าจะมีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องเพื่อชี้นำให้พรรคใด พรรคหนึ่งมีคะแนนนำหรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนคงไปพูดเหมารวมอย่างนั้นไม่ได้ ตนไม่ได้ไปวิเคราะห์ว่าแต่ละโพลล์ แต่ละสำนักเขาผูกพันอยู่กับนักการเมืองคนไหน พรรคไหน อย่างไร

**กกต.บ้าจี้อ้างป้ายสัตว์ผิด กม.ป้ายสาธารณะ

ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ กล่าวถึงกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ติดตั้งป้ายที่เป็นรูปสัตว์ต่างๆ พร้อมระบุข้อความที่หยาบคายและเสียดสี ผู้สมัครและพรรคการเมืองนั้น ว่า ต้องไปถามผู้รับผิดชอบซึ่งเป็นหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่จะดูแลควบคุมตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการติดป้ายหาเสียงในที่สาธารณะ ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของกกต. นอกจากนี้ ป้ายของกลุ่มของพธม. ตนเห็นว่าไม่ด้เป็นป้ายของพรรคการเมืองที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้น หากกทม. เห็นว่าป้ายดังกล่าวกีกขวาง หรือส่งผลให้ต่อทัศนวิสัยบนท้องถนน เจ้าหน้าที่ กทม. ก็ควรเข้ามาจัดการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
 
“ขณะนี้ทุกฝ่ายมองว่ากกต.เป็นทั้งตำรวจ เทศกิจ และกทม. ซึ่งความจริงแล้วกกต.มีหน้าที่ดูแลการเลือกตั้ง ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 3 ฉบับเท่านั้น กลับมีคนเข้าใจผิดคิดว่ากกต.ต้องทำหน้าที่จัดการทุกเรื่อง ซึ่งหากเห็นสมควรว่าจะให้อำนาจกกต. มีหน้าที่ผู้ดูแลทั้งหมด ในภายภาคหน้าก็ขอให้แก้กฎหมาย และโยกให้กทม.และตำรวจ มาเป็นหน่วยงานหนึ่งของงกกต. เพราะเราจะได้มีอำนาจสั่งการได้โดยตรง” นางสดศรี กล่าว

**กทม.เด้งรับขู่เก็บหากไม่ใช่ป้ายหาเสียง

ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) พร้อมด้วยพล.ต.ต.สุเทพ รมยานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร(ปธ.กกต.กทม.)แถลงข่าวเปิดศูนย์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร

นายเจริญรัตน์ กล่าวว่า ป้ายหาเสียงที่ใช้ข้อความหรือรูปภาพที่ไม่เหมาะสมก็ไม่ได้ประสานไปยัง กกต.กทม.ซึ่งทาง กกต.กทม.ได้หารือไปยังกกต.กลางเพื่อให้วินิจฉัยว่ามีความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ หากไม่ใช่ป้ายหาเสียงไม่ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งแต่เข้าข่าย พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ ของกทม.แทน เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้เจ้าของป้ายรื้อถอน หากไม่ดำเนินการทาง กทม.จะรื้อถอนต่อไป

***ตำรวจคุมเข้ม 199 ผู้สมัคร ส.ส.

ที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง (ศรส.ลต.ตร.) เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 มิ.ย.พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร. กล่าวถึงภายหลังการประชุม ศรส.ลต.ตร. ว่า ขณะนี้มีผู้สมัครสส.ยื่นรอเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรักษาความปลอดภัยในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งแล้ว 199 ราย ทำให้ตำรวจที่ทำหน้าที่นี้มีจำนวน400 ราย ซึ่ง ศรส.ลต.ตร. ยืนยันว่า มีกำลังตำรวจเพียงพอ ไม่ส่งผลต่อการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยด้านอื่น

