xs
xsm
sm
md
lg

ชพน.ชูนโยบายยกเว้นเก็บภาษีบัณฑิต 5 ปีแรก เมิน 2 ขั้วใหญ่แย่งจัดตั้ง รบ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ชพน.ย่ำสีลม-ละลายทรัพย์ ชูนโยบายขายคนทำงาน บัณฑิตจบใหม่เว้นภาษี 5 ปี “กรพจน์” เชื่อไม่กระทบรายได้รัฐ แถมได้เพิ่มหากกระตุ้นให้ซื้อของมากขึ้น เจอวินมอเตอร์ไซค์ตะโกนค้าน “หมอวรรณรัตน์” ปล่อยพรรคใหญ่ตั้ง รบ.ไม่ห่วง 2 ขั้วแข่งกันดุ เชื่อหลังเลือกตั้งหมดปัญหา ยังมั่นใจกระแสพรรคในอีสาน

วันนี้ (6 มิ.ย.) นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน และ นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ร่วมกันนำทีมผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้สมัคร ส.ส.กทม.กราบสักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 ณ สวนลุมพินี จากนั้นได้ลงพื้นที่หาเสียงย่าน ถ.สีลม และซอยละลายทรัพย์ พร้อมชูนโยบายทำงาน 5 ปีแรก ยกเว้นภาษี ที่บริเวณด้านหน้าธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ โดยมีประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

โดย นายกรพจน์ กล่าวว่า นโยบายดังกล่าวจะเป็นส่วนช่วยกระตุ้นให้บัณฑิตจบใหม่ที่เข้าสู่วัยทำงาน มีฐานะมั่นคง เพราะไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคลธรรมดาเป็นเวลา 5 ปี ทำให้สามารถนำรายได้จากเงินเดือนไปชำระหนี้การศึกษา และเริ่มสร้างธุรกิจ หรือจ่ายภาระครอบครัว โดยผู้เข้าสู่วัยทำงานจะได้หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี จากนั้นหน่วยงานรัฐจะล็อคเลขไว้เพื่อให้ทราบว่าเป็นบุคคลที่ต้องเว้นการเก็บภาษี

“นโยบายนี้เราคิดจากฐานผู้เริ่มเข้าวัยทำงาน เฉลี่ยจะมีรายได้ 1.5 หมื่นบาทต่อเดือน หากรัฐไม่ได้ภาษีจากกลุ่มคนดังกล่าว ก็ไม่ทำให้รัฐเสียรายได้ เพราะกลุ่มคนเหล่านี้จะนำรายได้ที่มีไปซื้อสินค้า เท่ากับเป็นการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย และรัฐจะได้จากภาษีมูลค่าเพิ่มจากยอดซื้อสินค้าเหล่านั้น” นายกรพจน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่คณะของพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินแถลงนโยบาย และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแล้วเสร็จ มีชายสวมเสื้อวินมอเตอร์ไซค์สีส้มวัยกลางคน ตะโกนว่า “เว้นภาษี 5 ปี จะเป็นไปได้อย่างไร แบบนี้รายได้เข้ารัฐก็หายหมดสิ” แต่ไม่ได้รับความสนใจจากคณะผู้หาเสียงแต่อย่างใด จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ขี่จักรยานยนต์ออกไปจากพื้นที่ทันที

ด้าน นพ.วรรณรัตน์ ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมโดยปฏิเสธให้ความเห็นการตั้งรัฐบาลจากพรรคการเมืองขั้วที่ 3 ระบุเพียงว่า การตั้งรัฐบาลนั้นเป็นเรื่องของพรรคใหญ่ ส่วนตัวสนับสนุนการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นพรรคทางสายกลาง มองกระแสตอบโต้ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย ว่าอย่างไร นพ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า เราเป็นพรรคที่ใช้แนวทางหาเสียงด้วยสันติวิธี ไม่กล่าวร้ายป้ายสีให้ใคร และตนอยากเห็นแนวทางดังกล่าวกับทุกพรรคการเมือง และที่สำคัญอยากให้ทุกคนยอมรับผลการเลือกตั้งใครแพ้ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ ส่วนใครชนะก็ต้องยอมรับ ส่วนตัวมองว่าปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลายหลังการเลือกตั้ง

“ผมเป็นคนมองโลกในแง่ดี 2 พรรคใหญ่คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น วันนี้ปัญหาที่ว่า 2 พรรคใหญ่ชิงความเป็นผู้นำแล้วความปรองดองจะไม่เกิดนั้น คงไม่มีปัญหาอะไร และอย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้” นพ.วรรณรัตน์ กล่าว

เมื่อถามถึงกระแสตอบรับของพรรค นพ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า ทั้งในพื้นที่อีสาน โดยเฉพาะ จ.นครราชสีมา และพื้นที่ กทม.ประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนในพื้นที่อีสานที่คนของพรรคการเมืองอื่น เช่น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลงหาเสียง ถือเป็นเรื่องปกติที่คู่แข่งต้องไปขายนโยบาย แต่ขณะนี้ยังมั่นใจในกระแสตอบรับจากประชาชนอยู่ในเกณฑ์ดี



กำลังโหลดความคิดเห็น