ชทพ.บุกสีลม ขายฝันปรองดอง “ชุมพล” แทงกั๊กจับขั้วตั้งรัฐบาลกับ ปชป. รอหลังเลือกตั้ง ย้ำสัมพันธ์ยังดี ปัดเพื่อแม้วส่งคนทาบฟอร์มรัฐบาล ด้าน “เสธ.หนั่น” ยัน “เฮียเพ้ง” ไม่เคยดอกพบดึงร่วมงาน เตือนงานนี้อาจมีงูเห่าภาค 3 ป้อง “เติ้ง” เป็นคนไทยวิพากษ์วิจารณ์การเมืองได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 มิ.ย.) นายชุมพล ศิลปาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) พร้อมด้วยแกนนำของพรรค ประกอบด้วย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรค นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.กทม.และบัญชีรายชื่อ ได้เดินทางมาหาเสียงเลือกตั้งย่านสีลม กทม. โดยเริ่มต้นเดินเท้าจากอาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ไปจนถึงซอยละลายทรัพย์ เพื่อนำเสนอนโยบายการสร้างความปรองดองให้กับประชาชนได้รับทราบ
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนการให้สัมภาษณ์นายชุมพลได้ปิดหน้าอกเสื้อคลุมสีชมพูของพรรคพร้อมกับบอกผู้สื่อข่าวว่า “การเปิดหน้าอกถือว่าเป็นการแสดงให้เห็นว่าเป็นคนโปร่งใสบริสุทธิ์ผุดผ่อง สามารถตรวจสอบได้เลยเพราะเห็นหัวใจตับไตไส้พุง”
นายชุมพลให้สัมภาษณ์ถึงความสัมพันธ์ทางการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์ภายหลังมีการให้สัมภาษณ์โจมตีกันมาตลอดหลายวันว่า เชื่อว่าปัญหาระหว่างพรรคชาติไทยพัฒนาและประชาธิปัตย์คงจะไม่บานปลาย เพราะถือเป็นปกติของการหาเสียงเลือกตั้งที่ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง ทุกฝ่ายต้องการชิงความได้เปรียบขอสะกิดสะกิดหน่อย แต่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาลำหักลำโค่นกัน อย่างที่ปล่อยให้รายการของช่อง 11 มากระแนะกระแหนต่อว่าพรรคชาติไทยพัฒนาตลอดเวลาแบบนี้มันไม่ถูก ทางเราก็กระแนะกระแหนกลับ แต่ไม่มีอะไรอย่างวันก่อนก็ประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมกัน ความสัมพันธ์ระหว่างสองพรรคยังเหมือนเดิมส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ต้องไปว่ากันหลังเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เข้าใจนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเป็นอย่างดี นายชุมพลกล่าวว่า เข้าใจกันดีเพราะที่ผ่านมาก็เป็นพันธมิตรกันอยู่กันตั้งหลายปีและเป็นสภามหาวิทยาลัยศิลปากรร่วมกันมาก่อน เข้าใจกันดีไม่มีอะไร นายอภิสิทธิ์เป็นคนพูดเก่ง ช่างพูด บางครั้งคิดอะไรก็พูดออกไปก็สะท้อนนความบริสุทธิ์ออกมาเหมือนกับตนเองที่ชอบเปิดอกคุย
เมื่อถามว่า ตอนนี้รู้สึกว่าทุกพรรคการเมืองกำลังเปิดอกคุยกันทุกพรรค นายชุมพลกล่าวว่า ทุกคนก็เปิดเหมือนกันแต่ต้องเอกซเรย์ข้างในดูว่ามีอะไรบ้าง พร้อมเปิดกันหมดเพื่อให้เอกซเรย์อยู่ที่ว่าเราจะเอกซเรย์หรือไม่เท่านั้น คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรใหญ่โต ช่วงเวลาในการหาเสียงเลือกตั้งหัวหน้าพรรคบ้าง ลูกพรรคบ้างท่านอาวุโสทางการเมืองบ้างก็มีคำแนะนำที่ดีเพื่อความปรองดองและอนาคตของประเทศไทยต่อไปหลังการเลือกตั้ง ดังนั้น การเลือกตั้งอยากให้มีบรรยากาศการปรองดองเพื่อนำไปสู่ความปรองดองต่อไปโดยอยากให้ทุกฝ่ายทำอย่างจริงจัง
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าใจหรือไม่ว่าพรรคชาติไทยพัฒนาเปลี่ยนขั้วการเมืองไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย นายชุมพลกล่าวว่า เปลี่ยนขั้วกะทันหันไฟจะช็อตเอา ยืนยันเวลานี้ยังอยู่ด้วยกันยังรักกันอยู่ ส่วนเรื่องรัฐบาลก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง คนละเรื่องไม่เกี่ยวข้องกัน บุคคลส่วนบุคคล พรรคก็ส่วนพรรค การร่วมรัฐบาลก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งคนละเรื่องกันต้องแยกให้ออกเป็นทีละขั้นตอนไป