ส่วนจังหวัดที่ ศรส.ลต.ตร. จัดให้เป็นพื้นที่แข่งขันสูงนั้นที่ประชุมเพิ่ม จ. นราธิวาส อีก 1 จังหวัด เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันของ 2 พรรคใหญ่ รวมเป็น 16 จังหวัด โดยแบ่งเป็นจังหวัดที่เฝ้าระวังอย่างยิ่ง 3 จังหวัด คือ นราธิวาส นครสวรรค์ และเชียงราย ส่วน 13 จังหวัดที่เหลือ ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร ขอนแก่น ชลบุรี เชียงใหม่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด สมุทรปราการ อุบลราชธานี อุดรธานี ราชบุรี ภูเก็ต และ แม่ฮ่องสอน เป็นการเฝ้าระวังปกติ นอกจากนี้ ศรส.ลต.ตร. ยังกำหนดเขตที่เฝ้าระวังจาก 16 จังหวัด โดยคัดเลือก 36 เขต โดยมี 12 เขต เป็นเขตของกรุงเทพมหานคร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแถบชานเมือง

พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวถึงกรณีคนร้ายยิงบ้านพักของนายวิชาญ เรืองกลั่น หัวคะแนนของ พ.ต.อ.นพ.สามารถ ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 28 บางบอน-หนองแขม พรรคประชาธิปัตย์ ว่าหลังจากการสอบสวนเชื่อว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับการเมือง ขณะนี้ได้ไปสั่งการให้ท้องที่ดูแลความปลอดภัยเป็นพิเศษ ส่วนกรณีคนร้ายยิง นายมงคล วีระวัฒน์พงษ์ศธร อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านห้วยส้าน หมู่ 8 ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย และยังเป็น หัวคะแนนให้กับผู้สมัครรายหนึ่ง นั้น เจ้าหน้าที่ยังคงตั้งประเด็นการเสียชีวิตไว้ 2 ประเด็นคือ ขัดแย้งธุรกิจผิดกฎหมายและการเมืองพล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับหัวคะแนนของผู้สมัครว่า ศรส.ลต.ตร. ไม่มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปรักษาความปลอดภัยให้ แต่จะมีการดูแลในลักษณะการส่งสายตรวจไปตรวจสอบที่บ้านพัก และมีการติดต่อสื่อสารหรือให้ข้อมูลกันอย่างรวดเร็ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ 12 เขตในกรุงเทพมหานครที่กำหนดให้มีการเฝ้าระวังการเกิดเหตุรุนแรงอาทิ หลักสี่-ดอนเมือง,สายไหม,คลองสามวา,หนอกจอก,บางขุนเทียน,บางบอน-หนองแขม,ทวีวัฒนา-หนองแขม

***ป.ลงพื้นที่จับเข่าคุยหัวคะแนน

ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) กล่าวถึงมาตรการสกัดการยิงหัวคะแนนของผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ต่างๆ ว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนของกองปราบปรามทำงานในเชิงรุก นอกเหนือจากการสืบสวนหามือปืนที่ขึ้นบัญชีดำไว้แล้ว พร้อมทั้งยังได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อพูดคุยกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และสมาชิก อบต. ซึ่งเป็นหัวคะแนนของผู้สมัคร ส.ส.ในระดับท้องถิ่น โดยให้สอบถามเกี่ยวกับปมปัญหาความขัดแย้งว่ามีปัญหากับใครอย่างไร และจะสามารถนำมาซึ่งการมุ่งหวังเอาชีวิตได้หรือไม่ เพื่อเก็บเป็นข้อมูลในเชิงลึก เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นจริงก็จะสามารถล่วงรู้ถึงกลุ่มผู้ต้องสงสัยได้ทันท่วงที ซึ่งขณะนี้มีพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังอยู่ในจังหวัดราชบุรี ภูเก็ต และในจังหวัดพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างโดยขอแนะให้หัวคะแนนระดับท้องถิ่นที่คิดว่าตนเองอาจไม่ได้รับความปลอดภัยในช่วงเลือกตั้งนั้น สามารถประสานขอเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลความปลอดภัยได้

