xs
xsm
sm
md
lg

กกต.ปัดข้อเสนอ พท.ตั้งพรรคการเมืองร่วมตรวจนับบัตรเลือกตั้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประพันธ์ นัยโกวิท
กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ยืนยันแผนประชาสัมพันธ์เลือกตั้งล่วงหน้าทั่วถึงทุกสื่อ ปฏิเสธข้อเสนอเพื่อไทยให้แต่งตั้งตัวแทน 57 พรรคการเมือง เป็นกรรมการตรวจนับบัตรเลือกตั้ง กม.ไม่ได้ให้อำนาจ แค่เป็นผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมตรวจสอบทุกกระบวนการ และยอมรับว่าระเบียบ กกต.ต้องขานชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มาใช้สิทธิให้ทราบ

วันนี้ (30 พ.ค.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยร้องเรียนให้ กกต.ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจถึงวันเลือกตั้งล่วงหน้า เพราะขณะนี้ประชาชนยังสับสนกันอยู่ว่า กกต.ประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ไปหลายครั้งแล้ว ทั้งสื่อวิทยุ โทรทัศน์ รวมสื่ออื่นด้วย เช่น หนังสือพิมพ์ต่างๆ และวารสารต่างของ กกต. จึงมั่นใจว่าประชาชนจะทราบและเข้าใจถึงวันเลือกตั้งล่วงหน้า พร้อมกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยขอให้แต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองทั้ง 57 พรรค ไปเป็นกรรมการตรวจนับบัตรเลือกตั้ง เพื่อป้องกันการพิมพ์บัตรเกินนั้นว่า การที่จะให้ กกต.ไปแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองเป็นกรรมการตรวจนับบัตรเลือกตั้งนั้นเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ แต่ได้กำหนดให้สามารถส่งตัวแทนเข้ามาสังเกตการณ์ได้ในทุกขั้นตอนของการดำเนินการจัดการเลือกตั้ง และในวันที่ 31 พ.ค.ก็อยากให้มีตัวแทนพรรคการเมืองมาร่วมกันสังเกตการณ์การพิมพ์เลือกตั้งทั้ง 2 โรงพิมพ์ ที่ กกต.จะพาไปดูกระการการผลิต นอกจากนี้ตัวแทนพรรคการเมืองยังสามารถไปสังเกตการณ์ที่หน่วยเลือกตั้งได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงการไปเฝ้าหีบบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าด้วย และอยากให้ไปช่วยดูตั้งแต่กระบวนการการส่งบัตร และหีบบัตรเลือกตั้งเลย

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยร้องว่า กกต.มีระเบียบในเรื่องของกรรมการประจำหน่วย จะต้องขานชื่อผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งด้วยเสียงดังๆ ทุกครั้งนั้น นายประพันธ์กล่าวยอมรับว่า ระเบียบของ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ก็ได้กำหนดไว้ให้กรรมการประจำหน่วยขานชื่อผู้มีสิทธิมาใช้สิทธิดังๆ ซึ่งได้มีการกำชับตลอดเวลาอยู่แล้ว ที่การเลือกตั้งผ่านๆ ยังมีหน่วยเลือกตั้งที่ไม่ขานชื่อผู้มาใช้สิทธิ อาจจะเป็นช่องให้ถูกร้องเรียน ดังนั้นเรื่องนี้กกต.จะมีการกำชับกับกรรมการประจำหน่วยเป็นพิเศษ และจะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงกระบวนการเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างกรรมการประจำหน่วยและผู้มาใช้สิทธิ หรืออาจทำให้เกิดการร้องเรียนขึ้นมาอีกได้ ส่วนเรื่องการตั้งคณะอนุกรรมการฯขึ้นมาเพื่อช่วยตรวจนับคะแนนบัตรเลือกตั้งนั้น ตามกฎหมายไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ดำเนินการนับคะแนนได้ นอกจากนี้การคำสั่งการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯขึ้นมานอกเหนือจากกรรมการประจำหน่วยที่เรากำหนดไว้ทำหน้าที่ 9 คนไม่ได้

