ครม.รับทราบตามที่กระทรวงเกษตรฯ เสนอให้นำพระราชกระแสพระราชินีที่ทรงแนะให้คนไทยสวมเสื้อแบบกระดุม 5 เม็ด ตัดเย็บด้วยผ้าไหม หรือผ้าไทย โดยให้ ครม. ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐสวมใส่สัปดาห์ละ 1 ครั้ง พร้อมเห็นชอบเชิญชวนประชาชน แต่งกายด้วยเสื้อตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติในหลวง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554
นายมารุต มัสยวาณิช รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.รับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ ให้นำพระราชกระแสสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อเชิญชวน ครม. ข้าราชการ พนักงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐได้พิจารณานำรูปแบบของเสื้อกระดุม 5 เม็ด หรือชุดที่ตัดเย็บด้วยผ้าไหมหรือผ้าไทย เพื่อใช้ในโอกาสต่างๆ และเพื่อการรณรงค์ส่งเสริมให้มีการใช้ผ้าไหมหรือผ้าไทยในชีวิตประจำวันโดยอาจให้มีการสวมใส่เสื้อผ้าดังกล่าวสำหรับข้าราชการ พนักงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐ สัปดาห์ละ 1 วัน หรือตามที่เห็นสมควร
นายมารุตแถลงว่า สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) เสนอตามที่ได้รับรายงานจาก กษ. ว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2554 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอาคารทำการกรมหม่อนไหม และได้มีพระราชกระแสต่อผู้ที่ร่วมโต๊ะเสวย เช่น นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี, นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์, โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีรับสั่งกับนายกรัฐมนตรีว่า “ฝรั่งถามว่าทำไมคนไทยชอบสูท ไม่ใส่เสื้อตัดเย็บแบบกระดุม 5 เม็ด เป็นเสื้อที่สวยและเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย รวมทั้งสามารถนำผ้าไหมหรือผ้าไทยมาตัดเย็บได้ด้วย”
“เพื่อเป็นการสนองพระราชกระแสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เห็นสมควรนำพระราชกระแสดังกล่าว เชิญชวน ครม. ข้าราชการ พนักงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้พิจาณานำรูปแบบของเสื้อกระดุม 5 เม็ด หรือชุดที่ตัดเย็บด้วยผ้าไหมหรือผ้าไทย เพื่อใช้ในโอกาสต่างๆ และเป็นการรณรงค์ส่งเสริมให้มีการใช้ผ้าไหมหรือผ้าไทยในชีวิตประจำวันอีกด้วย โดยอาจจะมีการสวมใส่เสื้อผ้าดังกล่าวสำหรับข้าราชการพนักงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือตามที่เห็นสมควร”
นายมารุตแถลงด้วยว่า ครม.เห็นชอบเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล และถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยพร้อมใจกันแต่งกายด้วยเสื้อมีตราสัญลักษณ์ งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ตามที่คณะกรรมการฝ่ายพิจาณาการใช้ตราสัญลักษณ์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ทั้งนี้ ให้แต่งกายในระยะเวลาของการจัดงานเฉลิมพระเกียรตินับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สำหรับสีของเสื้อนั้นให้ใส่ได้ทุกสี ยกเว้นสีดำและสีนำเงินเข้ม
นอกจากนี้ ครม.ยังรับทราบความคืบหน้าในการออกบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยมีความคืบหน้าในการออกบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) คือ 1.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ทก.) ได้ส่งมอบบัตรฯ ให้แก่ มท. (กรมการปกครอง) แล้วจำนวน 4 ครั้ง รวม 9 ล้านใบ ซึ่งทางสำหนักทะเบียนได้เริ่มออกบัตรฯ ให้ประชาชนตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 2554 ถึงวันที่ 9 พฤษภาคม 2554 แล้วจำนวน 3,144,236 ใบ
นายมารุตแถลงอีกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างทำการ Pre- Personalization บัตรฯ ที่ได้รับมอบจาก ทก. อีก 4 ล้านใบ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะทยอยแจกจ่ายเพิ่มเติมให้แก่สำนักทะเบียนเพื่อให้มีบัตรใช้อย่างเพียงพอ สำหรับบัตรฯ ที่ยังไม่ได้รับมอบอีก 17 ล้านใบ มท. จะได้ประสานอย่างใกล้ชิดกับ ทก. เพื่อส่งมอบบัตรฯ อย่างต่อเนื่องมิให้หยุดชะงักหรือขาดช่วง
นายมารุตแถลงอีกว่า ครม.อนุมัติหลักการให้ประเทศไทยบริจาคเงินเข้ากองทุนสหประชาชาติเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์เป็นเงิน 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ โดยเจียดจ่ายจากเงินงบประมาณเหลือจ่ายปี 2554 แผนงานสวัสดิการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผลผลิต ประชากร เป้าหมายที่ได้รับการป้องกันและคุ้มครองจากปัญหาการค้ามนุษย์ กิจกรรมหลัก การพัฒนากลไกและการบริหารจัดการเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ กิจกรรมย่อยการบริหารงานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 งบดำเนินงานค่าตอบแทนใช้สอย และวัสดุ
นายมารุตแถลงว่า ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดแรกของคณะกรรมการบริหารสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ตามที่คณะกรรมการสรรหาตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2554 บทเฉพาะกาล มาตรา 44 เสนอ จำนวน 3 คน ดังนี้ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ เป็นประธานกรรมการ นายถาวร ชลัษเฐียร เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ นายอภิชาต สังฆอารี เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