หน.ปชป.พร้อมคณะลงพื้นที่หาเสียงย่านธุรกิจสีลม โดยมีผู้ประกอบการร้านค้าและพนักงานบริษัทเอกชนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น สบโอกาสวางมาดใจดีสู้เสือ คุยทำความเข้าใจเสื้อแดงกลางซอยละลายทรัพย์ ไร้เหตุป่วน
วันนี้ (1 มิ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมายังบริเวณซอยละลายทรัพย์ ถนนสีลม พร้อมด้วยนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้อำนวยการเขตการเลือกตั้ง กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อช่วย น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 2 หาเสียง โดยมีประชาชน ผู้ประกอบการร้านค้าและพนักงานออฟฟิตที่สีลมให้การต้อนรับอย่างหนาแน่น และมอบดอกไม้ให้กำลังใจอย่างคึกคัก
ขณะเดียวกัน ระหว่างที่ทำการเดินหาเสียงอยู่นั้น มีแม่ค้าขายเสื้อผ้าวัยกลางตนรายหนึ่งได้สวมเสื้อยืดสีเลือดหมูมายืนตะโกนร้องเรียนนายอภิสิทธิ์ และได้เตรียมพวงมาลัยดอกดาวเรืองมามอบให้ จากนั้นเมื่อได้พบกับนายอภิสิทธิ์ จึงได้กล่าวให้กำลังใจนายกฯ ในการทำงานเพื่อประเทศ และกล่าวด้วยว่า “แตกต่างได้ แต่อย่าแตกแยก ประเทศเราบอบช้ำมามากพอแล้ว และถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางมาหาเสียงที่นี่ ก็ทำจะการต้อนรับแบบนี้เช่นกัน” จากนั้นช่วงกลางซอยละลายทรัพย์ บริเวณร้านขายเสื้อผ้าเช่นกัน ได้มีหญิงเสื้อแดงสูงวัย 2 คน เข้ามาสอบถามนายอภิสิทธิ์ถึงกรณีสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง โดยหวังว่าถ้ามาเป็นรัฐบาลแล้วจะไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก ซึ่งนายอภิสิทธิ์กล่าวอธิบายด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ได้พยายามทำการเยียวยา แก้ไขปัญหา และพยายามสอบถามว่าที่มาที่ไปทั้งหมดคืออะไร เพราะเราต้องเอาความจริงออกมา และช่วยกันแก้ไข ทั้งนี้ตนก็ติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด และยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้เป็นคนลงมือทำในช่วงเหตุการณ์ดังกล่าว และจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ทั้งนี้ตนเองก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกคน
หญิงเสื้อแดงสูงวัยได้ซักถามต่อการบริหารงานของรัฐบาลในเรื่องของการขายไข่ชั่งกิโลฯ ว่าเป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้บังคับให้ซื้อแบบชั่งกิโลกรัม แต่ขณะนี้มีประชาชนในหลายพื้นที่มีการซื้อไข่ได้ถูกเพราะไม่มีการเสียค่าคัดไข่ และค่าหีบห่อ จัดใส่กล่อง และนำไข่ไปคละกันหมด จึงเปิดโอกาสให้ขายตรงได้ที่ศาลากลางจังหวัด นอกจากนี้ สำหรับเรื่องหนังสือไทยเรดนิวส์ กับวอยซ์ออฟทักษิณ ที่ถูกสั่งปิดนั้น ตนไม่ทราบว่าใครเป็นคนสั่งปิด ต้องไปสอบถามทางเจ้าหน้าที่ เพราะมีบางเรื่องลงตีพิมพ์แล้วผิดกฎหมาย ซึ่งหลังจากนี้ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องคุยกันอีกมาก และตนเองก็ยินดีคุย เพราะตนเองบริสุทธิ์ใจ และทำทุกอย่างเพื่อบ้านเมือง ซึ่งยอมรับอาจมความเห็นไม่ตรงกันหลายเรื่อง เป็นเรื่องธรรมดา เพราะเป็นระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจะห้ามความคิดกันไม่ได้
โดยเมื่อช่วงเช้านายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้อำนวยการการเลือกตั้งกทม.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.เขต 19 หนองจอก เมื่อไปถึงมีผู้สนับสนุนผู้สมัครซึ่งมีทั้งสูงอายุ คนไทยมุสลิมประมาณ 20 คน มายืนชูป้ายรอต้อนรับพร้อมมอบดอกกุหลาบให้เป็นกำลังใจ จากนั้นนายอภิสิทธิ์ได้เดินตระเวนยกมือไหว้เพื่อขอคะแนนกับประชาชนตามร้านค้าข้างทาง โดยแวะไปทักทายพูดคุยกับคุณยายเล็ก ผลวัฒนา อายุ 85 ปี ตาข้างซ้ายมองไม่เห็นเนื่องจากเป็นต้อหิน ซึ่งนั่งรถเข็นมาพบนายอภิสิทธิ์ เมื่อนายอภิสิทธิ์ ได้เข้านั่งไปสัมผัสมือ คุณยายเล็กพยายามเอียงตามองพร้อมกล่าวว่า “ไหนนายกฯ รูปหล่อ ขอให้เป็นนานๆ นะ” นายอภิสิทธิ์ได้แต่ยิ้มและกล่าวเพียงว่า ขอบคุณ ต่อจากนั้นได้เข้าไปยกมือไหว้ขอคะแนนในบริเวณตลาดสด ได้แวะยืนถ่ายรูปกับนักเรียนชาย ม.5 โรงเรียนหนองจอกพิทยานุสสรณ์มัธยม ซึ่งใส่เสื้อกีฬาประจำโรงเรียนโดยคนหนึ่งใส่เสื้อสีแดง อีกคนใส่เสื้อสีเหลืองยืนรอรถไปโรงเรียนอยู่ข้างทาง จากนั้นได้ขึ้นรถหาเสียงตระเวนทักทายประชาชนไปตามถนนเลียบวารี ไปจนถึงโรงเรียนหนองจอกพิทยานุสสรณ์ และได้ลงเดินเข้าไปทักทายเด็กนักเรียนที่ต่างพากันวิ่งกูรเข้ามายืนถ่ายรูปและรุมดูนายกฯ ตัวจริงท่ามกลางเสียงดังลั่น
ผู้สื่อ ข่าวรายงานด้วยว่า การลงพื้นที่เขตหนองจอกครั้งนี้นายอภิสิทธิ์ได้ใช้รถกันกระสุน 2 คัน โดยให้รถเก๋งกันกระสุนบีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 7 รุ่นเก่า สีบรอนเทาของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ทะเบียน ฌพ 7771 ที่ให้ยืมมาใช้ไปส่งที่ตลาดหนองจอก แต่พอขากลับได้ให้รถเบนซ์เอส 600 กันกระสุนทะเบียน ษห 3834 ซึ่งเป็นรถประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปรับเนื่องจากจะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจ ในฐานะนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานสัมมนา “ต่อต้านคอร์รัปชัน จุดเปลี่ยนประเทศไทย” ที่โรงแรมพลาซาแอทธินี