***ผุดศูนย์ปราบมือปืน-อาวุธสงคราม
ขณะที่ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผบก.ป.กล่าวว่า ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีคำสั่ง ที่ 246/2554 ลงวันที่ 8 เมษายน 2554 ให้ทุกหน่วยตั้งศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง (ศรส.ลต.) ทาง พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.จึงมีคำสั่งตั้ง ศรส.ลต.บก.ป.จัดชุดปฏิบัติการสืบสวนหาข่าว รักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง และระดมกวาดล้างอาชญากรรม โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และอาวุธสงครามทั่วประเทศ

"เราจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้การกระทำผิดของกลุ่มผู้มีอิทธิพบและมือปืนรับจ้างเกิดขึ้นน้อยที่สุด เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้สมัครรับเลือกตั้ง และประชาชนเพื่อให้การเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย"พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าว

**เทือกกำชับเข้มมือปืนเก็บหัวคะแนน

ที่ตลาดคลองเตย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ยิงหัวคะแนนพรรคการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง ล่าสุดผู้สนับสนุนผู้สมัครพรรคเพื่อไทยว่า เราก็กำชับทางตำรวจ และคงต้องไปดูเงื่อนไขของแต่ละพื้นที่ด้วย แต่ตำรวจต้องเข้มงวดกวดขัน เห็นใจเจ้าหน้าที่เพราะมีหลายเหตุการณ์ และมีภารกิจมากแต่กำชับตลอดให้เข้มข้นมากกว่านี้ในการป้องกันให้ทุกคนมั่นใจในการใช้สิทธิ์ของตนเองในวิถีทางประชาธิปไตย

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนสั่งการย้ำตลอดเวลาและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ทำงานอย่างแข็งแรง ดักจับอาวุธปืน โดยเฉพาะอาวุธสงคราม ทำบัญชีผู้ที่อยู่ในค่ายน่าสงสัยว่าได้เป็นผู้กระทำผิด ได้มีการตามล่าตามจับอยู่ ก็จะมีการเพิ่มความเข้มข้นของเจ้าหน้าที่มากขึ้น และตนได้กำชับกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไปแล้วว่า หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นที่ไหน ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่สืบสวนสอบสวนมาดำเนินคดีให้ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ในขณะนี้ก็ยังไม่สามารถคลี่คลายได้เลยสักคดี นายสุเทพ กล่าวว่า ตนว่าบางคดีก็มีจับได้แล้ว อย่าไปรวมอย่างนั้น

**พี่น้องตระกูลม่วงศิริโชว์รถเหยื่อกระสุน

เวลา 11.30น. นายสากล ม่วงศิริ ผู้สมัครส.ส.เขต27 กทม และพ.ต.อ.นพ.สามารถ ม่วงศิริ ผู้สมัครเขต28 กทม. พร้อมนายวิชาญ เรืองกลั่น สข.เขตบางบอน หวคะแนนพ.ต.อ.สามารถ ที่ถูกลอบยิงเมื่อคืนวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่าน ได้นำรถยนต์โตโยต้า ยี่ห้อ ฟอร์จูนเนอร์ หมายเลขทะเบีบ ศห 1583 มาจอดบริเวณ หน้าลานพระแม่ธรณี เพื่อให้นายอภิสิทธิ์ ดูสภาพรถคันดังกล่าว ที่มีล่องลอยถูกยิ่งด้วยกระสุนปืนลูกซอง เป็นสะเด็ดลูกปรายกระจายอยู่เต็มท้ายรถตันดังกล่าวและบริเวณกระจกหูช้างด้านชายแตก โดยนายอภิสิทธิ์ได้กล่าวว่าผู้สมัครของพรรคกำลังใจดี รู้อยู่แล้วว่าเขตนี้เป็นอย่างไร.
กำลังโหลดความคิดเห็น