ส่วนที่มีกระแสข่าวออกมาว่าผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทยเข้ามาทาบแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนาให้มาร่วมตั้งรัฐบาลแล้ว นายชุมพลกล่าวว่า จนถึงบัดนี้ยังไม่ได้รับข่าวเลยแต่ถ้าสมาชิกจะไปพูดจาอะไรกันก็คงไม่ทราบ แต่เท่าที่ตนทราบตอนนี้ยังไม่มีเลย ซึ่งทุกคนก็เป็นเพื่อนกันทั้งนั้น อย่างนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็รู้จักกันมาตลอดเพราะนายธวัช พี่ชายเขาก็เป็นเพื่อนกันมาก่อนซี้ย่ำปึ้กกันมาตลอด
ต่อข้อถามว่า ดูเหมือนว่าพรรคชาติไทยพัฒนาให้ข่าวเพื่อต่อรองกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า ไม่มีแน่นอน เป็นการสะท้อนเพื่อแสดงความคิดเห็นเท่านั้นอย่างที่นายบรรหารออกมาพูดก็เป็นแสดงความคิดเห็น ทั้งนี้การจับขั้วรัฐบาลคงต้องรอหลังการเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.ค่อยาหารือกันว่าผลการเลือตั้งจะออกมาเป็นอย่างไรแต่เชื่อว่าต้องเป็นรัฐบาลผสมแน่นอน เพราะระบบสองพรรคการเมืองสำหรับประเทศไทยยังไม่มี เกิดได้ยากระบบนี้ บางพรรคเกิดขึ้นเป็นพรรคเฉพาะกิจพอตัวผู้นำไม่อยู่พรรคก็อาจจะมีอันเป็นไปพอพรรคเกิดขึ้นมาปุ๊บก็หายวับไปกับตา
ด้าน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยเป็นคนกลางประสานในการจัดตั้งรัฐบาลว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการประสานมา กับหัวหน้าพรรคก็ยังไม่มีการพูดคุยกัน เพราะเวลานี้ต่างคนต่างเดินสายหาเสียง จะประชุมกันอีกคครั้งก็วันจันทร์ จึงไม่ทราบว่ามีใครมาทาบทามพรรคบ้าง สำหรับพรรคชาติไทยพัฒนาต้องว่ากันหลังเลือกตั้ง และขณะนี้ต้องขอเสียงสนับสนุนให้มากที่สุดเพื่อทำให้เห็นว่าวคนไทยต้องการปรองดอง
ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้จะมีกลุ่มงูเห่าหรือไม่ พล.ต.สนั่นกล่าวว่า อาจจะมีได้ อยู่ที่ความสามารถของผู้จัดการรัฐบาล เวลานี้ไม่ทราบว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยประสานกันอย่างไร แต่ถ้าแนวทางปรองดองตนพร้อมจะช่วยทุกพรรค ขอให้มีแนวทางที่ชัดเจนว่าหลังเลือกตั้งจะปรองดอง แต่ดูจากการออกรายการของนายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ตัวแทนจากพรรคประชาธิปัตย์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ว่าด้วยการปรองดองถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เริ่มดีขึ้นแล้ว กับพรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่าไม่มีปัญหา
“อยากเรียนว่านายบรรหารเป็นอดีตนายกฯ ท่านก็เป็นคนไทยคนหนึ่งที่สามารถวิพากษ์วิจารณ์อะไรก็ได้ ไม่ใช่ถูกจำกัดสิทธิทางการเมืองจะพูดจาทางการเมืองไม่ได้เลย เป็นสิทธิของคนไทยถ้าไม่พูดเลยก็เป็นใบ้ อดีตผู้ใหญ่ของบ้านเมืองต้องพูดได้ แม้แต่วิจารณ์พรรคโน้นพรรคนี่ก็ต้องได้ แต่ไม่ได้เข้ามาช่วยหาเสียง ตรงนี้ต้องทำใจให้ได้ คนที่ทำอะไรไม่เหมาะสมมีตั้งหลายคนไม่เห็นว่าอะไรเลย”
ผู้สื่อข่าวถามว่าการโต้กันไปมาระหว่างนายบรรหารกับนายอภิสิทธิ์ การรับปากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ พล.ต.สนั่นกล่าวว่า คิดว่าเป็นเรื่องการหยอกเย้ากระเซ้าแหย่กันเท่านั้น ไม่ได้เป็นเรื่องจริงจังอะไร ต้องหนักแน่น ถ้าจะปรองดองก็ต้องหนักแน่น นายอภิสิทธิ์ต้องก้าวข้ามกันบ้าง และให้อภัยกันไป นักการเมืองก็อย่างนี้ เหน็บอะไรกันบ้าง ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต เชื่อว่าสุดท้ายก็จับมือกันได้
ต่อข้อถามว่าดูเหมือนพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ได้รับเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่ง พล.ต.สนั่นกล่าวว่า ทั้งพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยประมาทกันไม่ได้ ต้องรอดูสัปดาห์สุดท้าย