โดยก่อนหน้านี้ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อขอให้ กกต.ออกมาตรการในการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจกฎเกณฑ์และวิธีการในการขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด ซึ่งต้องลงทะเบียนขอใช้สิทธิภายในวันที่ 2 มิ.ย.54 ส่วนผู้ที่จะใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้งของตนเองจะต้องลงทะเบียนขอใช้สิทธิภายในวันที่ 13-17 มิ.ย.54 ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในเวลานี้ คือ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 2.1 ล้านคนที่เคยลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดไว้ครั้งก่อน หากยังไม่มีการแจ้งแก้ไขเปลี่ยนแปลงก็จะต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งกลางในจังหวัดที่ตนได้ลงทะเบียนไว้ และต้องไปใช้สิทธิลงคะแนนในวันที่ 26 มิ.ย.เท่านั้น และหากผู้นั้นย้ายกลับภูมิลำเนาเดิม จะต้องไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค.ต้องเร่งแจ้งขอถอนสิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าและแจ้งเปลี่ยนแปลงภายในวันที่ 2 มิ.ย.นี้ ซึ่งเรื่องนี้ผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งยังไม่ทราบถึงข้อกำหนดและระเบียบดังกล่าว จึงขอให้กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง นำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณาและดำเนินการเป็นการเร่งด่วนเพื่อรักษาสิทธิ์ในการลงคะแนนของประชาชน

โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวด้วยว่า ขอเรียกร้องให้ กกต.ตั้งตัวแทนพรรคการเมืองทุกพรรค เข้าเป็นกรรมการตรวจนับจำนวนบัตรเลือกตั้ง เพื่อป้องกันการพิมพ์บัตรเกินกว่าจำนวน โดยตั้งเป็นกรรมการร่วมตรวจสอบ ไม่ใช่เป็นเพียงการเข้าไปสังกตุการณ์อย่างที่ กกต.ทำอยู่

ด้าน พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวว่า ขอทวงถาม กกต.กรณีการใช้บัตรเหลืองมาใช้แทนบัตรประชาชนในการลงคะแนน ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าบัตรเหลืองสามารถปลอมแปลงได้ง่าย จึงเห็นว่าควรใช้บัตรอื่นๆ ที่ทางราชการออกให้ร่วมกับบัตรเหลืองด้วย โดยขอให้กกต.ออกเป็นกฎหมายเพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและมีความชัดเจน นอกจากนี้ ตนได้รับทราบมาว่ากกต.จังหวัดนคราชสีมา และ กกต.จังหวัดสตูล กำลังจะจัดตั้งหน่วยเลือกตั้งกลาง หรือกรรมการอื่นมาเป็นผู้รวมคะแนน อีกหนึ่งชุดก่อนที่จะให้กองอำนวยการเขตเลือกตั้งส่งผลคะแนนไปยังกกต.จังหวัด ทั้งนี้มีการแต่งตั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดมาดำเนินการด้วย สิ่งที่ตนกังวลคือ หากมีการใช้อนุกรรมการชุดนี้ จะทำให้เกิดการบิดเบือนตัวเลขในการนับคะแนน

พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวว่า อยากขอร้องให้ กกต.เข้มงวดกวดขันในเรื่องระเบียบการเลือกตั้งภายในหน่วยเลือกตั้ง เมื่อมีผู้มาแสดงบัตรเพื่อรับบัตรเลือกตั้ง ซึ่งระเบียบ กกต.ระบุว่าต้องขานชื่อผู้แสดงสิทธิเลือกตั้งด้วยเสียงดัง หรือติดเครื่องขยายเสียง แต่เท่าที่สอบถามทั่วประเทศกลับไม่มี ดังนั้นจึงเห็นว่าเป็นช่องว่างให้ผู้ที่จะมาสวมสิทธิหรือไม่ เพราะการขานชื่อจะทำให้ประชาชนรับรู้ได้ว่าผู้มาใช้สิทธิตรงกับรายชื่อผู้มาใช้สิทธิหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น